การเดินทางของเงิน 1,000 เหรียญ
ยามบ่ายที่ร้อนอบอ้าว ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง บนถนนไร้ผู้คน ไร้ซึ่งชีวิตชีวา เนื่องจากเศรษฐกิจซบเซามานาน ชาวบ้านชาวช่องหรือพ่อค้าต่างมีหนี้สินล้นพ้นตัว อาศัยการติดหนี้ติดสินประคองตัวรอดไปวันๆ
ในเวลานั้น มีนักท่องเที่ยวท่าทางร่ำรวยเดินเข้ามาในโรงแรม แกหยิบธนบัตรฉบับหนึ่งพันเหรียญออกมาวางบนเค้าเตอร์ บอกเจ้าของโรงแรมว่าจะมาหาห้องนอนค้างแรม แต่ก่อนอื่นต้องขอแกขึ้นไปเดินสำรวจหาห้องนอนที่ถูกใจก่อน พอพนักงานพาแขกขึ้นไปเลือกห้อง เจ้าของโรงแรมรีบนำเงินพันเหรียญตรงไปร้านขายหมูที่อยู่ติดกับโรงแรม เพื่อชำระหนี้ค่าเนื้อหมูที่ติดค้างกันไว้ พ่อค้าขายหมูพอได้รับเงิน ก็รีบเดินข้ามถนนไปชำระหนี้พันเหรียญที่ติดค้างกับคนเลี้ยงหมู คนเลี้ยงหมูพอได้รับเงินก็รีบตรงไปร้านขายอาหารสัตว์ไปชำระหนี้ คนขายอาหารสัตว์เมื่อได้เงินก็ไม่รอช้า รีบนำเงินไปจ่ายค่าตัวผู้หญิงหากินที่ยังค้างหนี้หล่อนอยู่ เหตุเพราะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ต่อเนื่องกันมานาน ธุรกิจทุกรูปแบบจึงต้องยอมอนุโลมซื้อขายกันเป็นเงินเชื่อทั้งนั้น สุดท้ายผู้หญิงหากินคนนั้นก็หยิบเงินพันเหรียญตรงไปจ่ายค่าห้องที่ติดหนี้โรงแรมไว้
ในเวลาถัดมา แขกที่เดินขึ้นไปสำรวจห้องพักก็เดินลงมาจากชั้นบน แกบอกเจ้าของโรงแรมว่าไม่มีห้องที่แกถูกใจ ว่าแล้วแกก็ขอเงินคืนก่อนเดินออกจากโรงแรมไป
เหตุการณ์ในวันนั้น ไม่มีใครขายสินค้าหรือบริการอะไรได้เลย และก็ไม่มีใครได้รับสินค้าหรือใช้บริการใดๆจากใครทั้งนั้น แต่ทุกคนก็ได้จ่ายหนี้จ่ายสินไปเรียบร้อยหมด ต่างโล่งอกกันถ้วนหน้า
นิทานเรื่องนี้บอกให้รู้ว่า
เงินทองต้องมีการหมุนเวียน จึงจะเกิดมูลค่า และเศรษฐกิจจะดีได้ก็ต้องมีการบริหารที่มีประสิทธิภาพ
"ขจรศักดิ์"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น