วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560

คนขับรถของ "หลี่เจียเฉิง" หรือ ชื่อที่รู้จักในแวดวงธุรกิจทั่วโลกว่า ลีกาชิง ขับรถให้เขามากว่า 30 ปี และจะขอลาออก "หลี่" เห็นว่าเขาทำงานด้วยความตั้งใจ และสัตย์ซื่อ จึงจ่ายเช็คจำนวน 2 ล้าน ให้เขา เพื่อใช้ในชีวิตบั้นปลาย คนขับรถบอกว่า ไม่ต้องหรอก เงิน 10-20 ล้าน ท่านได้สอนวิธีทำเงินให้ผมมาแล้ว และผมก็สามารถหาได้ "หลี่" ประหลาดใจมาก จึงถามว่า คุณทำงานเงินเดือนๆ ละ 2 หมื่น ทำไมจึงมีเงินสะสมมากมายเช่นนี้ คนขับรถตอบว่า ขณะที่ผมขับรถให้ท่าน ท่านนั่งอยู่ด้านหลัง โทรศัพท์พูดคุยกับผู้อื่นว่า ซื้อที่ดินย่านไหน ผมก็ทำตามท่าน ไปซื้อไว้บ้างเล็กน้อย ท่านพูดว่า จะไปซื้อหุ้นตัวไหน ผมก็ทำตามท่าน ไปซื้อบ้างนิดหน่อย จนถึงวันนี้ ผมจึงพอมีทรัพย์สินอยู่จำนวนหนึ่ง 10 ล้าน 20 ล้านนี่แหละครับ "คุณจะเป็นใครไม่สำคัญ แต่คุณอยู่กับใคร เรียนรู้กับใคร นั่นต่างหากที่สำคัญกว่า" อยู่กับล้าน จะได้ล้าน อยู่กับสิบล้าน จะได้สิบล้าน อยู่กับร้อยล้าน จะได้ร้อยล้าน ฟางข้าวต้นหนึ่ง ไม่มีค่า เมื่อใช้มัด ผักกาดขาว นั่นคือ ราคาของผักกาดขาว แต่เมื่อใช้มัด ตัวปูใหญ่ ก็จะเป็น ราคาของปูใหญ่ ตามแมลงวัน ก็จะใกล้ห้องสุขา ตามผึ้ง ก็จะหาน้ำหวานจากดอกไม้ อยู่กับคนที่คิดลบ ชีวิตคุณก็จะติดลบขาดทุน อยู่กับคนที่คิดบวก ชีวิตจะได้กำไรบวกเพิ่ม อยู่กับคนดีคุณก็จะมีความคิดที่ดี อยู่กับคนเลวคุณก็จะมีความคิดที่เลว ปล.อย่าหลอกตัวเองนะครับ " อ่านแล้วส่งต่อให้คนที่คุณรักได้อ่านด้วยนะครับ "

คนขับรถของ "หลี่เจียเฉิง" หรือ ชื่อที่รู้จักในแวดวงธุรกิจทั่วโลกว่า ลีกาชิง ขับรถให้เขามากว่า 30 ปี และจะขอลาออก "หลี่" เห็นว่าเขาทำงานด้วยความตั้งใจ และสัตย์ซื่อ จึงจ่ายเช็คจำนวน 2 ล้าน ให้เขา เพื่อใช้ในชีวิตบั้นปลาย

คนขับรถบอกว่า ไม่ต้องหรอก เงิน 10-20 ล้าน ท่านได้สอนวิธีทำเงินให้ผมมาแล้ว และผมก็สามารถหาได้

"หลี่" ประหลาดใจมาก จึงถามว่า คุณทำงานเงินเดือนๆ ละ 2 หมื่น ทำไมจึงมีเงินสะสมมากมายเช่นนี้

คนขับรถตอบว่า ขณะที่ผมขับรถให้ท่าน ท่านนั่งอยู่ด้านหลัง โทรศัพท์พูดคุยกับผู้อื่นว่า ซื้อที่ดินย่านไหน ผมก็ทำตามท่าน ไปซื้อไว้บ้างเล็กน้อย ท่านพูดว่า จะไปซื้อหุ้นตัวไหน ผมก็ทำตามท่าน ไปซื้อบ้างนิดหน่อย จนถึงวันนี้ ผมจึงพอมีทรัพย์สินอยู่จำนวนหนึ่ง 10 ล้าน 20 ล้านนี่แหละครับ

"คุณจะเป็นใครไม่สำคัญ แต่คุณอยู่กับใคร เรียนรู้กับใคร นั่นต่างหากที่สำคัญกว่า"

อยู่กับล้าน จะได้ล้าน
อยู่กับสิบล้าน จะได้สิบล้าน
อยู่กับร้อยล้าน จะได้ร้อยล้าน

ฟางข้าวต้นหนึ่ง ไม่มีค่า
เมื่อใช้มัด ผักกาดขาว
นั่นคือ ราคาของผักกาดขาว
แต่เมื่อใช้มัด ตัวปูใหญ่
ก็จะเป็น ราคาของปูใหญ่

ตามแมลงวัน ก็จะใกล้ห้องสุขา
ตามผึ้ง ก็จะหาน้ำหวานจากดอกไม้
อยู่กับคนที่คิดลบ ชีวิตคุณก็จะติดลบขาดทุน
อยู่กับคนที่คิดบวก ชีวิตจะได้กำไรบวกเพิ่ม
อยู่กับคนดีคุณก็จะมีความคิดที่ดี   
อยู่กับคนเลวคุณก็จะมีความคิดที่เลว  
ปล.อย่าหลอกตัวเองนะครับ

" อ่านแล้วส่งต่อให้คนที่คุณรักได้อ่านด้วยนะครับ "

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2560

ความสุขคืออะไร ? มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ได้แนะนำ การสร้างนิสัยแห่งความสุข 20 ประการ ปี 2016 ไว้ .. 1. Be Grateful ..สำนึกบุญคุณคนที่ดีต่อเรา 2. Choose Your Friends Wisely ..เลือกเพื่อนอย่างชาญฉลาด 3. Cultivate Compassion .. ให้ความเห็นอกเห็นใจ แก่คนอื่น 4. Keep Learning ..หมั่นเรียนรู้ 5. Become a Problem Solver .. เป็นผู้แก้ปัญหาได้ 6. Do What You Love ..ทำในสิ่งที่คุณรัก 7. Live in the Present ..อยู่กับปัจจุบัน 8. Laugh often ..หัวเราะบ่อยๆ 9. Practice Forgiveness ..ฝึกการให้อภัย 10. Say Thanks often ..กล่าวขอบคุณเสมอ 11. Create Deeper Connections ..สร้างความสัมพันธ์ลึกล้ำ 12. Keep Your Agreement ..รักษาสัญญา คำพูด 13. Meditate ..ทำสมาธิ 14. Focus on What You're Doing ..ตั้งมั่นในสิ่งที่กำลังทำ 15. Be Optimistic ..มองโลกในแง่ดี 16. Love Unconditionally ..รักอย่างไม่มีเงื่อนไข 17. Don't Give up ..อย่ายอมแพ้ 18. Do Your Best and then Let it Go ..ทำดีที่สุดแล้วอย่ายึดติด 19. Take Care of Yourself ..ดูแลตัวเอง 20. Give back to society ..ตอบแทนสังคม ส่งต่อให้เพื่อนที่คุณรัก ... Cr : Anny'a

ความสุขคืออะไร ?
มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด
ได้แนะนำ
การสร้างนิสัยแห่งความสุข
20 ประการ ปี 2016 ไว้ ..

1. Be Grateful
..สำนึกบุญคุณคนที่ดีต่อเรา

2. Choose Your Friends Wisely
..เลือกเพื่อนอย่างชาญฉลาด

3. Cultivate Compassion
.. ให้ความเห็นอกเห็นใจ แก่คนอื่น

4. Keep Learning
..หมั่นเรียนรู้

5. Become a Problem Solver
.. เป็นผู้แก้ปัญหาได้

6. Do What You Love
..ทำในสิ่งที่คุณรัก

7. Live in the Present
..อยู่กับปัจจุบัน

8. Laugh often
..หัวเราะบ่อยๆ

9. Practice Forgiveness
..ฝึกการให้อภัย

10. Say Thanks often
..กล่าวขอบคุณเสมอ

11. Create Deeper Connections
..สร้างความสัมพันธ์ลึกล้ำ

12. Keep Your Agreement
..รักษาสัญญา คำพูด

13. Meditate
..ทำสมาธิ

14. Focus on What You're Doing
..ตั้งมั่นในสิ่งที่กำลังทำ

15. Be Optimistic
..มองโลกในแง่ดี

16. Love Unconditionally
..รักอย่างไม่มีเงื่อนไข

17. Don't Give up
..อย่ายอมแพ้

18. Do Your Best and then Let it Go
..ทำดีที่สุดแล้วอย่ายึดติด

19. Take Care of Yourself
..ดูแลตัวเอง

20. Give back to society
..ตอบแทนสังคม

ส่งต่อให้เพื่อนที่คุณรัก ...

