ใครกันที่โง่กว่า
อย่าดูถูก ใครเขา ว่าโง่เง่า
ให้ดูเรา ว่าดี หรือเหลวไหล
สร้างตนเอง ให้ดี เป็นหลักชัย
ให้ฤทัย สงบ พบธรรมา
ดินให้แน่น น้ำใจหนัก ด้วยสัตย์ซื่อ
น้ำให้ดื่ม เติมด้วยรัก ถักสัมพันธ์
ไฟให้แรง เสริมให้ร้อน ต่อให้เต็ม
ลมให้เร็ว ใจให้กล้า ก้าวเดินไป ฯ
ท่านผู้อ่านที่รัก
วันนี้มีคำถามว่า สักวันหนึ่ง เราคงจะไม่มีอะไรสักอย่างเลย ถึงวันนั้น เราทำใจได้ไหม ?
เราอย่าเข้าใจว่า มีความทุกข์มากกว่าคนอื่น คนอื่นมีความทุกข์มากกว่าเราก็ยังมี เราทุกคนต่างมีความทุกข์ มีความสุข มีเรื่องสบายใจ ไม่สบายใจกันเป็นธรรมดา
แม้แต่ตัวของเราเองก็ยังไม่ได้ดังใจเรา แล้วคนอื่นจะให้ได้ดังใจเรานั้น เป็นอันไม่มี
เพราะฉะนั้น เวลาเรามีความทุกข์ ก็อย่าเข้าใจว่า เรามีความทุกข์ เวลาเรามีความสุข ก็อย่าเข้าใจว่า เรามีความสุข ไม่เช่นนั้นเราต้องเป็นคนบ้า ร้องไห้บ้าง ร้องเพลงบ้าง ตามประสาคนบ้า
คนอื่นจะให้ได้ดังใจเรานั้น ทุกอย่างไม่มีเลย เพียงแต่เรายอมรับเขา อยู่ในฐานะใดฐานะหนึ่งเท่านั้น
ท่านผู้อ่านที่รัก
ทุกเรื่องราวมีที่มาที่ไป มีเรื่องให้ต้องขบคิด มีสิ่งให้มองทั้งด้านดี และด้านไม่ดี เพื่อนำมาประดับปัญญาให้เรืองรอง ดั่งเรื่องราวต่อไปนี้
ชายหนุ่มคนหนึ่ง เพิ่งซื้อรถม้าใหม่เอี่ยมพร้อมทั้งม้าคู่ใหม่มา เขาต้องการทดสอบรถม้าใหม่ของเขา จึงลองขับเร็วบ้างช้าบ้างไปมา เขาขับจนเพลินถึงกับออกไปนอกตัวเมือง เพราะมัวเพลินกับรถจนลืมสังเกตถนนและทิศทางเสียสนิท
ในที่สุดจึงรู้ว่าตัวเองหลงทาง หาทางกลับอย่างไรก็ไม่เจอ ยิ่งหาก็ยิ่งหลงไปไกล เขาจึงคิดหาทางกลับบ้านก่อนทำสิ่งอื่นใด เมื่อเวลาจวนค่ำ เขาจึงได้พบเด็กชาวชนบทคนหนึ่งที่กำลังใช้จอบขุดดินอยู่ในไร่ฝ้าย ด้วยความดีใจเขาได้ส่งเสียงทักทายว่า
“สวัสดีเจ้าเด็กน้อย”
“สวัสดีท่านผู้ใหญ่” เด็กน้อยตอบอย่างฉะฉาน
“ขอถามหน่อยเถอะ! ถนนนี้ไปไหน ?”
“ก็ไม่เห็นมันไปไหน มันก็อยู่ของมันอย่างนี้ตลอด” เด็กชาวชนบทตอบขณะที่ขุดดินไปเรื่อยๆ
พอได้ฟังคำตอบของเด็กชายตัวน้อย ชายหนุ่มผู้ต้องการหาทางกลับบ้านก็เริ่มยั๊ว ไม่พอใจที่เด็กน้อยกล่าวตอบเช่นนี้ แต่ก็ต้องสงบใจให้เย็นลงเดี๋ยวหาทางกลับบ้านไม่ถูก
“จากที่นี่ไปเมืองข้างหน้าระยะทางเท่าไร ?”
“ไม่รู้ ไม่เคยวัดดูสักที” เด็กตอบหน้าตาเฉย
พอมาถึงขั้นนี้ สุภาพบุรุษของเราเบรคแตก กลั้นไม่อยู่แล้วในความยียวนกวนบาทาของเด็กน้อย เขาจึงโพล่งออกไปว่า
“ไม่เห็นรู้อะไรสักอย่าง แกเป็นคนโง่เง่าที่สุดที่ฉันเคยเห็นมา”
เด็กน้อยจ้องหน้าสุภาพบุรุษชาวเมืองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยเสียงอันหนักแน่นว่า
“จริงของน้า ผมไม่รู้อะไรเลย ผมเป็นคนโง่ แต่ผมก็ไม่หลงทางเหมือนคนฉลาดบางคน”
หลายชีวิต เดินสวนทางกันไปมาอยู่ในขณะนี้ มีทางดำเนินชีวิตไม่เหมือน และก็มีอุปสรรคที่ไม่เหมือนกัน
เราพยายามที่จะเข้าใจคนอื่น มากกว่าที่จะให้คนอื่นมาเข้าใจ ตอนนี้ เรากำลังจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ท่านผู้อ่านที่เคารพ
ถ้าหากเราอยากให้คนอื่นมาเข้าใจ หรือเอาใจในตัวเรา เหมือนกับว่าเรายังเป็นเด็กไร้เดียงสาไม่รู้จักเติบโตเลย สิ่งที่จะทำให้เราเติบโตได้เร็ว คือ การขัดใจตัวเอง ก็คือการขัดเกลาหนทางให้ราบเรียบ
การตามใจตัวเองอยู่เสมอ เป็นทางตันในการดำเนินชีวิต เพราะฉะนั้นคนเราเจอทั้งสุขและทุกข์ เพราะว่าทำทั้งดี ทำทั้งชั่ว
ชีวิตที่ไม่ขาดทุน คือ การไม่เคยทำความชั่วเลย
ชีวิตที่เติบโตได้เร็ว คือ การรู้จักฝืนใจตนเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น