วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2559

คำว่า แต่งงาน ในฐานะผู้ชายดีๆ ที่หายากคนหนึ่ง ผมรู้สึกเห็นใจสตรีเพศจริงๆ ช่วงเวลาในการเลือกคู่ของเธอทั้งหลายช่างสั้นยิ่งนัก เพราะช่วง อายุขัยของวัยสาวเริ่มผลิบานเมื่อประมาณ 13 ปี แล้วมาสุดเขต แดนเมื่อวัยสามสิบ วันเกิดครบรอบ 30 จึงเป็นตัวเลข!แห่งความ สะเทือนขวัญ ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก… หลายคนไม่อยากพูดถึง คนอื่นก็ไม่ควรเอ่ยปากด้วย ถือเป็นมาร ยาทสังคมอย่างหนึ่ง ยกเว้นพวกมีวาจาเป็นอาวุธที่ชอบถามว่า " ปาอะไรเอ่ยที่ผู้หญิงกลัวที่สุด " เฉลย " ปาเข้าไปสามสิบยังไม่มีผัว " … ใครดันถาม มันผู้นั้นสมควรตาย ตอนเรียนหนังสือเป็นนักเรียนนักศึกษา คุณพ่อคุณแม่ก็สอนนัก สอนหนาว่า " อย่าริรักในวัยเรียน 'ตั้งใจเร ียนหนังสือให้ดี จบแล้วค่อยมีแฟน" ทั้งๆ ที่ไอ้ตอนเรียนหนังสือ มีโอกาสพบปะเพศตรงข้ามมากหน้า หลายตาก็หาได้สนใจไม่ เป็นคนประเภท ' รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่เรียน ' ทุ่มเทชีวิตให้แก่การศึกษาเมื่อเติบใหญ่เราจะได้มีวิชา เป็นเครื่อง หาเลี้ยงชีพสำหรับตน หลังจบการศึกษา ประกอบสัมมาอาชีวะ ขณะเดียวกันก็ใช้เวลา ว่างเลือกสรรควานหา ผู้จะมาเป็นเจ้าบ่าวในอนาคต ตั้งสเปกว่า ต้องได้แฟนหนุ่มประเภทซูเปอร์เพอร์เฟคอย่างวิลลี่ แมคอินทอช หรือจอห์นนี่ แอนโฟเน่ หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องมาดแมนแฮนซั่ม หล่อล่ำดำขรึม ถึงจะได้มาตรฐาน ไอ้ประเภทหุ่นอัฟริกา หน้าติ มอร์ อย่าได้สะเออะหน้ามาให้เห็น…ไม่มีทางได้แอ้มหรอก จากวันเป็นเดือน - จากเดือนเป็นปี ความรักไม่มีวี่แววคืบหน้าแม้ วันเวลา ผ่านไป เพราะที่ทำงานทั้งห้องมีผู้ชายอยู่แค่ 5 คน เจ้า นายก็! มีเมียแล้วไม่อยากตกเป็นภรรยาบุญธรรม สองคนดันเป็น เกย์ อีกคนยังลังเลอยู่ว่าจะเป็นดีหรือเปล่า คนสุดท้ายเป็นชาย แท้ แต่กำลังถูกแย่งตัวระหว่างเกย์สองคนอยู่ ไม่อยากเข้าไปเป็น มือที่สาม…นั่งรถมาทำงานก็สองชั่วโมงครึ่ง กลับอีกสองชั่วโมง สี่สิบนาที กลับถึงบ้าน หมดสิ้นกำลัง ขอนอนเอาแรงก่อน......... ขณะที่งีบหลับอย่างสนิท ภาพในความฝันที่เธอเห็นคือสถาบัน การศึกษาที่เธอจบมาแหล่งที่มีเพศตรงข้ามชุกชุม เธอหวนรำลึก นึกถึงผู้ชายดีๆ ที่เขาเคยอุตส่าห์มาเฝ้าตามจีบ ตามง้อตามตื้อ แล้วเราเล่นตัวจนเคยตัว ในที่สุดผลประโยชน์ตกอยู่ที่เพื่อนสนิท เป็นที่เรียบร้อย…แหม! ไม่น่าเลย ยิ่งคิดยิ่งเสียดายจริงจริ๊ง…ตื่น พอดี เจอโลกแห่งความจริง ดำเนินชีวิตไปแต่ละวัน ยิ่งเข้าหน้าหนาว ซองสีชมพูกลิ่นหอมๆ จากเพื่อนๆ เริ่มทยอยมา ตามหลังซอง กฐินซองผ้าป่าที่เพิ่งหมดฤดูกาล…พอไปในงาน ดันเจอคำถาม สะกิดใจอีกว่า " เมื่อไรจะถึงคิวแจกการ์ดของตัวบ้างล่ะ ".. " โถ! การ์ดแต่งงานน่ะพิมพ์เสร็จแล้ว เหลือแต่ชื่อเจ้าบ่าวที่ยัง ไม่ได้เลือกว่าจะเป็นใคร เพราะครั้งนี้เขาเปลี่ยนระบบเลือกตั้ง ใหม่ยังงงๆ เรื่องปาร์ตี้ลิสต์อยู่เลย " เอ๊ะ…เกี่ยวอะไรกัน!