Cr : Anny'a

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2560

= เธอมีศรัทธาในหมาบ้าตัวหนึ่ง = . ------------------------------------------- . ว่ากันว่าถ้า Conor McGregor ไม่มีเมียอย่าง Dee Devlin ป่านนี้หมอนี่คงตายเหมือนหมาข้างถนนไปแล้ว เพราะเขาค่อนข้างเลือดร้อนเหลือเกิน เป็นนักเลงไอริชขนานแท้แม่ให้มา เรียกได้ว่าเรื่องชกต่อยขอให้บอก ในคลับในบาร์หรือแม้กระทั่งข้างถนน ชนได้เป็นชน . แต่ทุกครั้งก็ได้แฟนอย่าง Dee Devlin นี่แหละที่คอยตามประกบ คอยห้ามปรามโดดขวางตีนให้ผัว แล้วลากคอผัวออกมาจากที่เกิดเหตุ เป็นอยู่บ่อยครั้งจนชาชิน แต่เธอก็ยังไม่ไปไหนเพราะรักและห่วงใยเขา . ........................................ . พูดถึงตอนแรกที่คบกันนั้น เขาไม่ได้หวังจริงจังกับเธอเลย เธอมีสถานะแค่มาให้เขาปอกลอก ไถเงินไปวันๆ งานการไม่ทำก็ได้ เอาความฝันลมๆแล้งๆว่าจะเป็นแชมป์มวยให้ได้มาหลอกล่อ แต่กลับกลายเป็นว่ามันได้สร้างศรัทธาให้ผู้หญิงคนหนึ่งอย่างเปี่ยมล้น และพร้อมจะยืนเคียงข้างเขาตลอดไป . นั่นเองที่ทำให้เขาเริ่มหันมามองเธอเสียใหม่ ในฐานะคู่ชีวิต ไม่ใช่สาวที่มาให้เขาปอกลอกอีกต่อไป ไม่มีใครรับมือความเลือดร้อนเขาได้ดีเท่าเธออีกแล้ว เหมือนเธอคือน้ำที่มาคอยดับไฟของเขา และมันคือจุดเริ่มต้นที่เขาจะหันมาเอาจริงเอาจังกับการชกมวยMMAเสียที . แต่ทว่ามันกลับไม่ง่ายเลย เพราะจะเป็นนักมวยได้มันต้องมีทุน ไม่ว่าจะเป็นค่ายิม ค่าเทรนเนอร์ ค่าอาหารเสริมต่างๆ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้น Dee Devlin ขออาสาแบกมันไว้บนบ่าเอง เธอต้องการเพียงแค่ให้เขาจริงจังกับมันแค่นั้น . ........................................ . Dee ทำงานหลายอย่างในขณะที่ Conor ฝึกมวยอย่างหนักหน่วง ทั้งสองมีรายได้จากงานจับฉ่ายของเธอ และเบี้ยคนว่างงานของเขา พวกเขาต้องประหยัด บางมื้อเธอหลอกเขาว่ากินอิ่มแล้ว ทั้งที่ท้องว่าง เพราะกลัวว่าเขาจะไม่มีอาหารเสริมกล้ามเนื้อกิน . ญาติสนิทมิตรสหายต่างไร้ศรัทธาในตัวเขา แต่เธอมองเห็นมัน ผู้คนต่างพร่ำกระซิบว่าคนเลือดร้อนอย่างไอ้หมอนี่ปล่อยให้มันไปฝึกมวยอีกก็คงไปกันยกใหญ่ มีหวังได้มีคนตายกันไปข้าง แต่เธอบอกว่า มวย นี่แหละคือสิ่งที่จะหยุดความระห่ำของ Conor ได้ดีที่สุด เพราะการฝึกมวยมันต้องใช้วินัย และความอดทนอดกลั้น . 8 ปี ที่พวกเขาอดทนกันมา 8 ปีแห่งความลำบาก แต่มันแลกกับการที่เธอได้ Conor คนใหม่ที่มีความสุขุมใจเย็นลง วันที่เขาคว้าแชมป์ Mixed martial art รุ่น Featherweight ได้นั้น Dee โผเข้ากอด Conor บนเวที พวกเขาใช้เวลาบนนั้นนานมาก พวกเขาร้องไห้ให้กันและกัน ไม่ค่อยมีใครรู้ถึงความลำบากของพวกเขาหรอก แต่เขารับรู้มันแค่สองคนว่ากว่าจะมีวันนี้ได้มันลำบากสาหัสแค่ไหน และวันนี้มันจบลงแล้วจริงๆ เขาเป็นแชมป์ที่ไม่ใช่แค่ไอ้ขี้เมาหมัดหนักในผับในบาร์อีกต่อไป เขาคือแชมป์ MMA . ........................................ . สถิติชกสวยหรูของเขา 24 ครั้ง ชนะน็อคถึง 18 ครั้ง คู่ต่อสู้ยอมแพ้ 1 ครั้ง ชนะคะแนน 2 ครั้ง แพ้ 3 ครั้ง ทำให้เขาคือแชมป์ MMA ที่มีรายได้มากที่สุดคนหนึ่งของ UFC ทุกความสำเร็จเขามอบมันให้ Dee ครึ่งหนึ่ง . และถึงแม้ว่าเขาจะมีเงินทองมากมาย พร้อมสาวๆรุมล้อมรอบกายเขา แต่สิ่งที่เขาต้องการที่สุดคืออ้อมกอดของ Dee เท่านั้น เธอเคยบอกเสมอว่า . " เวลาเขาแพ้ ฉันจะกอดเขาไว้นานและแน่นกว่าตอนเขาชนะเสียอีก " . และเรื่องราวทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของโฉมงามที่มีศรัทธาในหมาบ้าตัวหนึ่ง . ........................................... . นี่คือคลิปของพวกเขา https://www.youtube.com/watch?v=lIOHk3uTxOA . ----------------------------------------- www.sungsunclub.com : Thai night Society ติดต่อโฆษณา Line @sungsunclub

