ลิฟท์ช้า
ผู้จัดการของตึกสำนักงานใหญ่แห่งหนึ่ง ได้รับคำตำหนิอย่างมาก
เกี่ยวกับความเชื่องช้าของลิฟต์ในตึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง
เวลางาน เนื่องจากบางบริษัทที่เช่าสำนักงานอยู่ในตึกนี้ ขู่ว่าจะ
ย้ายไปอยู่ที่อื่น ถ้าหากทางผู้จัดการยังไม่แก้ไขปัญหาดังกล่าว
ทางผู้จัดการจึงตัดสินใจว่า จะต้องแก้ไขปัญหานี้ให้เสร็จสิ้นโดย
เร็ว ผู้จัดการได้เรียกประชุมกลุ่มวิศวกรที่ปรึกษาที่มีความชำนาญ
ในการออกแบบระบบลิฟต์ หลังจากที่พวกเขาสำรวจเหตุการณ์ที่
เกิดขึ้นแล้ว ทางวิศวกรที่ปรึกษา จึงได้เสนอวิธีแก้ไขด้วยกัน 3
แบบ คือ
1. เพิ่มจำนวนลิฟต์
2. เปลี่ยนลิฟต์ที่มีอยู่บางตัวด้วยลิฟต์ที่วิ่งเร็วกว่า
3. ติดตั้งระบบควบคุมคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ควบคุมการทำงานของ
ลิฟต์ทั้งหมดให้เร็วขึ้น
ทางวิศวกรที่ปรึกษาได้คำนวณค่าใช้จ่ายและประโยชน์ โดยวิธี
การทั้ง 3 ข้อนี้ พวกเขาสรุปได้ว่า การเพิ่มจำนวนลิฟต์หรือการ
เปลี่ยนลิฟต์ที่มีอยู่บางตัวด้วยลิฟต์ที่วิ่งเร็วกว่าเท่านั้น ที่สามารถ
ทำให้การบริการดีกว่าเดิม แต่ว่าต้นทุนของวิธีการทั้งสองสูงกว่า
ประโยชน์ ที่ทางผู้จัดการจะได้รับมาก ดังนั้นถ้ากล่าวกันจริงๆ
แล้ว ไม่มีวิธีใดที่ดีพอที่ควรจะใช้เลย บรรดาวิศวกรจึงปล่อยให้ผู้
จัดการตึกเป็นคนตัดสินใจปัญหาเอง
ผู้จัดการตึกจึงเรียกประชุมบรรดาลูกจ้างทุกคน เพื่อขอความคิด
เห็น ว่ากันตามจริงแล้วผู้จัดการน้อยคนนัก ที่จะปฏิบัติเช่นผู้จัด
การตึกท่านนี้ เขาพูดถึงปัญหาของลิฟต์ให้บรรดาลูกจ้างฟังและ
ขอความคิดเห็นจากลูกจ้างที่เข้าประชุม ได้มีผู้แสดงความคิด
เห็นและให้ข้อแนะนำหลายอย่าง แต่ว่าข้อคิดเห็นนั้นก็ถูกยกเลิก
ไปก่อนที่จะผ่านวาระการประชุมเสมอ
การประชุมเริ่มดำเนินการช้าลง จนกระทั่งชายหนุ่มผู้หนึ่งซี่งทำ
หน้าที่เป็นผู้ช่วยของแผนกบุคคลและได้นั่งเงียบมาตลอด ได้ขอ
แสดงความคิดเห็นของเขาบ้าง เขาอธิบายความเห็นของเขา
อย่างสั้น ๆ และกินเวลาครู่เดียว ทุกคนในที่ประชุมเห็นด้วยกับ
ข้อเสนอของเขาทันที หลังจากนั้นสองสามสัปดาห์ก็ไม่มีเสียง
บ่นจากผู้ใช้ลิฟต์อีกเลย ปัญหาต่าง ๆ ได้หมดไปอย่างสิ้นเชิง
นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหาก็น้อยมาก
วิธีการที่ทางผู้จัดการใช้คือ เขาได้ติดตั้งกระจกขนาดใหญ่บน
ผนังข้าง ๆ ลิฟต์ของทุก ๆ ชั้น ชายหนุ่มสมองใสคนนั้นใช้หลัก
จิตวิทยาเข้าช่วยในการคำนึงถึงสาเหตุที่คนบ่นว่าลิฟต์ช้า เขา
คิดว่าความเบื่อหน่ายในการรอลิฟต์เป็นสาเหตุดังกล่าว แท้จริง
แล้วช่วงเวลาที่คนเหล่านี้รอลิฟต์ค่อนข้างน้อยมาก แต่พวกเขา
คิดว่านาน เพราะพวกเขาไม่มีอะไรทำในระหว่างที่ยืนรออยู่
ชายหนุ่มคนนี้เสนอบางสิ่งบางอย่างให้คนพวกนี้ทำคือ ให้พวก
เขามองดูตัวเองและผู้อื่น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพศตรงข้าม) ใน
กระจก สิ่งนี้ทำให้ทุกคนที่รอลิฟต์มีอะไรบางสิ่งบางอย่างที่ไม่
เบื่อหน่ายทำ
ข้อคิด : ปัญหาหนึ่ง ๆ ย่อมมีวิธีแก้ไขได้หลายแบบเสมอ
ที่มา : http://blog.rmutp.ac.th/sukumal.w/2010/11/15
ภาพ : https://www.youtube.com/watch?v=1YDOGVCq8gM
#ThammanoonsFC
#เรื่องดีๆมีข้อคิด
Line : ts2502
Instagram : th.thamma
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น