…ในใจก็คิดว่า " ก็ฉันอยู่เป็นโสดนี่มันไม่ดียังไง หนักกระบาลใครรึเปล่า " เคยตั้งคำถามกันไหม…ว่าทำไมต้องแต่งงาน (กันด้วย!)… คำตอบจากเพื่อนๆ ที่แต่งงานแล้ว หรืออยากจะแต่งงานอาจมี หลากหลาย " อยู่คนเดียวมันว้าเหว่ อยากมีใครสักคนไว้แก้เหงา " … รายนี้เห็นผู้ชาย เป็นตัวคลายเหงา " รายได้ไม่พอใช้ หาคนช่วย (หาเงิน) "… ผมกลัวมาช่วยผลาญเงินมากกว่า " อยากมีลูก ก็ต้องหาพ่อก่อนสิ "… เกิดได้ลูกแล้วจะทิ้งพ่อรึเปล่าเนี่ยะ "โรงงานพร้อมแล้ว ขาดผู้ประกอบการ "… เจ้าของคำตอบกำลังหาผู้ร่วมลงทุนฯลฯ อันว่า ' ชีวิตคู่ ' อยู่ไปเพื่อสิ่งใด ? ชีวิตคู่ คือ การเติมเต็มซึ่งกัน และกัน ดังนั้นเมื่อมีชีวิตสมรสแล้ว ครึ่งหนึ่งของชีวิตเราจะหาย ไป ในส่วนที่ขาดจะมีครึ่งชีวิตของอีกฝ่ายมาเติมแต่งแห่งพื้นที่ ว่างนั้น ขณะที่ครึ่งชีวิตของเราที่หายก็มิได้สูญสลายไปไหน มัน ก็ไปเติมที่ว่างของคู่เรานั่นเอง จุดมุ่งหมายของการแต่งงานคือ การใช้ชีวิตคู่ให้มีความสุขมาก ขึ้นและมีชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อเป็นสามีภรรยาแล้วต้องมีความสุขมาก กว่าตอนอยู่คนเดียว ถ้าตอนอยู่ด้วยกันแล้วมีแต่ความทุกข์ความ เจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ก็ไม่รู้ว่าจะแต่งงานไปหาพระแสงดาบคาบ ค่ายที่ไหน… อยู่คนเดียวมันส์กว่า ชีวิตคู่ต้องเกื้อกูลกันและกัน ความก้าวหน้าของสามีภรรยาต้องมี อย่างน้อยก็ปลอบใจในยามที่สามีเครียดจากการงาน ชีวิตภรรยา ถ้าไม่คิดเอาดีในทางโลกก็เจริญในทางธรรม กำลังใจต้องได้จาก สามีเช่นกัน อย่างน้อยก็อย่าหาทุกข์มาสุมเพิ่ม… ถ้าคู่รักของเรา ประกอบมิจฉาอาชีวะ ติดเหล้าเล่นการพนัน โกงบ้านกินเมือง ชีวิตอีกฝ่ายก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น เพราะฉะนั้นเวลาเลือกแฟน แทนที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องรูป ร่างหน้าตา ฐานะการเงิน ยี่ห้อรถเก๋งที่ใช้อยู่ ฯลฯ เปลี่ยนเป็น เงื่อนไขแค่สองข้อที่จำแสนง่าย คือ หนึ่ง - สุขใจยามอยู่ใกล้ชิด สอง - คู่ช่วยคิดชีวิตก้าวหน้า เพราะชีวิตคู่คือการเติมเต็มชีวิตแก่กันและกันหาใช่เป้าหมายเพื่อ การเสริมเพิ่มความเสียว เพราะอยู่คนเดียวก็เสียวได้ ไม่ง้อใครให้ เสียเวลา ไม่เสียชาติเกิดหรอกครับ ถ้าคุณจะใช้ชีวิตเป็นโสด ถือ คติประจำใจว่า " อยู่เป็นโสด ดีกว่ามีผัวเลว " บทความโดย นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล / ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ บทความคุณภาพจากเพจ "เรื่องดีๆมีข้อคิด" โลกสวย : http://on.fb.me/1R2Asvx สาระน่ารู้ดีๆเรื่องกาแฟ : http://on.fb.me/17FdAN3 มหัศจรรย์เห็ดหลินจือ : http://on.fb.me/17y51Cs ขำขัน มันส์ฮา : http://on.fb.me/1cnaPFM สูตรเด็ด เคล็ดอร่อย : http://on.fb.me/1YY0mV