= เธอมีศรัทธาในหมาบ้าตัวหนึ่ง =
.
-------------------------------------------
.
ว่ากันว่าถ้า Conor McGregor ไม่มีเมียอย่าง Dee Devlin ป่านนี้หมอนี่คงตายเหมือนหมาข้างถนนไปแล้ว เพราะเขาค่อนข้างเลือดร้อนเหลือเกิน เป็นนักเลงไอริชขนานแท้แม่ให้มา เรียกได้ว่าเรื่องชกต่อยขอให้บอก ในคลับในบาร์หรือแม้กระทั่งข้างถนน ชนได้เป็นชน
.
แต่ทุกครั้งก็ได้แฟนอย่าง Dee Devlin นี่แหละที่คอยตามประกบ คอยห้ามปรามโดดขวางตีนให้ผัว แล้วลากคอผัวออกมาจากที่เกิดเหตุ เป็นอยู่บ่อยครั้งจนชาชิน แต่เธอก็ยังไม่ไปไหนเพราะรักและห่วงใยเขา
.
........................................
.
พูดถึงตอนแรกที่คบกันนั้น เขาไม่ได้หวังจริงจังกับเธอเลย เธอมีสถานะแค่มาให้เขาปอกลอก ไถเงินไปวันๆ งานการไม่ทำก็ได้ เอาความฝันลมๆแล้งๆว่าจะเป็นแชมป์มวยให้ได้มาหลอกล่อ แต่กลับกลายเป็นว่ามันได้สร้างศรัทธาให้ผู้หญิงคนหนึ่งอย่างเปี่ยมล้น และพร้อมจะยืนเคียงข้างเขาตลอดไป
.
นั่นเองที่ทำให้เขาเริ่มหันมามองเธอเสียใหม่ ในฐานะคู่ชีวิต ไม่ใช่สาวที่มาให้เขาปอกลอกอีกต่อไป ไม่มีใครรับมือความเลือดร้อนเขาได้ดีเท่าเธออีกแล้ว เหมือนเธอคือน้ำที่มาคอยดับไฟของเขา และมันคือจุดเริ่มต้นที่เขาจะหันมาเอาจริงเอาจังกับการชกมวยMMAเสียที
.
แต่ทว่ามันกลับไม่ง่ายเลย เพราะจะเป็นนักมวยได้มันต้องมีทุน ไม่ว่าจะเป็นค่ายิม ค่าเทรนเนอร์ ค่าอาหารเสริมต่างๆ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้น Dee Devlin ขออาสาแบกมันไว้บนบ่าเอง เธอต้องการเพียงแค่ให้เขาจริงจังกับมันแค่นั้น
.
........................................
.
Dee ทำงานหลายอย่างในขณะที่ Conor ฝึกมวยอย่างหนักหน่วง ทั้งสองมีรายได้จากงานจับฉ่ายของเธอ และเบี้ยคนว่างงานของเขา พวกเขาต้องประหยัด บางมื้อเธอหลอกเขาว่ากินอิ่มแล้ว ทั้งที่ท้องว่าง เพราะกลัวว่าเขาจะไม่มีอาหารเสริมกล้ามเนื้อกิน
.
ญาติสนิทมิตรสหายต่างไร้ศรัทธาในตัวเขา แต่เธอมองเห็นมัน ผู้คนต่างพร่ำกระซิบว่าคนเลือดร้อนอย่างไอ้หมอนี่ปล่อยให้มันไปฝึกมวยอีกก็คงไปกันยกใหญ่ มีหวังได้มีคนตายกันไปข้าง แต่เธอบอกว่า มวย นี่แหละคือสิ่งที่จะหยุดความระห่ำของ Conor ได้ดีที่สุด เพราะการฝึกมวยมันต้องใช้วินัย และความอดทนอดกลั้น
.
8 ปี ที่พวกเขาอดทนกันมา 8 ปีแห่งความลำบาก แต่มันแลกกับการที่เธอได้ Conor คนใหม่ที่มีความสุขุมใจเย็นลง วันที่เขาคว้าแชมป์ Mixed martial art รุ่น Featherweight ได้นั้น Dee โผเข้ากอด Conor บนเวที พวกเขาใช้เวลาบนนั้นนานมาก พวกเขาร้องไห้ให้กันและกัน ไม่ค่อยมีใครรู้ถึงความลำบากของพวกเขาหรอก แต่เขารับรู้มันแค่สองคนว่ากว่าจะมีวันนี้ได้มันลำบากสาหัสแค่ไหน และวันนี้มันจบลงแล้วจริงๆ เขาเป็นแชมป์ที่ไม่ใช่แค่ไอ้ขี้เมาหมัดหนักในผับในบาร์อีกต่อไป เขาคือแชมป์ MMA
.
........................................
.
สถิติชกสวยหรูของเขา 24 ครั้ง ชนะน็อคถึง 18 ครั้ง คู่ต่อสู้ยอมแพ้ 1 ครั้ง ชนะคะแนน 2 ครั้ง แพ้ 3 ครั้ง ทำให้เขาคือแชมป์ MMA ที่มีรายได้มากที่สุดคนหนึ่งของ UFC ทุกความสำเร็จเขามอบมันให้ Dee ครึ่งหนึ่ง
.
และถึงแม้ว่าเขาจะมีเงินทองมากมาย พร้อมสาวๆรุมล้อมรอบกายเขา แต่สิ่งที่เขาต้องการที่สุดคืออ้อมกอดของ Dee เท่านั้น เธอเคยบอกเสมอว่า
.
" เวลาเขาแพ้ ฉันจะกอดเขาไว้นานและแน่นกว่าตอนเขาชนะเสียอีก "
.
และเรื่องราวทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของโฉมงามที่มีศรัทธาในหมาบ้าตัวหนึ่ง
.
...........................................
.
นี่คือคลิปของพวกเขา https://www.youtube.com/watch?v=lIOHk3uTxOA
.
-----------------------------------------
www.sungsunclub.com : Thai night Society
ติดต่อโฆษณา Line @sungsunclub

วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2560

ดีหรือไม่ดี.....ยากที่จะบอก นานมาแล้ว มีพระราชาองค์หนึ่ง พระราชาองค์นี้ มีคนสนิทคนหนึ่งที่พระองค์สนิทมาก และมักจะพาไปไหนมาไหนด้วยเสมอในทุกๆที่ แล้ววันหนึ่ง พระราชาก็ถูกหมาตัวหนึ่งกัดนิ้ว แผลฉกรรจ์มาก พระราชาจึงถามคนสนิทว่า นี่เป็นลางไม่ดีของพระองค์หรือเปล่า คนสนิทกลับตอบว่า " ดี หรือไม่ดี ยากที่จะบอก " และในที่สุด พระราชาก็ถูกตัดนิ้ว และพระราชาก็ถามคนสนิทอีกว่า นี่เป็นลางไม่ดีของพระองค์หรือเปล่า คนสนิทกลับตอบว่า " ดี หรือไม่ดียากที่จะบอก " พระราชาโกรธมาก เลยจับคนสนิทขังไว้ในคุก วันหนึ่ง พระราชาก็ได้เสด็จออกป่าล่าสัตว์ พระองค์ทรงตื่นเต้นมาก แล้วก็มุ่งเข้าไปในป่า ลึกเข้าไปเรื่อยๆ เมื่อมารู้ตัวอีกทีก็พบว่าพระองค์ได้หลงทางเสียแล้ว แต่ก่อนที่อะไรจะเลวร้ายไปกว่านั้น พระองค์ก็ได้พบกับชนเผ่าพื้นเมืองในป่าแห่งนั้น คนป่าพวกนั้น ต้องการจับพระราชาไปบูชายัญ แต่พวกเขาก็พบว่าพระราชานิ้วขาด จึงรีบปลดปล่อยพระราชา เพราะเชื่อว่าพระราชาไม่ใช่มนุษย์ที่สมบูรณ์เลย และไม่เหมาะที่จะนำไปบูชายัญ พระราชาจึงตัดสินใจกลับพระราชวังในที่สุด และสุดท้าย พระองค์ก็เข้าใจคำพูดของคนสนิทที่บอกว่า " ดีหรือไม่ดี ยากที่จะบอก " เพราะถ้าพระองค์มีนิ้วครบสมบูรณ์ พระองค์ต้องถูกฆ่าโดยคนป่าพวกนั้นอย่างแน่นอน พระราชาจึงสั่งปล่อยตัวคนสนิท และขอโทษเขา แต่พระราชากลับประหลาดใจ เมื่อคนสนิทกลับไม่โกรธพระองค์เลย ในทางตรงข้ามเขากลับบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลยที่ท่านขังข้าไว้ ทำไมงั้นหรือ เพราะว่าถ้าพระองค์ไม่ขังข้าไว้ ข้าก็จะต้องตามท่านไปในป่า และในเมื่อท่านไม่เหมาะจะถูกบูชายัญ ข้าคงจะถูกนำไปบูชายัญแทนเป็นแน่ อีกครั้งกับคำที่ว่า ดี หรือไม่ดี ยากที่จะบอก เรื่องนี้อาจกล่าวได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ไม่มีการสรุปได้อย่างแน่นอนว่า ดี หรือ ไม่ดี บางครั้งสิ่งที่ดี อาจจะกลายเป็นสิ่งที่เลวร้าย ในขณะที่สิ่งที่เลวร้ายอาจกลายเป็นดีได้ สิ่งดีๆอะไรก็ตาม ที่เกิดขึ้นกับเรา จงสนุกสนานกับมัน แต่อย่าไปยึดติดกับมัน จงคิดเสียว่ามันเป็นสิ่งที่มาสร้างความประหลาดใจให้กับชีวิตของคุณ อะไรต่างๆ ที่มันเลวร้าย ซึ่งเกิดขึ้นกับคุณ ไม่จำเป็นต้องไปเศร้าเสียใจ ในตอนท้าย มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย ถ้าพวกเราเข้าใจได้อย่างนี้ พวกเราจะพบว่า การใช้ชีวิตนั้น ไม่ใช่เรื่องยากเลย

