วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

 การเงินที่เราเข้าใจผิดมาตลอด เพื่อนผมคนหนึ่งเพิ่งเป็นเศรษฐีใหม่ ทั้งที่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันเขาหัวเอียงซ้ายและเกลียดเงินเป็นที่สุด   ผมไม่แปลกใจเท่าไรกับความคิดที่เขาหันมาชอบเงิน คนหัวเอียงซ้ายสูญพันธ์ไปหมดแล้ว เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ล้วนชอบเงิน แต่สงสัยว่าเหตุใดเขาจึงยังดูเครียดกังวล พบปะกันทีไรก็บ่นว่าอยากมีเงินมากกว่านี้ ต้องหาทางให้ธุรกิจทำเงินให้มากขึ้นๆ ไม่ต่างกับผมที่ยังขัดสนไส้แห้งประสานักเขียนที่เป็นมาช้านานไม่เปลี่ยน ทำไมเขาไม่สุขสบายเช่นเศรษฐีเก่า – ญาติอาวุโสของผมคนหนึ่ง “เป้าหมายของเอ็งคือหาเงินให้ได้มากขึ้นๆ ใช่ไหม” เศรษฐีเก่าถามผม “ไม่เชิงว่าต้องรวยแบบเพื่อนหรอกครับ” ผมตอบระมัดระวัง “แค่อยากเก็บเงินให้มากกว่านี้” “ไม่ต่างกันหรอก” เศรษฐีเก่าพูด “เอ็งรู้ใช่ไหมว่าเท่าไหร่ถึงจะพอ” ไม่รู้… แค่หาไปเรื่อยๆ เก็บไปเรื่อยๆ ก็เป็นเป้าหมายที่ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ เศรษฐีเก่าให้ผมเล่นเกม ที่แกบอกว่าจะทำให้ผมเรียนรู้วิชาการเงินได้ดีกว่าที่เรียนในมหาวิทยาลัย แกว่าพรุ่งนี้ผมจะได้เงิน 1,000 ล้านบาท เงื่อนไขคือผมต้องจดรายการสรรพปัจจัย สิ่งของ หรือทรัพย์สินทั้งหมดที่อยากได้ในชีวิต ค่าใช้จ่ายสำหรับประสบการณ์อย่างการท่องเที่ยวเดินทางหรือการศึกษา รวมทั้งเรื่องอื่นใดที่จะทำให้ผมมีความสุขและรู้สึกเต็มเปี่ยมในชีวิตที่คิดว่าเงินจะซื้อหาได้ มาทั้งหมด ญาติอาวุโสจะไม่ให้เงินมหาศาลนั่นแก่ผมหรอก แกเองไม่มีมากถึงขนาดนั้น แต่ก็อยากรู้ว่าบทเรียนที่แกว่าคืออะไร จึงตั้งใจทำการบ้าน คิดรายการทุกอย่างที่อยากได้ทั้งคืนจนไม่รู้จะมีอะไรที่อยากมีอยากได้อีก จดนำมาส่งแกในวันรุ่งขึ้น  ผมรู้ว่าผมได้เรียนรู้บางบทเรียนเองขณะบันทึกสิ่งที่อยากได้บนแผ่นกระดาษ เช่น บางรายการมีความสำคัญกว่ารายการอื่น บางรายการเป็นเรื่องเร่งด่วนขณะบางรายการรอได้ บางรายการเขียนแล้วขีดฆ่าทิ้งเสียเองเพราะไม่ต้องใช้เงิน ไม่รวมถึงมันทำให้ผมเข้าใจตัวเองมากขึ้นว่าต้องการอะไรบ้างในการดำรงชีพ อะไรบ้างที่ผมรักผมชอบจริงๆ ในชีวิต  และน่าแปลกใจที่ผมสงบขึ้นชั่วครู่ ไม่รู้สึกเคร่งเครียดแกมหมั่นไส้อิจฉาเศรษฐีใหม่อย่างเคย เศรษฐีเก่ารับกระดาษหลายหน้าที่ผมจดบันทึกรายการงบประมาณ 1,000 ล้านของผมไปดูด้วยความพึงพอใจ ผมจำไม่ได้ว่าจำนวนกี่รายการ แต่คงไม่น้อยกว่าสองร้อยเป็นแน่ แกเหมือนจะมั่นใจอะไรบางอย่าง “เงินอยู่ในรายการพวกนี้ไหม” แกถาม “เอ็งเขียนว่าอยากได้เงิน หรืออยากได้เงินมากขึ้น ด้วยไหม” อึ้ง ส่ายหน้า ก็เกมนี้แค่ให้ผมเขียนสิ่งที่เงินซื้อหาได้ ใครมันจะบ้าอยากได้เงินอีกล่ะ เศรษฐีเก่าสรุปผลการทดลองและให้บทเรียนแก่ผม  เงินเป็นแค่เครื่องมือ ช่วยพาเราสู่เป้าหมาย หาเป้าหมายที่ชอบให้เจอแล้วให้เงินให้มันพาช่วยเราไป ถ้ามัวคิดว่าเป้าหมายคือมีเงินมากขึ้นๆ ถึงจะมีเท่าไหร่ก็ไม่มีวันจะพอ 132 SHARE 3 Published 3 days ago  |   Writer KaminKamani Writer Follow Comments