คำว่า แต่งงาน

ในฐานะผู้ชายดีๆ ที่หายากคนหนึ่ง   ผมรู้สึกเห็นใจสตรีเพศจริงๆ
ช่วงเวลาในการเลือกคู่ของเธอทั้งหลายช่างสั้นยิ่งนัก เพราะช่วง
อายุขัยของวัยสาวเริ่มผลิบานเมื่อประมาณ 13 ปี  แล้วมาสุดเขต
แดนเมื่อวัยสามสิบ วันเกิดครบรอบ 30 จึงเป็นตัวเลข!แห่งความ
สะเทือนขวัญ ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก…

หลายคนไม่อยากพูดถึง  คนอื่นก็ไม่ควรเอ่ยปากด้วย ถือเป็นมาร
ยาทสังคมอย่างหนึ่ง   ยกเว้นพวกมีวาจาเป็นอาวุธที่ชอบถามว่า
" ปาอะไรเอ่ยที่ผู้หญิงกลัวที่สุด "
เฉลย
" ปาเข้าไปสามสิบยังไม่มีผัว " …
ใครดันถาม มันผู้นั้นสมควรตาย

ตอนเรียนหนังสือเป็นนักเรียนนักศึกษา  คุณพ่อคุณแม่ก็สอนนัก
สอนหนาว่า
" อย่าริรักในวัยเรียน 'ตั้งใจเร ียนหนังสือให้ดี จบแล้วค่อยมีแฟน"
ทั้งๆ ที่ไอ้ตอนเรียนหนังสือ มีโอกาสพบปะเพศตรงข้ามมากหน้า
หลายตาก็หาได้สนใจไม่   เป็นคนประเภท ' รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่เรียน '
ทุ่มเทชีวิตให้แก่การศึกษาเมื่อเติบใหญ่เราจะได้มีวิชา เป็นเครื่อง
หาเลี้ยงชีพสำหรับตน

