#สังคหวัตถุธรรม ๔ ประการ#
๒๖๗.
ทานํ อตฺถจริยา ปิย-, วาจา อตฺตสมํปิ จ;
สงฺคหา จตุโร อิเม, มุนินฺเทน ปกาสิตา ฯ
@ ธรรมเป็นเครื่องสงเคราะห์ ๔ ประการ เหล่านี้ คือ
การแบ่งปัน ๑ การประพฤติสิ่งที่เป็นประโยชน์ ๑
การเจรจาน่ารัก ๑ และ ความไม่ถือตัว ๑
อันพระผู้มีพระภาคผู้เป็นจอมแห่งมุนีได้ตรัสไว้แล้ว.
(#ธัมมนีติ ๒๖๗, #กวิทัปปณนีติ ๒๕๒, #นรทักขทีปนี ๑๔๑)
__________________________
อีกสำนวนหนึ่งจาก โลกนีติไตรพากย์ (พากย์ธัมมนีติ) ของ เสฐียรโกเศศ-นาคประทีป ท่านแปลไว้น่าฟัง ดังนี้
@ การเผื่อแผ่ ๑ ประพฤติประโยชน์ ๑ วาจาน่ารัก ๑
ความมีตนเสมอไม่ถือตัว ๑ ธรรม ๔ เหล่านี้แล
เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว(โลกไว้) อันพระจอมปราชญ์
ประกาศแล้ว ฯ
_________________________
ศัพท์น่ารู้ :
#ทานํ (การให้ปัน) ทาน+สิ นป.
#อตฺถจริยา (การประพฤติประโยชน์) อตฺถ+จริยา > อตฺถจริยา+สิ อิต.
#ปิยวาจา (เจรจาวาจาเป็นอ่อนหวาน, พูดคำที่ไพเราะ, วาจาเป็นที่รัก, -น่ารัก) ปิย+วาจา > ปิยวาจา+สิ อิต.
#อตฺตสมํปิ ตัดบทเป็น อตฺตสมํ+อปิ (แม้ความเป็นผู้มีตนเสมอ, -เสมอแห่งตน?) อตฺต+สม > อตฺตสม+สิ นป.
#สงฺคหา (การสงเคราะห์ ธรรมเป็นเครื่องสงเคราะห์ ท.) สงฺคห+โย
#จตุโร (สี่) จตุ+โย สังขยาสัพพนาม
#อิเม (เหล่านี้) อิม+โย สัพพนาม
#มุนินฺเทน (อันพระผู้เป็นจอมแห่งพระมุนี, อันพระพุทธเจ้า) มุนิ+อินฺท > มุนินฺท+นา
#ปกาสิตา: (ประกาศแล้ว, กล่าวแล้ว, ตรัสไว้แล้ว) ป+√กาส+อิ+ต > ปกาสิต+โย
คาถานี้เข้าใจว่า เป็นคาถาที่ท่านโบราณาจารย์แต่งขึ้น เป็นบทขัด สังคหวัตถุธรรม ๔ ประการ ก็อาจเป็นได้ เพราะมีคำว่า มุนินฺเทน ปกาสิตา ซึ่งแปลว่า อันพระจอมมุนีได้ตรัสไว้แล้ว.
ส่วนสังหควัตถุธรรม ที่มาในพระบาฬี องฺ. จตุกฺก. ๒๑/๓๒, และ ขุ. ชา. ๒๘/๑๖๒ มีข้อความ ดังนี้.
#ทานญฺจ เปยฺยวชฺชญฺจ, อตฺถจริยา จ ยา อิธ;
สมานตฺตตา จ ธมฺเมสุ, ตตฺถ ตตฺถ ยถารหํ;
เอเต โข สงฺคหา โลเก, รถสฺสาณีว ยายโตฯ
@ การให้ ๑ ความเป็นผู้มีวาจาน่ารัก ๑
ความประพฤติประโยชน์ในโลกนี้ ๑
ความเป็นผู้มีตนสม่ำเสมอในธรรมนั้นๆ ตามสมควร ๑
ธรรมเหล่านั้นแล เป็นเครื่องสงเคราะห์โลก
ประดุจสลักเพลาควบคุมรถที่แล่นไปอยู่ไว้ได้ ฉะนั้น.
และทรงตรัสบอกถึงโทษและอานิสงส์แก่ผู้ประพฤติตามสังคหวัตถุธรรมทั้ง ๔ ประการไว้ว่า
#เอเต จ สงฺคหา นาสฺสุ, น มาตา ปุตฺตการณา;
ลเภถ มานํ ปูชํ วา, ปิตา วา ปุตฺตการณา ฯ
#ยสฺมา จ สงฺคหา เอเต, สมเวกฺขนฺติ ปณฺฑิตา;
ตสฺมา มหตฺตํ ปปฺโปนฺติ, ปาสํสา จ ภวนฺติ เต ฯ
@ ถ้าธรรมเครื่องสงเคราะห์เหล่านี้ ไม่พึงมีไซร์
มารดาหรือบิดาไม่พึงได้ความนับถือหรือบูชา
เพราะเหตุแห่งบุตร.
ก็เพราะเหตุที่ บัณฑิตพิจารณาเห็นธรรมเครื่องสงเคราะห์เหล่านี้
ฉะนั้น พวกเขาจึงถึงความเป็นใหญ่ และเป็นที่นาสรรเสริญ.
_____________________
CR: ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต FB
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น