ดีหรือไม่ดี.....ยากที่จะบอก
นานมาแล้ว มีพระราชาองค์หนึ่ง พระราชาองค์นี้ มีคนสนิทคนหนึ่งที่พระองค์สนิทมาก และมักจะพาไปไหนมาไหนด้วยเสมอในทุกๆที่ แล้ววันหนึ่ง พระราชาก็ถูกหมาตัวหนึ่งกัดนิ้ว แผลฉกรรจ์มาก พระราชาจึงถามคนสนิทว่า นี่เป็นลางไม่ดีของพระองค์หรือเปล่า คนสนิทกลับตอบว่า " ดี หรือไม่ดี ยากที่จะบอก "
และในที่สุด พระราชาก็ถูกตัดนิ้ว และพระราชาก็ถามคนสนิทอีกว่า นี่เป็นลางไม่ดีของพระองค์หรือเปล่า คนสนิทกลับตอบว่า " ดี หรือไม่ดียากที่จะบอก " พระราชาโกรธมาก เลยจับคนสนิทขังไว้ในคุก
วันหนึ่ง พระราชาก็ได้เสด็จออกป่าล่าสัตว์ พระองค์ทรงตื่นเต้นมาก แล้วก็มุ่งเข้าไปในป่า ลึกเข้าไปเรื่อยๆ เมื่อมารู้ตัวอีกทีก็พบว่าพระองค์ได้หลงทางเสียแล้ว แต่ก่อนที่อะไรจะเลวร้ายไปกว่านั้น พระองค์ก็ได้พบกับชนเผ่าพื้นเมืองในป่าแห่งนั้น คนป่าพวกนั้น ต้องการจับพระราชาไปบูชายัญ แต่พวกเขาก็พบว่าพระราชานิ้วขาด จึงรีบปลดปล่อยพระราชา เพราะเชื่อว่าพระราชาไม่ใช่มนุษย์ที่สมบูรณ์เลย และไม่เหมาะที่จะนำไปบูชายัญ
พระราชาจึงตัดสินใจกลับพระราชวังในที่สุด และสุดท้าย พระองค์ก็เข้าใจคำพูดของคนสนิทที่บอกว่า " ดีหรือไม่ดี ยากที่จะบอก " เพราะถ้าพระองค์มีนิ้วครบสมบูรณ์ พระองค์ต้องถูกฆ่าโดยคนป่าพวกนั้นอย่างแน่นอน พระราชาจึงสั่งปล่อยตัวคนสนิท และขอโทษเขา แต่พระราชากลับประหลาดใจ เมื่อคนสนิทกลับไม่โกรธพระองค์เลย ในทางตรงข้ามเขากลับบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลยที่ท่านขังข้าไว้
ทำไมงั้นหรือ เพราะว่าถ้าพระองค์ไม่ขังข้าไว้ ข้าก็จะต้องตามท่านไปในป่า และในเมื่อท่านไม่เหมาะจะถูกบูชายัญ ข้าคงจะถูกนำไปบูชายัญแทนเป็นแน่ อีกครั้งกับคำที่ว่า ดี หรือไม่ดี ยากที่จะบอก เรื่องนี้อาจกล่าวได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ไม่มีการสรุปได้อย่างแน่นอนว่า ดี หรือ ไม่ดี บางครั้งสิ่งที่ดี อาจจะกลายเป็นสิ่งที่เลวร้าย ในขณะที่สิ่งที่เลวร้ายอาจกลายเป็นดีได้ สิ่งดีๆอะไรก็ตาม ที่เกิดขึ้นกับเรา จงสนุกสนานกับมัน แต่อย่าไปยึดติดกับมัน จงคิดเสียว่ามันเป็นสิ่งที่มาสร้างความประหลาดใจให้กับชีวิตของคุณ อะไรต่างๆ ที่มันเลวร้าย ซึ่งเกิดขึ้นกับคุณ ไม่จำเป็นต้องไปเศร้าเสียใจ ในตอนท้าย มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย
ถ้าพวกเราเข้าใจได้อย่างนี้ พวกเราจะพบว่า การใช้ชีวิตนั้น ไม่ใช่เรื่องยากเลย

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2560

30 กฎแห่งความสำเร็จ ข้อที่ 9 * แต่งงานกับคนที่ถูกต้อง สิ่งนี้สำคัญต่อความสำเร็จ และความสุขทั้งชีวิตของคุณ * ------------ สวัสดีปีใหม่ครับ ทุกท่าน วันที่ 1 -30 มค. 2017 ผมจะทยอยโพสต์ กฎแห่งความสำเร็จ ให้นะครับ 30 กฎแห่งความสำเร็จนี้ เป็นกฎอมตะ ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ถ้าคุณทำตาม ผมการันตีผลลัพธ์ว่า ... คุณจะสำเร็จด้านการเงิน ความสุข ครอบครัว ชื่อเสียง และการสร้างคุณค่า ให้กับโลกนี้ กฎเหล่านี้ เป็นกฎธรรมชาติ (หรือ กฎจักรวาล หรือ สัจธรรม) ผมไม่ได้เป็นคนสร้างกฎเหล่านี้ ขึ้นมาเอง แต่ได้มาจากการเรียนรู้ สั่งสม และประสบการณ์ในการใช้มา 30 ปี ผมขออวยพรทุกท่าน ให้รักการพัฒนาตนเอง เพื่อเราจะได้ร่วมกันเป็น "แสงสว่าง" ให้กับสังคมไทย และโลกนี้ นะครับ ด้วยรัก บัณฑิต อึ้งรังษี ---- ปล. เพื่อไม่แน่ใจ ว่าไม่พลาดสักข้อ - กด see first ในเพจนี้ หรือ - ติดตามได้ทาง Line@Bundit กดได้ที่ลิงค์นี้ http://line.me/ti/p/%40mdl4971x

30 กฎแห่งความสำเร็จ

ข้อที่ 9

* แต่งงานกับคนที่ถูกต้อง

สิ่งนี้สำคัญต่อความสำเร็จ และความสุขทั้งชีวิตของคุณ *

------------
สวัสดีปีใหม่ครับ ทุกท่าน
วันที่ 1 -30 มค. 2017
ผมจะทยอยโพสต์ กฎแห่งความสำเร็จ ให้นะครับ
30 กฎแห่งความสำเร็จนี้ เป็นกฎอมตะ
ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
ถ้าคุณทำตาม ผมการันตีผลลัพธ์ว่า ...
คุณจะสำเร็จด้านการเงิน ความสุข ครอบครัว ชื่อเสียง และการสร้างคุณค่า ให้กับโลกนี้
กฎเหล่านี้ เป็นกฎธรรมชาติ (หรือ กฎจักรวาล หรือ สัจธรรม)
ผมไม่ได้เป็นคนสร้างกฎเหล่านี้ ขึ้นมาเอง
แต่ได้มาจากการเรียนรู้ สั่งสม และประสบการณ์ในการใช้มา 30 ปี
ผมขออวยพรทุกท่าน ให้รักการพัฒนาตนเอง
เพื่อเราจะได้ร่วมกันเป็น "แสงสว่าง" ให้กับสังคมไทย และโลกนี้ นะครับ
ด้วยรัก
บัณฑิต อึ้งรังษี
----
ปล. เพื่อไม่แน่ใจ ว่าไม่พลาดสักข้อ
- กด see first ในเพจนี้
หรือ
- ติดตามได้ทาง Line@Bundit
กดได้ที่ลิงค์นี้ http://line.me/ti/p/%40mdl4971x