หลังจบการศึกษา ประกอบสัมมาอาชีวะ   ขณะเดียวกันก็ใช้เวลา
ว่างเลือกสรรควานหา ผู้จะมาเป็นเจ้าบ่าวในอนาคต  ตั้งสเปกว่า
ต้องได้แฟนหนุ่มประเภทซูเปอร์เพอร์เฟคอย่างวิลลี่ แมคอินทอช
หรือจอห์นนี่ แอนโฟเน่  หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องมาดแมนแฮนซั่ม
หล่อล่ำดำขรึม ถึงจะได้มาตรฐาน   ไอ้ประเภทหุ่นอัฟริกา หน้าติ
มอร์ อย่าได้สะเออะหน้ามาให้เห็น…ไม่มีทางได้แอ้มหรอก

จากวันเป็นเดือน - จากเดือนเป็นปี ความรักไม่มีวี่แววคืบหน้าแม้
วันเวลา ผ่านไป  เพราะที่ทำงานทั้งห้องมีผู้ชายอยู่แค่ 5 คน เจ้า
นายก็! มีเมียแล้วไม่อยากตกเป็นภรรยาบุญธรรม สองคนดันเป็น
เกย์   อีกคนยังลังเลอยู่ว่าจะเป็นดีหรือเปล่า  คนสุดท้ายเป็นชาย
แท้ แต่กำลังถูกแย่งตัวระหว่างเกย์สองคนอยู่ ไม่อยากเข้าไปเป็น
มือที่สาม…นั่งรถมาทำงานก็สองชั่วโมงครึ่ง กลับอีกสองชั่วโมง
สี่สิบนาที กลับถึงบ้าน หมดสิ้นกำลัง ขอนอนเอาแรงก่อน.........

ขณะที่งีบหลับอย่างสนิท   ภาพในความฝันที่เธอเห็นคือสถาบัน
การศึกษาที่เธอจบมาแหล่งที่มีเพศตรงข้ามชุกชุม เธอหวนรำลึก
นึกถึงผู้ชายดีๆ  ที่เขาเคยอุตส่าห์มาเฝ้าตามจีบ   ตามง้อตามตื้อ
แล้วเราเล่นตัวจนเคยตัว ในที่สุดผลประโยชน์ตกอยู่ที่เพื่อนสนิท
เป็นที่เรียบร้อย…แหม! ไม่น่าเลย ยิ่งคิดยิ่งเสียดายจริงจริ๊ง…ตื่น
พอดี

เจอโลกแห่งความจริง ดำเนินชีวิตไปแต่ละวัน  ยิ่งเข้าหน้าหนาว
ซองสีชมพูกลิ่นหอมๆ จากเพื่อนๆ เริ่มทยอยมา    ตามหลังซอง
กฐินซองผ้าป่าที่เพิ่งหมดฤดูกาล…พอไปในงาน ดันเจอคำถาม
สะกิดใจอีกว่า
" เมื่อไรจะถึงคิวแจกการ์ดของตัวบ้างล่ะ "..
" โถ!  การ์ดแต่งงานน่ะพิมพ์เสร็จแล้ว   เหลือแต่ชื่อเจ้าบ่าวที่ยัง
ไม่ได้เลือกว่าจะเป็นใคร     เพราะครั้งนี้เขาเปลี่ยนระบบเลือกตั้ง
ใหม่ยังงงๆ เรื่องปาร์ตี้ลิสต์อยู่เลย "
เอ๊ะ…เกี่ยวอะไรกัน!…ในใจก็คิดว่า
" ก็ฉันอยู่เป็นโสดนี่มันไม่ดียังไง หนักกระบาลใครรึเปล่า "
เคยตั้งคำถามกันไหม…ว่าทำไมต้องแต่งงาน (กันด้วย!)…

คำตอบจากเพื่อนๆ ที่แต่งงานแล้ว   หรืออยากจะแต่งงานอาจมี
หลากหลาย
" อยู่คนเดียวมันว้าเหว่ อยากมีใครสักคนไว้แก้เหงา " …
รายนี้เห็นผู้ชาย เป็นตัวคลายเหงา

