วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2559

การมาวัดนั้น ไม่ใช่เรื่องของคนแก่คนชรา แต่เป็นเรื่องของคนที่ต้องการความสงบทางใจ ต้องการความมั่นคง ทางด้านจิตใจ ไม่ว่าเราจะอยู่ในวัยไหน เราก็ต้องการสิ่งนี้ด้วยกันทั้งนั้น แต่ว่าการกระทำนั้น มักจะเป็นไปในรูปอย่างนั้น จึงใคร่ขอแนะนำว่า เรามาปฏิรูปกันเสียที แทนที่จะเป็นคนแก่เข้าวัดศึกษาธรรมะ เราควรที่จะเอาคนที่อยู่ ในวัยหนุ่ม วัยฉกรรจ์ วัยกลางคน เข้าวัดกันเสียมั่ง เพราะว่าคนที่อยู่ในวัยหนุ่มวัยฉกรรจ์นี่แหละ จะเป็นกำลังสำคัญ ของสังคมไทยในการต่อไป ถ้าจิตใจของเขาไม่มั่นคง ขาดกำลังเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง การปฏิบัติกิจในหน้าที่ จะเอาดีได้อย่างไร อันนี้ เป็นเรื่องคน มีความเกี่ยวข้องกับการงานต่างๆ มีความเกี่ยวข้องกับคนมากๆ ย่อมจะมองเห็นด้วยตัวเอง ว่าคนที่ปฏิบัติงานอยู่ ในหน้าที่ประจำนั้น ยังมีการขาดอะไรบางสิ่ง บางประการ ที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด จึงได้เกิดเป็นปัญหา มีความวุ่นวายด้วยอาการต่างๆ นั่นแหละคือการขาดธรรมะ ไม่ได้สนใจ ที่จะมารับฟัง สิ่งที่เป็นประโยชน์ เราจึงควรจะได้เปลี่ยนแปลง นำคนที่ควรนำเข้ามาวัด คล้ายๆ กับคนป่วย ที่เราควรนำมารักษา ถ้าคนไม่เจ็บไม่ป่วย ไม่ร้องรักษาก็ไม่เป็นไร เพราะว่าคนป่วยนั้น อาการมันหนัก เราก็ต้องให้หยูกให้ยารักษากันไปตามเรี่อง คนป่วยทางกาย ยังต้องรีบพาไปโรงพยาบาล อันนี้นับว่าเป็นความผิดพลาดในชีวิตประจำวัน จึงใคร่แนะนำว่า ถ้าเรามีคนอยู่ในปกครองของเรา เช่น ลูก หลาน ถ้าเห็นว่า มันมีอาการผิดปกติทางจิตใจ มีความคิดไม่ค่อยถูกทาง เราก็ควรแนะนำเขามาหาพระสงฆ์องค์เจ้า เพื่อช่วยแนะนำแนวทางชีวิตแก่เขา ให้เขาได้รู้ว่า อะไรเป็นอะไร ถูกต้องตามเรื่องที่ควรจะรู้ ควรจะเข้าใจ นี้เป็นเรื่องที่จะต้องร่วมมือร่วมใจกัน ในสังคมยุคปัจจุบัน ถ้าเราไม่ทำอย่างนั้น กว่าเด็กเหล่านั้นจะเป็นคนแก่ ก็คงจะสร้างความรำคาญ ให้แก่เพื่อนมนุษย์มากมายก่ายกองทีเดียว แต่ถ้าเรารีบเอาไปรักษา ชี้แนะแนวทางให้เขาเข้าใจ เขาก็จะเปลี่ยนเข็มชีวิตได้ ปัญญานันทภิกขุ

การมาวัดนั้น ไม่ใช่เรื่องของคนแก่คนชรา
แต่เป็นเรื่องของคนที่ต้องการความสงบทางใจ
ต้องการความมั่นคง ทางด้านจิตใจ
ไม่ว่าเราจะอยู่ในวัยไหน
เราก็ต้องการสิ่งนี้ด้วยกันทั้งนั้น
แต่ว่าการกระทำนั้น มักจะเป็นไปในรูปอย่างนั้น

จึงใคร่ขอแนะนำว่า เรามาปฏิรูปกันเสียที
แทนที่จะเป็นคนแก่เข้าวัดศึกษาธรรมะ
เราควรที่จะเอาคนที่อยู่ ในวัยหนุ่ม วัยฉกรรจ์
วัยกลางคน เข้าวัดกันเสียมั่ง
เพราะว่าคนที่อยู่ในวัยหนุ่มวัยฉกรรจ์นี่แหละ
จะเป็นกำลังสำคัญ ของสังคมไทยในการต่อไป
ถ้าจิตใจของเขาไม่มั่นคง
ขาดกำลังเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง
การปฏิบัติกิจในหน้าที่ จะเอาดีได้อย่างไร

อันนี้ เป็นเรื่องคน มีความเกี่ยวข้องกับการงานต่างๆ
มีความเกี่ยวข้องกับคนมากๆ
ย่อมจะมองเห็นด้วยตัวเอง
ว่าคนที่ปฏิบัติงานอยู่ ในหน้าที่ประจำนั้น
ยังมีการขาดอะไรบางสิ่ง บางประการ
ที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด จึงได้เกิดเป็นปัญหา
มีความวุ่นวายด้วยอาการต่างๆ
นั่นแหละคือการขาดธรรมะ
ไม่ได้สนใจ ที่จะมารับฟัง สิ่งที่เป็นประโยชน์

เราจึงควรจะได้เปลี่ยนแปลง
นำคนที่ควรนำเข้ามาวัด
คล้ายๆ กับคนป่วย ที่เราควรนำมารักษา
ถ้าคนไม่เจ็บไม่ป่วย ไม่ร้องรักษาก็ไม่เป็นไร
เพราะว่าคนป่วยนั้น อาการมันหนัก
เราก็ต้องให้หยูกให้ยารักษากันไปตามเรี่อง
คนป่วยทางกาย ยังต้องรีบพาไปโรงพยาบาล

อันนี้นับว่าเป็นความผิดพลาดในชีวิตประจำวัน
จึงใคร่แนะนำว่า ถ้าเรามีคนอยู่ในปกครองของเรา
เช่น ลูก หลาน ถ้าเห็นว่า
มันมีอาการผิดปกติทางจิตใจ
มีความคิดไม่ค่อยถูกทาง
เราก็ควรแนะนำเขามาหาพระสงฆ์องค์เจ้า
เพื่อช่วยแนะนำแนวทางชีวิตแก่เขา
ให้เขาได้รู้ว่า อะไรเป็นอะไร
ถูกต้องตามเรื่องที่ควรจะรู้ ควรจะเข้าใจ
นี้เป็นเรื่องที่จะต้องร่วมมือร่วมใจกัน
ในสังคมยุคปัจจุบัน

ถ้าเราไม่ทำอย่างนั้น
กว่าเด็กเหล่านั้นจะเป็นคนแก่
ก็คงจะสร้างความรำคาญ
ให้แก่เพื่อนมนุษย์มากมายก่ายกองทีเดียว
แต่ถ้าเรารีบเอาไปรักษา
ชี้แนะแนวทางให้เขาเข้าใจ
เขาก็จะเปลี่ยนเข็มชีวิตได้

ปัญญานันทภิกขุ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น