ปรัชญาผ้าขี้ริ้ว....!!! 1. ผ้าขี้ริ้วยอมสกปรกเพื่อให้สิ่งอื่นสะอาด เสน่ห์ของคนอยู่ที่ยอมลำบากเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุข พ่อแม่ยอมเหนื่อยเพื่อให้ลูกหลานอยู่สุขสบาย ความสุขแท้ของคน คือการได้ยืนแอบยิ้ม อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ 2. ผ้าขี้ริ้วดูดซับความสกปรกได้ แต่ก็สลัดความสกปรกออกจากตัวได้ตลอดเวลา เสน่ห์ของคนอยู่ที่รู้ตัวเองว่าสกปรก ถึงเวลาต้อง ชำระล้างแล้ว มิใช่อมความสกปรกไว้แล้ว แกล้งบอกว่าตน เองสะอาด 3. ผ้าขี้ริ้วเป็น ผ้าที่สะอาดที่สุด ในขณะที่คนมองว่าสกปรกที่สุด เหมือนคนที่ฝึกหัดขัดเกลาตนเอง รู้จักถ่อมตนและอ่อนโยน ไม่โอหังอวดดีให้เป็นที่รังเกียจหมั่นไส้ของคนอื่น เขาจะเป็นคนที่มีคุณค่า ไม่ว่าจะมาจากสกุลใด การศึกษามากหรือน้อยก็ตาม เป็นผู้ใฝ่รู้แต่ไม่อวดดี เหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทอง 4. ผ้าขี้ริ้วถึงจะเป็นผ้าไม่มีราคา แต่มีคุณค่ายิ่งใหญ่ได้ เหมือนคนที่พยายามทำตน ให้มีคุณค่าด้วยการทำงานมิใช่ด้วยการประจบทำตนให้มีประโยชน์ ให้มีค่า ไม่ใช่งอมืองอเท้า น้อยเนื้อต่ำใจในวาสนา ชะตาชีวิต ต้องสร้างกำลังใจให้ตนเองอย่ารอคอยจากคนอื่น 5. ผ้าขี้ริ้วไม่ เกี่ยงงอนว่าจะถูกใช้เช็ดถูอะไร เหมือนคนที่ยอมตัวอาสาทำงานที่ได้รับมอบหมาย โดยไม่ปริปากบ่น รู้จักอาสาคน อาสาทำงาน ต้องตั้งใจทำงานโดยไม่เกี่ยงงอน ไม่ว่าจะเป็นงานใด ๆ ก็ตาม คนที่ตกงานเพราะไม่ยอมทำงาน 6. ผ้าขี้ริ้วยอมให้ถูกใช้งานในที่สกปรกที่สุด เหมือนคนที่ยอมทำในสิ่งที่คนทั้งหลายรังเกียจ ที่เขาเห็นว่าเป็นงานชั้นต่ำ แต่ก็ตั้งใจทำให้เป็นของมีค่า ขึ้นมาได้ หรือยินดีในการบริการ เหมือนคนที่อิ่มเอิบเมื่อได้บริการรับใช้คนอื่น รับใช้สังคม ดีใจเมื่อคนยินดีมาใช้บริการความรู้ ความสามารถของตน และยินดีที่ได้เสนอตัวเข้าไปบริการมากกว่าเข้าไปบริหาร 7. ผ้าขี้ริ้วพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความสะอาด เหมือนคนควรพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จ ของคนอื่น ต้องมีความพอใจที่จะทำงาน ปิดทองหลังพระ เป็นนายอินหรือนางอิน ผู้ปิดทองหลังพระ มีความสุขและภูมิใจที่ได้มอบ ความสำเร็จให้คนอื่น มีมากที่ผู้น้อยบางคนทำงานแล้วทำให้ผู้ใหญ่เล็กลง ขณะที่ตัวเองโตขึ้น 8. ผ้าขี้ริ้วทนทานต่อการขัดถูซักล้างไม่เปราะบาง เหมือนคนที่มีความอดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหา แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็อดทนได้ เพื่อให้สำเร็จ ประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น มีจิตใจหนักแน่นไม่เปราะบางหักง่าย คือไม่เป็นคนทุกข์ง่ายใจเบา แต่นิ่งและหนักแน่นคงดุจแผ่นดิน 9. ผ้าขี้ริ้วแม้จะถูกมองว่าเป็นผ้าขี้ริ้ว แต่ไม่ทำตัวให้ขี้เหร่ เหมือนคนที่รู้ตัวเองว่า กำลังถูกคนปรามาสสบประมาท จะต้องตั้งใจเอา ชนะอุปสรรค ตรงนั้นให้ได้ ไม่พ่ายแพ้ต่อคำปรามาสของผู้อื่น รู้ตัวตลอดเวลาว่า กำลังทำอะไรและมีกำลังใจในสิ่งนั้น มองเห็นคุณค่าจากสิ่งที่คนทั้งหลายมองว่าไร้ค่า เมื่อมีปัญหาให้หัดมองสองด้านเสมอ ผ้าขี้ริ้วมีเสน่ห์เพราะยอมสัมผัสกับสิ่งสกปรกเราต้องทำตัวเองให้มีคุณค่าและมองเห็นค่าของตัวเองก่อน แล้วเราจะไม่รู้สึกท้อแท้หมดหวังชีวิตของคนเราก็เช่นกัน หากทนความทุกข์ยากลำบาก ยอมสัมผัสกับงานที่ต่ำต้อยได้ ก็จะมีเสน่ห์ และมีความหมาย ทุกคนจึงควรพากเพียรพยายามสร้างเสน่ห์ให้กับชีวิต อย่างที่ผ้าขี้ริ้วสร้างเสน่ห์ให้กับตนเอง คุณเห็นด้วยไหม ที่ว่าเราต้องทำตัวเองให้มีคุณค่า และมองเห็นค่าของตัวเองก่อน แล้วเราจะไม่รู้สึกท้อแท้หมดหวัง.... ที่มา : https://epsie.wordpress.com

ปรัชญาผ้าขี้ริ้ว....!!!

1. ผ้าขี้ริ้วยอมสกปรกเพื่อให้สิ่งอื่นสะอาด
เสน่ห์ของคนอยู่ที่ยอมลำบากเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุข
พ่อแม่ยอมเหนื่อยเพื่อให้ลูกหลานอยู่สุขสบาย
ความสุขแท้ของคน คือการได้ยืนแอบยิ้ม
อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ

2. ผ้าขี้ริ้วดูดซับความสกปรกได้
แต่ก็สลัดความสกปรกออกจากตัวได้ตลอดเวลา
เสน่ห์ของคนอยู่ที่รู้ตัวเองว่าสกปรก ถึงเวลาต้อง
ชำระล้างแล้ว มิใช่อมความสกปรกไว้แล้ว
แกล้งบอกว่าตน เองสะอาด

3. ผ้าขี้ริ้วเป็น ผ้าที่สะอาดที่สุด
ในขณะที่คนมองว่าสกปรกที่สุด เหมือนคนที่ฝึกหัดขัดเกลาตนเอง รู้จักถ่อมตนและอ่อนโยน
ไม่โอหังอวดดีให้เป็นที่รังเกียจหมั่นไส้ของคนอื่น
เขาจะเป็นคนที่มีคุณค่า ไม่ว่าจะมาจากสกุลใด
การศึกษามากหรือน้อยก็ตาม เป็นผู้ใฝ่รู้แต่ไม่อวดดี  เหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทอง

4. ผ้าขี้ริ้วถึงจะเป็นผ้าไม่มีราคา แต่มีคุณค่ายิ่งใหญ่ได้  เหมือนคนที่พยายามทำตน ให้มีคุณค่าด้วยการทำงานมิใช่ด้วยการประจบทำตนให้มีประโยชน์ ให้มีค่า
ไม่ใช่งอมืองอเท้า น้อยเนื้อต่ำใจในวาสนา ชะตาชีวิต ต้องสร้างกำลังใจให้ตนเองอย่ารอคอยจากคนอื่น

5. ผ้าขี้ริ้วไม่ เกี่ยงงอนว่าจะถูกใช้เช็ดถูอะไร
เหมือนคนที่ยอมตัวอาสาทำงานที่ได้รับมอบหมาย
โดยไม่ปริปากบ่น รู้จักอาสาคน อาสาทำงาน
ต้องตั้งใจทำงานโดยไม่เกี่ยงงอน ไม่ว่าจะเป็นงานใด ๆ ก็ตาม คนที่ตกงานเพราะไม่ยอมทำงาน

6. ผ้าขี้ริ้วยอมให้ถูกใช้งานในที่สกปรกที่สุด
เหมือนคนที่ยอมทำในสิ่งที่คนทั้งหลายรังเกียจ
ที่เขาเห็นว่าเป็นงานชั้นต่ำ แต่ก็ตั้งใจทำให้เป็นของมีค่า
ขึ้นมาได้ หรือยินดีในการบริการ เหมือนคนที่อิ่มเอิบเมื่อได้บริการรับใช้คนอื่น รับใช้สังคม ดีใจเมื่อคนยินดีมาใช้บริการความรู้ ความสามารถของตน และยินดีที่ได้เสนอตัวเข้าไปบริการมากกว่าเข้าไปบริหาร

