วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559

“คุณไม่ได้เกลียดการออกกำลังกาย คุณแค่ยังไม่เจอความรัก” ............................ ออกกำลังกายได้รู้จักตัวตนภายใน . ช่วงเวลาที่ผมออกกำลังกาย เป็นช่วงเวลาที่ผมได้อยู่กับตัวตนที่อยู่ข้างในของผมมากขึ้น และได้อยู่ต่อเนื่องแม้จะเลิกออกกำลังกาย มันเป็นความสุขที่ลึกกว่าการหลั่งฮอร์โมนเสียอีกจนผมอยากให้ทุกคนได้ลองสัมผัสเหมือนกับที่ผมได้สัมผัสครับ . อยู่กับสติในการดูแลตัวเอง หลังจากที่ผมออกกำลังกายเป็นประจำแล้ว ผมมีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น ผมเลือกกินปลาและผักแทนที่หมูไก่และไข่ที่เสี่ยงต่อสารเร่ง เลือกกินผลไม้แทนขนม เลิกเข้าฟาสท์ฟู้ดชั่วชีวิต เลือกเดินแทนที่จะนั่งรถติดอยู่ในแท็กซี่ สติมาของมันเองโดยธรรมชาติ มันมาฉุดทุกครั้งที่เราจะทำร้ายร่างกายตัวเอง . คอนเนคกับธรรมชาติ หากคุณชอบวิ่งในสวน ผมแนะนำอย่าเสียบหูฟังแล้วอัดเพลงตามนะครับ ขณะที่วิ่งลองดึงความคิดกลับมาที่ตัว ให้ใจจดจ่อกับแต่ละก้าวที่วิ่งและสิ่งรอบข้าง แล้วคุณจะได้ยินเสียงสดใสของนก ได้เห็นเงาของต้นไม้ที่คอยบังแดดให้คุณ ได้รู้สึกถึงลมเย็นๆตอนที่มันพัดมาสัมผัสกับผิว รู้สึกถึงชีวิตของพื้นดินและหญ้าที่แตกต่างจากซีเมนต์ และถ้าคุณทำมันบ่อยพอ คุณจะรู้สึกได้ถึงพลังงานจากธรรมชาติที่ให้กับเรา ช่วงเวลาวิ่งจะเป็นช่วงเวลาที่คุณรู้สึกสดชื่นเบาสบายไม่ต่างจากตอนที่นั่งอยู่ริมชายหาดหรือน้ำตก ได้รู้สึกถึงความรักในธรรมชาติ ได้รับรู้ถึงความเป็นหนึ่งเดียวของทุกสิ่ง . เฝ้าดูความคิด เฝ้าดูร่างกาย ทุกครั้งที่ผมต่อยมวย เมื่อถึงจุดหนึ่งความคิดจะบอกให้ผมหยุดเถอะ ไม่ไหวแล้ว ไปต่อไม่ได้แล้ว เหนื่อยมากแล้ว และมันทำให้ผมเลิกเล่นดื้อๆ แต่ถ้าผมไม่เชื่อความคิดตัวเองและเล่นต่อไปอีกหน่อย ผมจะเห็นร่างกายของผมยังไปต่อได้ เป็นช่วงเวลาที่ผมเฝ้ามองความคิดและร่างกายของตัวเองว่ามันคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร แตกต่างแค่ไหน และทำให้ผมได้บทเรียนสำคัญที่สุดบทหนึ่งในชีวิตว่า “บ่อยครั้งความคิดของเราเชื่อถือไม่ได้” และเวลาที่ผมเจอความท้าทายทั้งเรื่องงาน เรื่องความรัก เรื่องชีวิต เรื่องความฝัน และมันบอกผมว่าแกทำไม่ได้หรอก ผมจะไม่เชื่อความคิดของผมอีก ผมจะเชื่อ “ความรู้สึก” ตัวเองมากกว่า “ความคิด” . เข้าถึงความว่าง สิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งของการต่อยมวยคือลมหายใจ บ่อยครั้งผมเอาแต่ใส่ใจเรื่องท่าหรือคู่ต่อสู้ทำให้ผมลืมหายใจหรือหายใจไม่เป็นจังหวะ สุดท้ายก็เหนื่อยง่าย ต่อยไม่ครบยก ขณะที่ต่อยผมเลยฝึกกำหนดสติไว้ที่ลมหายใจพร้อมกับการเคลื่อนไหว และเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ความคิดของผมเงียบเสียงลง ผมจะรู้สึกเหมือนเวลาหยุดเดิน มีแต่ร่างกายของผมที่เคลื่อนไหวแต่ข้างในผมไม่ได้เคลื่อนไหว ผมกลายเป็นคนเฝ้าดูร่างกายตัวเอง แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของร่างกาย ความว่างปรากฏ ผมไม่ได้อยู่ในร่างกายของผม ผมอยู่ในความว่างนั้น . แต่กว่าที่ผมจะเข้าถึงตัวตนข้างในผ่านการออกกำลังกายได้ก็เมื่อผมเจอกีฬาที่ผมรักแล้ว . ความรักทำให้ผมเจอตัวเองครับ อาทิตย์หน้าเรามาดูเทคนิคที่ทำให้เรารักกีฬาครับ (มีต่อ) .................... ความสุขของมนุษย์เงินเดือน ตอนที่ 14 ออกกำลังกาย Episode III ยอดรักเขียน facebook.com/yodwriter แอด line ผมได้ที่ ID ชื่อ @yodwriter แล้วผมจะอัพเดทแง่คิดที่ทำให้หัวใจคุณเต้นแรงครับ

“คุณไม่ได้เกลียดการออกกำลังกาย คุณแค่ยังไม่เจอความรัก”
............................