" รายได้ไม่พอใช้ หาคนช่วย (หาเงิน) "…
ผมกลัวมาช่วยผลาญเงินมากกว่า

" อยากมีลูก ก็ต้องหาพ่อก่อนสิ "…
เกิดได้ลูกแล้วจะทิ้งพ่อรึเปล่าเนี่ยะ

"โรงงานพร้อมแล้ว ขาดผู้ประกอบการ "…
เจ้าของคำตอบกำลังหาผู้ร่วมลงทุนฯลฯ

อันว่า ' ชีวิตคู่ ' อยู่ไปเพื่อสิ่งใด ?   ชีวิตคู่ คือ การเติมเต็มซึ่งกัน
และกัน   ดังนั้นเมื่อมีชีวิตสมรสแล้ว ครึ่งหนึ่งของชีวิตเราจะหาย
ไป   ในส่วนที่ขาดจะมีครึ่งชีวิตของอีกฝ่ายมาเติมแต่งแห่งพื้นที่
ว่างนั้น ขณะที่ครึ่งชีวิตของเราที่หายก็มิได้สูญสลายไปไหน มัน
ก็ไปเติมที่ว่างของคู่เรานั่นเอง

จุดมุ่งหมายของการแต่งงานคือ  การใช้ชีวิตคู่ให้มีความสุขมาก
ขึ้นและมีชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อเป็นสามีภรรยาแล้วต้องมีความสุขมาก
กว่าตอนอยู่คนเดียว ถ้าตอนอยู่ด้วยกันแล้วมีแต่ความทุกข์ความ
เจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ก็ไม่รู้ว่าจะแต่งงานไปหาพระแสงดาบคาบ
ค่ายที่ไหน… อยู่คนเดียวมันส์กว่า

ชีวิตคู่ต้องเกื้อกูลกันและกัน ความก้าวหน้าของสามีภรรยาต้องมี
อย่างน้อยก็ปลอบใจในยามที่สามีเครียดจากการงาน ชีวิตภรรยา
ถ้าไม่คิดเอาดีในทางโลกก็เจริญในทางธรรม  กำลังใจต้องได้จาก
สามีเช่นกัน  อย่างน้อยก็อย่าหาทุกข์มาสุมเพิ่ม… ถ้าคู่รักของเรา
ประกอบมิจฉาอาชีวะ   ติดเหล้าเล่นการพนัน    โกงบ้านกินเมือง
ชีวิตอีกฝ่ายก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น

เพราะฉะนั้นเวลาเลือกแฟน   แทนที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องรูป
ร่างหน้าตา  ฐานะการเงิน  ยี่ห้อรถเก๋งที่ใช้อยู่ ฯลฯ     เปลี่ยนเป็น
เงื่อนไขแค่สองข้อที่จำแสนง่าย คือ
หนึ่ง - สุขใจยามอยู่ใกล้ชิด
สอง - คู่ช่วยคิดชีวิตก้าวหน้า
เพราะชีวิตคู่คือการเติมเต็มชีวิตแก่กันและกันหาใช่เป้าหมายเพื่อ
การเสริมเพิ่มความเสียว เพราะอยู่คนเดียวก็เสียวได้ ไม่ง้อใครให้
เสียเวลา ไม่เสียชาติเกิดหรอกครับ  ถ้าคุณจะใช้ชีวิตเป็นโสด ถือ
คติประจำใจว่า
" อยู่เป็นโสด ดีกว่ามีผัวเลว "

บทความโดย นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล / ภาควิชาจิตเวชศาสตร์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
บทความคุณภาพจากเพจ "เรื่องดีๆมีข้อคิด"

โลกสวย : http://on.fb.me/1R2Asvx
สาระน่ารู้ดีๆเรื่องกาแฟ : http://on.fb.me/17FdAN3
มหัศจรรย์เห็ดหลินจือ : http://on.fb.me/17y51Cs
ขำขัน มันส์ฮา : http://on.fb.me/1cnaPFM
สูตรเด็ด เคล็ดอร่อย : http://on.fb.me/1YY0mV

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น