7. ผ้าขี้ริ้วพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความสะอาด
เหมือนคนควรพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จ
ของคนอื่น ต้องมีความพอใจที่จะทำงาน
ปิดทองหลังพระ เป็นนายอินหรือนางอิน
ผู้ปิดทองหลังพระ มีความสุขและภูมิใจที่ได้มอบ
ความสำเร็จให้คนอื่น มีมากที่ผู้น้อยบางคนทำงานแล้วทำให้ผู้ใหญ่เล็กลง ขณะที่ตัวเองโตขึ้น

8. ผ้าขี้ริ้วทนทานต่อการขัดถูซักล้างไม่เปราะบาง เหมือนคนที่มีความอดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหา แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็อดทนได้ เพื่อให้สำเร็จ ประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น มีจิตใจหนักแน่นไม่เปราะบางหักง่าย คือไม่เป็นคนทุกข์ง่ายใจเบา แต่นิ่งและหนักแน่นคงดุจแผ่นดิน

9. ผ้าขี้ริ้วแม้จะถูกมองว่าเป็นผ้าขี้ริ้ว แต่ไม่ทำตัวให้ขี้เหร่ เหมือนคนที่รู้ตัวเองว่า กำลังถูกคนปรามาสสบประมาท จะต้องตั้งใจเอา ชนะอุปสรรค ตรงนั้นให้ได้ ไม่พ่ายแพ้ต่อคำปรามาสของผู้อื่น รู้ตัวตลอดเวลาว่า กำลังทำอะไรและมีกำลังใจในสิ่งนั้น มองเห็นคุณค่าจากสิ่งที่คนทั้งหลายมองว่าไร้ค่า เมื่อมีปัญหาให้หัดมองสองด้านเสมอ ผ้าขี้ริ้วมีเสน่ห์เพราะยอมสัมผัสกับสิ่งสกปรกเราต้องทำตัวเองให้มีคุณค่าและมองเห็นค่าของตัวเองก่อน แล้วเราจะไม่รู้สึกท้อแท้หมดหวังชีวิตของคนเราก็เช่นกัน หากทนความทุกข์ยากลำบาก ยอมสัมผัสกับงานที่ต่ำต้อยได้ ก็จะมีเสน่ห์ และมีความหมาย ทุกคนจึงควรพากเพียรพยายามสร้างเสน่ห์ให้กับชีวิต อย่างที่ผ้าขี้ริ้วสร้างเสน่ห์ให้กับตนเอง คุณเห็นด้วยไหม ที่ว่าเราต้องทำตัวเองให้มีคุณค่า และมองเห็นค่าของตัวเองก่อน แล้วเราจะไม่รู้สึกท้อแท้หมดหวัง....

ที่มา : https://epsie.wordpress.com

อ่านเถอะนี่คือเรื่องจริงของสังคมในยุคนี้ .... ผู้หญิง.... ถ่ายหน้าอก ผู้ชาย .....ถ่ายรถ โชว์ลงเฟส ใคร ?? จะไปรู้ว่า ... อกนั้น ! .... ปลอม หรือ จริง รถนั้น ! .....เป็นของเขา หรือของใคร ? สัตว์ .... เริ่มสวมใส่เสื้อผ้า เหมือนกับ คน คน ... เริ่มอวดเนื้อหนังเหมือนกับ สัตว์ เด็ก .... ทำตัวแก่แดดเหมือน ผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ ... ทำตัวแอ๊บแบ๊วเหมือนกับ เด็ก ผู้หญิง .... ทำตัวห้าวเป็นเหมือน ผู้ชาย ผู้ชาย ..... ทำตัวมุ้งมิ้งเหมือน ผู้หญิง คนจน .... ทำรวยเป็น เศรษฐี คนรวย ....ทำจนเหมือน ยาจก เถ้าแก่ .... แต่งตัวเหมือน ลูกจ้าง ลูกจ้าง ....แต่งตัวเหมือน เถ้าแก่ พ่อแม่ .... เรียกลูกว่า พี่ ลูก ..........แทนตัวเองว่า น้อง คนโสด .... ทำตัวเหมือน แม่บ้าน แม่บ้าน .....ทำตัวเหมือนคน โสด สักวันหนึ่ง ! .... คุณจะเข้าใจ ใส่นาฬิกาเรือนละสามร้อย หรือสามหมื่น วันหนึ่ง ก็มี 24ชั่วโมงเหมือนกัน ดื่มเหล้าแก้วละสามสิบ หรือแก้วละสามพัน ....... ก็อ๊วกออกมาเหมือนๆกัน ! อยู่บ้านกว้าง 30 ตารางเมตร หรือ 300 ตารางวา ...... ความโดดเดี่ยว ก็ไม่ต่างกัน ! สูบบุหรี่มวนละสิบบาท หรือมวนละร้อย ....... ก็เป็นมะเร็งปอดเหมือนกัน #สักวันหนึ่ง ..... คุณก็จะเข้าใจ ความสุขในจิตใจ ไม่มีทางหาได้จาก วัตถุภายนอก เพราะฉะนั้น ! จงรู้พอใจ พอมี พออยู่ พอเพียง จึงได้มีความสุข ..... ใช้ชีวิตอยู่กับใครนั้น ! สำคัญมาก .... ใครอยู่กับเราตลอดไปนั้น ! หาได้ยากยิ่งกว่า !! คนในโลกใบนี้ มีตั้ง 7.2 พันล้านคน ที่เราได้มารู้จักกัน มาอยู่ร่วมกัน หากไม่ถนอมรักษา ก็น่าเสียดาย ! ... #เก็บรักเก็บมิตรภาพดีๆกันไว้บ้าง ! ก่อนที่มันจะเหือดแห้งหายไป ..... ..... จนเหลือเป็นเพียงแค่ เรื่องเล่า… Cr.ไม่รู้ที่มา แต่ชอบ

อ่านเถอะนี่คือเรื่องจริงของสังคมในยุคนี้ ....
ผู้หญิง.... ถ่ายหน้าอก
ผู้ชาย .....ถ่ายรถ โชว์ลงเฟส
ใคร ?? จะไปรู้ว่า ...
อกนั้น ! .... ปลอม หรือ จริง
รถนั้น ! .....เป็นของเขา หรือของใคร ?
สัตว์ .... เริ่มสวมใส่เสื้อผ้า เหมือนกับ คน
คน ... เริ่มอวดเนื้อหนังเหมือนกับ สัตว์
เด็ก .... ทำตัวแก่แดดเหมือน ผู้ใหญ่
ผู้ใหญ่ ... ทำตัวแอ๊บแบ๊วเหมือนกับ เด็ก
ผู้หญิง .... ทำตัวห้าวเป็นเหมือน ผู้ชาย
ผู้ชาย ..... ทำตัวมุ้งมิ้งเหมือน ผู้หญิง
คนจน .... ทำรวยเป็น เศรษฐี
คนรวย ....ทำจนเหมือน ยาจก
เถ้าแก่ .... แต่งตัวเหมือน ลูกจ้าง
ลูกจ้าง ....แต่งตัวเหมือน เถ้าแก่
พ่อแม่ .... เรียกลูกว่า พี่
ลูก ..........แทนตัวเองว่า น้อง
คนโสด .... ทำตัวเหมือน แม่บ้าน
แม่บ้าน .....ทำตัวเหมือนคน โสด
สักวันหนึ่ง ! ....
คุณจะเข้าใจ ใส่นาฬิกาเรือนละสามร้อย หรือสามหมื่น วันหนึ่ง ก็มี 24ชั่วโมงเหมือนกัน
ดื่มเหล้าแก้วละสามสิบ หรือแก้วละสามพัน ....... ก็อ๊วกออกมาเหมือนๆกัน !
อยู่บ้านกว้าง 30 ตารางเมตร หรือ 300 ตารางวา ...... ความโดดเดี่ยว ก็ไม่ต่างกัน !
สูบบุหรี่มวนละสิบบาท หรือมวนละร้อย ....... ก็เป็นมะเร็งปอดเหมือนกัน
#สักวันหนึ่ง .....
คุณก็จะเข้าใจ ความสุขในจิตใจ ไม่มีทางหาได้จาก วัตถุภายนอก
เพราะฉะนั้น ! จงรู้พอใจ พอมี พออยู่ พอเพียง จึงได้มีความสุข .....
ใช้ชีวิตอยู่กับใครนั้น ! สำคัญมาก ....
ใครอยู่กับเราตลอดไปนั้น ! หาได้ยากยิ่งกว่า !!
คนในโลกใบนี้ มีตั้ง 7.2 พันล้านคน ที่เราได้มารู้จักกัน มาอยู่ร่วมกัน
หากไม่ถนอมรักษา ก็น่าเสียดาย ! ...
#เก็บรักเก็บมิตรภาพดีๆกันไว้บ้าง !
ก่อนที่มันจะเหือดแห้งหายไป .....
..... จนเหลือเป็นเพียงแค่ เรื่องเล่า…
Cr.ไม่รู้ที่มา แต่ชอบ