ออกกำลังกายได้รู้จักตัวตนภายใน
.
ช่วงเวลาที่ผมออกกำลังกาย เป็นช่วงเวลาที่ผมได้อยู่กับตัวตนที่อยู่ข้างในของผมมากขึ้น และได้อยู่ต่อเนื่องแม้จะเลิกออกกำลังกาย มันเป็นความสุขที่ลึกกว่าการหลั่งฮอร์โมนเสียอีกจนผมอยากให้ทุกคนได้ลองสัมผัสเหมือนกับที่ผมได้สัมผัสครับ
.
อยู่กับสติในการดูแลตัวเอง
หลังจากที่ผมออกกำลังกายเป็นประจำแล้ว ผมมีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น ผมเลือกกินปลาและผักแทนที่หมูไก่และไข่ที่เสี่ยงต่อสารเร่ง เลือกกินผลไม้แทนขนม เลิกเข้าฟาสท์ฟู้ดชั่วชีวิต เลือกเดินแทนที่จะนั่งรถติดอยู่ในแท็กซี่ สติมาของมันเองโดยธรรมชาติ มันมาฉุดทุกครั้งที่เราจะทำร้ายร่างกายตัวเอง
.
คอนเนคกับธรรมชาติ
หากคุณชอบวิ่งในสวน ผมแนะนำอย่าเสียบหูฟังแล้วอัดเพลงตามนะครับ ขณะที่วิ่งลองดึงความคิดกลับมาที่ตัว ให้ใจจดจ่อกับแต่ละก้าวที่วิ่งและสิ่งรอบข้าง แล้วคุณจะได้ยินเสียงสดใสของนก ได้เห็นเงาของต้นไม้ที่คอยบังแดดให้คุณ ได้รู้สึกถึงลมเย็นๆตอนที่มันพัดมาสัมผัสกับผิว รู้สึกถึงชีวิตของพื้นดินและหญ้าที่แตกต่างจากซีเมนต์ และถ้าคุณทำมันบ่อยพอ คุณจะรู้สึกได้ถึงพลังงานจากธรรมชาติที่ให้กับเรา ช่วงเวลาวิ่งจะเป็นช่วงเวลาที่คุณรู้สึกสดชื่นเบาสบายไม่ต่างจากตอนที่นั่งอยู่ริมชายหาดหรือน้ำตก ได้รู้สึกถึงความรักในธรรมชาติ ได้รับรู้ถึงความเป็นหนึ่งเดียวของทุกสิ่ง
.
เฝ้าดูความคิด เฝ้าดูร่างกาย 
ทุกครั้งที่ผมต่อยมวย เมื่อถึงจุดหนึ่งความคิดจะบอกให้ผมหยุดเถอะ ไม่ไหวแล้ว ไปต่อไม่ได้แล้ว เหนื่อยมากแล้ว และมันทำให้ผมเลิกเล่นดื้อๆ แต่ถ้าผมไม่เชื่อความคิดตัวเองและเล่นต่อไปอีกหน่อย  ผมจะเห็นร่างกายของผมยังไปต่อได้ เป็นช่วงเวลาที่ผมเฝ้ามองความคิดและร่างกายของตัวเองว่ามันคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร แตกต่างแค่ไหน และทำให้ผมได้บทเรียนสำคัญที่สุดบทหนึ่งในชีวิตว่า “บ่อยครั้งความคิดของเราเชื่อถือไม่ได้” และเวลาที่ผมเจอความท้าทายทั้งเรื่องงาน เรื่องความรัก เรื่องชีวิต เรื่องความฝัน และมันบอกผมว่าแกทำไม่ได้หรอก ผมจะไม่เชื่อความคิดของผมอีก ผมจะเชื่อ “ความรู้สึก” ตัวเองมากกว่า “ความคิด”
.
เข้าถึงความว่าง สิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งของการต่อยมวยคือลมหายใจ บ่อยครั้งผมเอาแต่ใส่ใจเรื่องท่าหรือคู่ต่อสู้ทำให้ผมลืมหายใจหรือหายใจไม่เป็นจังหวะ สุดท้ายก็เหนื่อยง่าย ต่อยไม่ครบยก ขณะที่ต่อยผมเลยฝึกกำหนดสติไว้ที่ลมหายใจพร้อมกับการเคลื่อนไหว และเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ความคิดของผมเงียบเสียงลง ผมจะรู้สึกเหมือนเวลาหยุดเดิน  มีแต่ร่างกายของผมที่เคลื่อนไหวแต่ข้างในผมไม่ได้เคลื่อนไหว ผมกลายเป็นคนเฝ้าดูร่างกายตัวเอง แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของร่างกาย ความว่างปรากฏ  ผมไม่ได้อยู่ในร่างกายของผม ผมอยู่ในความว่างนั้น
.
แต่กว่าที่ผมจะเข้าถึงตัวตนข้างในผ่านการออกกำลังกายได้ก็เมื่อผมเจอกีฬาที่ผมรักแล้ว
.
ความรักทำให้ผมเจอตัวเองครับ

อาทิตย์หน้าเรามาดูเทคนิคที่ทำให้เรารักกีฬาครับ

(มีต่อ)

....................
ความสุขของมนุษย์เงินเดือน
ตอนที่ 14 ออกกำลังกาย Episode III
ยอดรักเขียน
facebook.com/yodwriter
แอด line ผมได้ที่ ID ชื่อ @yodwriter
แล้วผมจะอัพเดทแง่คิดที่ทำให้หัวใจคุณเต้นแรงครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น