การเงินที่เราเข้าใจผิดมาตลอด

เพื่อนผมคนหนึ่งเพิ่งเป็นเศรษฐีใหม่ ทั้งที่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันเขาหัวเอียงซ้ายและเกลียดเงินเป็นที่สุด

 
ผมไม่แปลกใจเท่าไรกับความคิดที่เขาหันมาชอบเงิน คนหัวเอียงซ้ายสูญพันธ์ไปหมดแล้ว เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ล้วนชอบเงิน

แต่สงสัยว่าเหตุใดเขาจึงยังดูเครียดกังวล พบปะกันทีไรก็บ่นว่าอยากมีเงินมากกว่านี้ ต้องหาทางให้ธุรกิจทำเงินให้มากขึ้นๆ ไม่ต่างกับผมที่ยังขัดสนไส้แห้งประสานักเขียนที่เป็นมาช้านานไม่เปลี่ยน ทำไมเขาไม่สุขสบายเช่นเศรษฐีเก่า – ญาติอาวุโสของผมคนหนึ่ง

“เป้าหมายของเอ็งคือหาเงินให้ได้มากขึ้นๆ ใช่ไหม” เศรษฐีเก่าถามผม

“ไม่เชิงว่าต้องรวยแบบเพื่อนหรอกครับ” ผมตอบระมัดระวัง “แค่อยากเก็บเงินให้มากกว่านี้”

“ไม่ต่างกันหรอก” เศรษฐีเก่าพูด “เอ็งรู้ใช่ไหมว่าเท่าไหร่ถึงจะพอ”

ไม่รู้… แค่หาไปเรื่อยๆ เก็บไปเรื่อยๆ ก็เป็นเป้าหมายที่ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ

เศรษฐีเก่าให้ผมเล่นเกม ที่แกบอกว่าจะทำให้ผมเรียนรู้วิชาการเงินได้ดีกว่าที่เรียนในมหาวิทยาลัย แกว่าพรุ่งนี้ผมจะได้เงิน 1,000 ล้านบาท เงื่อนไขคือผมต้องจดรายการสรรพปัจจัย สิ่งของ หรือทรัพย์สินทั้งหมดที่อยากได้ในชีวิต ค่าใช้จ่ายสำหรับประสบการณ์อย่างการท่องเที่ยวเดินทางหรือการศึกษา รวมทั้งเรื่องอื่นใดที่จะทำให้ผมมีความสุขและรู้สึกเต็มเปี่ยมในชีวิตที่คิดว่าเงินจะซื้อหาได้ มาทั้งหมด

ญาติอาวุโสจะไม่ให้เงินมหาศาลนั่นแก่ผมหรอก แกเองไม่มีมากถึงขนาดนั้น แต่ก็อยากรู้ว่าบทเรียนที่แกว่าคืออะไร จึงตั้งใจทำการบ้าน คิดรายการทุกอย่างที่อยากได้ทั้งคืนจนไม่รู้จะมีอะไรที่อยากมีอยากได้อีก จดนำมาส่งแกในวันรุ่งขึ้น 

ผมรู้ว่าผมได้เรียนรู้บางบทเรียนเองขณะบันทึกสิ่งที่อยากได้บนแผ่นกระดาษ เช่น บางรายการมีความสำคัญกว่ารายการอื่น บางรายการเป็นเรื่องเร่งด่วนขณะบางรายการรอได้ บางรายการเขียนแล้วขีดฆ่าทิ้งเสียเองเพราะไม่ต้องใช้เงิน ไม่รวมถึงมันทำให้ผมเข้าใจตัวเองมากขึ้นว่าต้องการอะไรบ้างในการดำรงชีพ อะไรบ้างที่ผมรักผมชอบจริงๆ ในชีวิต 

และน่าแปลกใจที่ผมสงบขึ้นชั่วครู่ ไม่รู้สึกเคร่งเครียดแกมหมั่นไส้อิจฉาเศรษฐีใหม่อย่างเคย

เศรษฐีเก่ารับกระดาษหลายหน้าที่ผมจดบันทึกรายการงบประมาณ 1,000 ล้านของผมไปดูด้วยความพึงพอใจ ผมจำไม่ได้ว่าจำนวนกี่รายการ แต่คงไม่น้อยกว่าสองร้อยเป็นแน่ แกเหมือนจะมั่นใจอะไรบางอย่าง

“เงินอยู่ในรายการพวกนี้ไหม” แกถาม “เอ็งเขียนว่าอยากได้เงิน หรืออยากได้เงินมากขึ้น ด้วยไหม”

อึ้ง ส่ายหน้า ก็เกมนี้แค่ให้ผมเขียนสิ่งที่เงินซื้อหาได้ ใครมันจะบ้าอยากได้เงินอีกล่ะ

เศรษฐีเก่าสรุปผลการทดลองและให้บทเรียนแก่ผม 

เงินเป็นแค่เครื่องมือ ช่วยพาเราสู่เป้าหมาย หาเป้าหมายที่ชอบให้เจอแล้วให้เงินให้มันพาช่วยเราไป ถ้ามัวคิดว่าเป้าหมายคือมีเงินมากขึ้นๆ ถึงจะมีเท่าไหร่ก็ไม่มีวันจะพอ

132

SHARE

3

Published 3 days ago  |  

Writer

KaminKamani

Writer

Follow

Comments

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น