"วันพรุ่งนี้คือ โอกาส" ...ปีเตอร์ เอฟ. ดรัคเกอร์ 10 นิสัย ตอนเช้า ! ที่ทำให้คนที่ประสบความสำเร็จ ต่างจากคนอื่น - พวกเขารู้ว่า อะไรบ้างคือ เรื่องที่สำคัญสำหรับเขา - โดยเฉพาะในเวลา “ตอนเช้า” ที่เขาตื่น สิ่งที่เขาทำสิ่งแรกไม่ใช่เช็คอีเมล์ แต่เป็น “เวลา” ที่เขาให้กับตัวของเขาเอง และทำธุระส่วนตัวของเขาที่สำคัญก่อนอันอื่น 1. ตื่นเช้ามาก แน่นอนว่าทุกคนรู้ว่า “เวลา” มีค่ามากแค่ไหน เพราะฉะนั้น คนที่ประสบความสำเร็จ เขาจะเลือกตื่นเช้าสุดๆ บางคนตี 5 บางคน ตี 4 ครึ่ง หรือจะตี 4 เลยก็มี เพราะนอกจากเขาจะมีเวลามากกว่าคนอื่นๆ แล้ว เขายังมีโอกาสใช้เวลาตอนเช้าทำเรื่องของตัวเอง ก่อนที่จะทำงานอีกด้วย 2. ออกกำลังกายเผาผลาญแคลอรี่ และนี่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นการออกกำลังกายหักโหม หรือเผาผลาญมากๆ เท่านั้น เพียงการเล่นโยคะ ยืดเส้นสายก็ทำได้เช่นกัน และนี่คือสิ่งที่ Christies ซึ่งเป็น CEO ของ Steve Murphy ทำมาโดยตลอด เพราะการออกกำลังกายไม่ใช่แค่ทำให้สมองปลอดโปร่ง สุขภาพดีเท่านั้น แต่มันยังให้คุณจัดการกับความเครียดได้ง่ายกว่าด้วย 3. ชั่วโมงแห่งพลัง! แรงบันดาลใจ และแรงกระตุ้น ทำงานไปเรื่อยๆ ก็อาจจะหมดได้ เพราะฉะนั้นคุณจะต้องเติมมันอยู่เรื่อยๆ และนี่คือสิ่งที่คนที่ประสบความสำเร็จทำ ในตอนเช้าเขาจะอ่านหรือฟังบทความ หรือวิดีโอที่เสริมสร้างแรงบันดาลใจ หรือแรงกระตุ้นในการทำงานของเขานั่นเอง 4. จดบันทึกความรู้สึก “ขอบคุณ” ต่อสิ่งที่คุณได้รับ ความสุขไม่ได้มาจากการโหยหาสิ่งที่คุณยังไม่มี แต่มันคือการซาบซึ้งกับสิ่งที่คุณมีแล้ว ได้รับแล้วต่างหากล่ะ และนี่คือสิ่งที่คนที่สำเร็จเขาทำกัน เพื่อสร้างโลกในแง่บวก ให้ทั้งวันในการทำงานของเขานั้นมี “ความสุข” 5. ถามคำถามกับ “ตัวเอง” “ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตคุณ คุณยังจะทำสิ่งที่คุณกำลังจะทำในวันนี้หรือไม่” คำถามนี้เป็นคำถามที่ยาก และถ้าคุณพบว่า คุณตอบว่า “ไม่” หลายครั้งเกินไปในหนึ่งสัปดาห์ คุณต้องเปลี่ยนแปลงอะไรซักอย่างแล้ว 6. ทำเรื่องที่ยากที่สุดก่อน ในตอนเช้าที่คุณมีพลังงานเต็มถัง มีสมองที่สดชื่อ คุณนอนอิ่ม เพราะฉะนั้น การทำงานที่ยากที่สุดก่อน คุณจะมีโอกาสที่จะทำมันสำเร็จลุล่วงได้ง่ายกว่า 7. พูดคุยกับคนที่คุณรัก ไม่ว่างานของคุณจะยุ่งแค่ไหน อย่าลืมใส่ใจคนที่คุณรัก ในตอนเช้า คือเวลาที่ดีในการพูดคุยถามไถ่กับคนที่คุณรัก อาจจะคุยถึงแผนการวันนี้ของแฟนคุณ หรือลูกคุณว่าจะทำอะไรบ้าง บางทีคุณอาจจะตั้งไว้ 1 วันต่ออาทิตย์ที่คุณจะ ออกไปทานข้าวเช้าในร้านใกล้บ้าน และนี่จะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกับคนรักอยู่ยืดแน่นอน 8. วางแผนงานและกลยุทธ์ ถ้าคุณไม่ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย วางแผนในหัวว่าวันนี้คุณจะทำอะไรบ้าง คุณจะไม่รู้เลยว่า คุณจะเดินไปถูกทางหรือไม่ คุณจะสำเร็จเป้าหมายระยะสั้นที่คุณตั้งไว้หรือไม่ เพราะฉะนั้น ลองใช้เวลาราว 10 นาทีวางแผนดู มันจะทำให้คุณควบคุมเวลาในหนึ่งวันของคุณได้ดีขึ้น เชื่อสิ! 9. นั่งสมาธิ เคลียร์หัวให้โล่ง ทำใจให้สงบ ให้ความเงียบและสันติจากภายในเกิดขึ้น ใช้เวลาไม่กี่นาทีในการนั่งสมาธิ หรือสวดมนต์ วิธีนี้จะช่วยคุณรับมือกับความเครียดที่มีอยู่ หรือกำลังจะมีในแต่ละวันได้ดี จำไว้ว่า 90% ของโรคต่างๆ เกิดจากความเครียด เพราะฉะนั้น หยุดซักนิด แล้วตั้งมั่นที่ลมหายใจของคุณ นั่งสมาธิ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น 10. กอดลูกๆ ของคุณ นี่คือข้อสำหรับคนที่มีลูก มีครอบครัว อย่าให้คุณต้องกลายเป็นพ่อแม่ที่ทำงานหนักจนจำวันเกิดลูกของตัวเองไม่ได้! ... ขอบคุณที่มาของบทความดีๆ เพื่อเช้าวันที่ดีของทุกวัน ^__^

"วันพรุ่งนี้คือ โอกาส" ...ปีเตอร์ เอฟ. ดรัคเกอร์

10 นิสัย ตอนเช้า !
ที่ทำให้คนที่ประสบความสำเร็จ
ต่างจากคนอื่น

- พวกเขารู้ว่า อะไรบ้างคือ เรื่องที่สำคัญสำหรับเขา -

โดยเฉพาะในเวลา “ตอนเช้า” ที่เขาตื่น
สิ่งที่เขาทำสิ่งแรกไม่ใช่เช็คอีเมล์
แต่เป็น “เวลา” ที่เขาให้กับตัวของเขาเอง
และทำธุระส่วนตัวของเขาที่สำคัญก่อนอันอื่น

1. ตื่นเช้ามาก

แน่นอนว่าทุกคนรู้ว่า “เวลา” มีค่ามากแค่ไหน เพราะฉะนั้น คนที่ประสบความสำเร็จ เขาจะเลือกตื่นเช้าสุดๆ บางคนตี 5 บางคน ตี 4 ครึ่ง หรือจะตี 4 เลยก็มี เพราะนอกจากเขาจะมีเวลามากกว่าคนอื่นๆ แล้ว เขายังมีโอกาสใช้เวลาตอนเช้าทำเรื่องของตัวเอง ก่อนที่จะทำงานอีกด้วย

2. ออกกำลังกายเผาผลาญแคลอรี่

และนี่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นการออกกำลังกายหักโหม หรือเผาผลาญมากๆ เท่านั้น เพียงการเล่นโยคะ ยืดเส้นสายก็ทำได้เช่นกัน และนี่คือสิ่งที่ Christies ซึ่งเป็น CEO ของ Steve Murphy ทำมาโดยตลอด เพราะการออกกำลังกายไม่ใช่แค่ทำให้สมองปลอดโปร่ง สุขภาพดีเท่านั้น แต่มันยังให้คุณจัดการกับความเครียดได้ง่ายกว่าด้วย

3. ชั่วโมงแห่งพลัง!

