Daniel ได้ยินดังนั้นจึงหัวเราะขึ้นว่า "แค่มดตัวเดียว ทำไมต้องนำทางให้มันด้วย?"
เด็กชายตอบเขาอย่างตั้งใจว่า "มดตัวนี้กำลังหลงทางกับเพื่อนๆ
มันเดินกลับเองไม่เป็น ฉันจะนำทางให้มันไปถึงฝูงมด ถ้าทำได้มันก็จะรอด"
Daniel จึงสังเกตได้ว่าเด็กน้อยกำลังใช้ใบหญ้าเขี่ยให้มดเดินกลับไปยังฝูง
เด็กชายทำอย่างตั้งใจ ไม่นานมดตัวนั้นก็เดินกลับไปถึงฝูงของมัน
มดตัวนั้นใช้หนวดของมันทักทายกับเพื่อนๆของมันอย่างตื่นเต้นดีใจ
Daniel จึงชมเชยที่เด็กชายจิตใจดีมีเมตตาว่า "ขอบใจนะเจ้าหนู ที่ทำให้มดที่หลงทางกลับไปที่ฝูงของมันได้"
เด็กชายจึงแหงนหน้าขึ้นมอง Daniel กระพริบตาแล้วยิ้มอย่างดีใจ รอยยิ้มนั้นทำให้ Daniel ไม่เคยลืมได้เลย!
ที่จริงแล้ว Daniel เป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังในอเมริกา เขาประทับใจมากที่ได้เห็นเด็กชายนำทางให้มด เขาก็อยากทำให้มดที่หลงทางได้กลับไปยังบ้านของมัน ให้พวกมดไม่ต้องสับสนหรือตกใจอีกต่อไป เขาคิดว่านี่คือการทำความดีอย่างหนึ่ง
มาวันหนึ่งเมื่อ Daniel ไปถึงบริษัท จู่ๆก็มีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังขวางทางเขาอยู่ ผู้หญิงคนนั้นพาเด็กมาด้วย เธอร้องไห้และพูดว่า "คุณ Daniel ช่วยสงสารฉันกับลูกเถอะ สามีฉันป่วยตาย ฉันก็ตกงาน ตอนนี้ฉันกับลูกกำลังลำบากมาก"
Daniel ได้ยินแล้วก็สงสารเธอ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาอาจจะรีบควักเงินให้เธอ แต่วันนี้เขาไม่ได้ทำแบบนั้น เขาถามเธอว่าเธอเคยทำงานอะไรมา?
เธอยังคงร้องไห้และตอบว่า "ฉันเคยทำงานการเงินมาก่อน"
Daniel ได้ยินดังนั้นจึงพูดว่า "เดี๋ยวผมจะให้คุณเข้าสัมภาษณ์กับแผนกการเงินที่นี่ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ทำงานได้เลย และผมอนุญาตให้คุณเบิกเงินเดือนล่วงหน้า 3 เดือน" เธอได้ยินแล้วก็ยิ้มอย่างมีความหวัง เธอขอบคุณ Daniel อยู่หลายครั้ง
ปีถัดมา Susan ได้ขึ้นเป็นผู้จัดการแผนกการเงินที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ เธอมีความสามารถและมีความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ Daniel ยอมรับและชอบเธอมาก Susan เข้าร่วมงานเลี้ยงของบริษัทและพูดกับ Daniel ว่า "ขอบคุณ Daniel ที่นำทางให้แก่ฉัน ทำให้ฉันได้ศักดิ์ศรีความเป็นคนกลับคืนมา"
Daniel หัวเราะและพูดว่า "Susan คุณไม่ต้องขอบคุณผมหรอก นี่เป็นเพราะความสามารถและความตั้งใจของคุณต่างหากล่ะ และนี่ก็สิ่งตอบแทน" Susan ยิ้มหวานอย่างเขินๆ จุดเริ่มต้นความรักก็คือการนำทางให้กัน จุดสูงสุดของการทำดีนั้นไม่ใช่การให้ แต่คือการนำทาง!