แรงบันดาลใจ และแรงกระตุ้น ทำงานไปเรื่อยๆ ก็อาจจะหมดได้ เพราะฉะนั้นคุณจะต้องเติมมันอยู่เรื่อยๆ และนี่คือสิ่งที่คนที่ประสบความสำเร็จทำ ในตอนเช้าเขาจะอ่านหรือฟังบทความ หรือวิดีโอที่เสริมสร้างแรงบันดาลใจ หรือแรงกระตุ้นในการทำงานของเขานั่นเอง

4. จดบันทึกความรู้สึก “ขอบคุณ” ต่อสิ่งที่คุณได้รับ

ความสุขไม่ได้มาจากการโหยหาสิ่งที่คุณยังไม่มี แต่มันคือการซาบซึ้งกับสิ่งที่คุณมีแล้ว ได้รับแล้วต่างหากล่ะ และนี่คือสิ่งที่คนที่สำเร็จเขาทำกัน เพื่อสร้างโลกในแง่บวก ให้ทั้งวันในการทำงานของเขานั้นมี “ความสุข”

5. ถามคำถามกับ “ตัวเอง”

“ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตคุณ คุณยังจะทำสิ่งที่คุณกำลังจะทำในวันนี้หรือไม่”

คำถามนี้เป็นคำถามที่ยาก และถ้าคุณพบว่า คุณตอบว่า “ไม่” หลายครั้งเกินไปในหนึ่งสัปดาห์ คุณต้องเปลี่ยนแปลงอะไรซักอย่างแล้ว

6. ทำเรื่องที่ยากที่สุดก่อน

ในตอนเช้าที่คุณมีพลังงานเต็มถัง มีสมองที่สดชื่อ คุณนอนอิ่ม เพราะฉะนั้น การทำงานที่ยากที่สุดก่อน คุณจะมีโอกาสที่จะทำมันสำเร็จลุล่วงได้ง่ายกว่า

7. พูดคุยกับคนที่คุณรัก

ไม่ว่างานของคุณจะยุ่งแค่ไหน อย่าลืมใส่ใจคนที่คุณรัก ในตอนเช้า คือเวลาที่ดีในการพูดคุยถามไถ่กับคนที่คุณรัก อาจจะคุยถึงแผนการวันนี้ของแฟนคุณ หรือลูกคุณว่าจะทำอะไรบ้าง บางทีคุณอาจจะตั้งไว้ 1 วันต่ออาทิตย์ที่คุณจะ ออกไปทานข้าวเช้าในร้านใกล้บ้าน และนี่จะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกับคนรักอยู่ยืดแน่นอน

8. วางแผนงานและกลยุทธ์

ถ้าคุณไม่ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย วางแผนในหัวว่าวันนี้คุณจะทำอะไรบ้าง คุณจะไม่รู้เลยว่า คุณจะเดินไปถูกทางหรือไม่ คุณจะสำเร็จเป้าหมายระยะสั้นที่คุณตั้งไว้หรือไม่ เพราะฉะนั้น ลองใช้เวลาราว 10 นาทีวางแผนดู มันจะทำให้คุณควบคุมเวลาในหนึ่งวันของคุณได้ดีขึ้น เชื่อสิ!

9. นั่งสมาธิ เคลียร์หัวให้โล่ง

ทำใจให้สงบ ให้ความเงียบและสันติจากภายในเกิดขึ้น ใช้เวลาไม่กี่นาทีในการนั่งสมาธิ หรือสวดมนต์ วิธีนี้จะช่วยคุณรับมือกับความเครียดที่มีอยู่ หรือกำลังจะมีในแต่ละวันได้ดี จำไว้ว่า 90% ของโรคต่างๆ เกิดจากความเครียด เพราะฉะนั้น หยุดซักนิด แล้วตั้งมั่นที่ลมหายใจของคุณ นั่งสมาธิ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น

10. กอดลูกๆ ของคุณ

นี่คือข้อสำหรับคนที่มีลูก มีครอบครัว อย่าให้คุณต้องกลายเป็นพ่อแม่ที่ทำงานหนักจนจำวันเกิดลูกของตัวเองไม่ได้!

... ขอบคุณที่มาของบทความดีๆ เพื่อเช้าวันที่ดีของทุกวัน ^__^

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2560

เมื่อ คุณค่า มาก่อน มูลค่า Values before market values อีกหนึ่งหัวใจของหนังสือ BRANDing4.0 คือ การ กลับด้านของธุรกิจ จากเดิมเราโฟกัสไปที่สินค้าและบริการ และพยายามสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับมัน สู่การเริ่มต้นสร้างคุณค่า ที่จะเชื่อมโยงให้เกิดเครือข่ายของคุณค่าร่วม ซึ่งท้ายที่สุดจะกลายมาเป็น New Community ของแบรนด์ และเมื่อมันแข็งแรงพอ แบรนด์จะสามารถสร้างสิ่งที่มีมูลค่าขึ้นมาได้ในเครือข่ายของตนเอง Starbuck คือ อีกหนึ่งตัวอย่างครับ พวกเขาได้สร้างเครือข่ายขนาดใหญ่ทั่วโลก ไม่ใช่เครือข่ายร้านกาแฟ แต่เป็นเครือข่าย Starbuck เมื่อผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่น เครือข่ายที่มีก็ได้กลายเป็นมูลค่าให้กับ Starbuck วันนี้ Starbuck Cards มีจำนวนเงินหรือ มูลค่า มากกว่าธนาคารบางธนาคารด้วยซ้ำ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเฉพาะแบรนด์ใหญ่นะครับ ขอเพียงแค่เรารู้คุณค่าของแบรนด์ ทำให้แบรนด์มีชีวิตและเชื่อมโยงกับผู้บริโภค เราก็สามารถสร้างเครือข่ายแห่งคุณค่าร่วมของแบรนด์ได้เช่นกัน #BRAND #BRANDing #BRANDing4point0 #BRANDi #BRANDist

เมื่อ คุณค่า มาก่อน มูลค่า
Values before market values

อีกหนึ่งหัวใจของหนังสือ BRANDing4.0 คือ การ กลับด้านของธุรกิจ

จากเดิมเราโฟกัสไปที่สินค้าและบริการ และพยายามสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับมัน

สู่การเริ่มต้นสร้างคุณค่า ที่จะเชื่อมโยงให้เกิดเครือข่ายของคุณค่าร่วม ซึ่งท้ายที่สุดจะกลายมาเป็น

New Community ของแบรนด์

และเมื่อมันแข็งแรงพอ แบรนด์จะสามารถสร้างสิ่งที่มีมูลค่าขึ้นมาได้ในเครือข่ายของตนเอง

Starbuck คือ อีกหนึ่งตัวอย่างครับ

พวกเขาได้สร้างเครือข่ายขนาดใหญ่ทั่วโลก ไม่ใช่เครือข่ายร้านกาแฟ แต่เป็นเครือข่าย Starbuck เมื่อผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่น

เครือข่ายที่มีก็ได้กลายเป็นมูลค่าให้กับ Starbuck

วันนี้ Starbuck Cards มีจำนวนเงินหรือ มูลค่า มากกว่าธนาคารบางธนาคารด้วยซ้ำ

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเฉพาะแบรนด์ใหญ่นะครับ ขอเพียงแค่เรารู้คุณค่าของแบรนด์ ทำให้แบรนด์มีชีวิตและเชื่อมโยงกับผู้บริโภค

เราก็สามารถสร้างเครือข่ายแห่งคุณค่าร่วมของแบรนด์ได้เช่นกัน

#BRAND #BRANDing #BRANDing4point0 #BRANDi #BRANDist