วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2559

“น้องน้อยของพี่ชาย” พระราชนิพนธ์ซาบซึ้งใจที่สมเด็จพระบรมฯ ทรงมีต่อสมเด็จพระเทพฯ บทพระราชนิพนธ์ “น้องน้อยของพี่ชาย” พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฏราชกุมาร ที่ทรงเขียนถึง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เนื่องในโอกาส สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเจริญพระชนมายุ 3 รอบ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2534 เนื่องในปีนี้ น้องน้อยของพี่ชายครบ 3 รอบ ประชาชนชาวไทยได้จัดงานและแสดงออกซึ่งความรักต่อน้องน้อย พี่ชายนึกอยากจะทำอะไรเพื่อน้องบ้าง จึงทำให้พี่คิดย้อนไปถึงเมื่อตอนที่เรายังเล็ก ๆ กันอยู่ ขณะนั้นพี่ชายอายุประมาณ 3 ปี ก่อนน้องน้อยเกิด พี่ก็เริ่มจำความได้บ้างว่า บัดนี้เราได้พ้นจากความเป็นลูกคนเล็กแล้ว ซึ่งก็ได้มีน้องน้อยเพิ่มขึ้นในครอบครัว พี่จำได้ว่า ขณะนั้นพี่กำลังนอนเล่นอยู่ก็มีคนมาบอกว่า สมเด็จแม่ได้ทรงมีประสูติกาลแล้ว เป็นองค์หญิง พี่ก็ยังจำอะไรมากไม่ได้ในตอนนั้น เพียงแต่มันรู้สึกเป็นสิ่งแปลกใหม่ พี่ได้เห็นเด็กตัวเล็ก ๆ นอนอยู่ในเตียง พี่ได้มาดูน้องตัวเล็ก ๆ ที่นอนอยู่ในเตียงเสมอ เมื่อน้องน้อยโตขึ้น เราก็เล่นกันเรื่อย ที่พี่จำได้คือ เมื่อตอนเล็ก ๆ น้องน้อยเป็นเด็กที่บอบบางมาก ไม่ค่อยชอบเสวย ในการเลี้ยงดู คุณพี่เลี้ยงต้องถนอมมาก แต่ก็แข็งแรง มีสิ่งหนึ่งที่ติดตัวน้องน้อยแลยและพี่จำได้แม่น คือน้องน้อยเป็นเด็กที่คล่องแคล่ว ว่องไว และเป็นเด็กที่ฉลาด มีความริเริ่มสูง เมื่อตอนเล็ก ๆ ถือได้ว่าเราสองคนเป็นลูกคนกลางทั้งคู่ จึงเป็น เพื่อนเล่นกันมาตลอด น้องน้อยเป็นเด็กที่เชื่อฟังและอยู่ในโอวาทของพี่ ๆ เสมอ อยากที่จะมีส่วนร่วมกิจกรรมต่าง ๆ กับ พี่ ๆ เป็นเด็กที่กล้า ตรงไปตรงมา ซนแบบเด็ก ๆ ทั่วไป และชอบเล่นแบบผู้ชาย เราได้ตามเสด็จทูลกระหม่อมพ่อ-สมเด็จแม่ ไปตามต่างจังหวัดเมื่อตอนเล็ก ๆ เราก็จะไปเล่นกัน หาไม้มาทำเป็นปืน หาของว่าง-ขนม ไปปิกนิกกัน และสร้างจิตนาการในการเล่นกันแบบเด็ก ๆ ในสมัยนั้น น้องน้อยจะเป็นผู้ช่วยที่ดีของพี่ ๆ ช่วยถือของตามไปเสมอ ยังเป็นผู้ดูแล และเป็นองครักษ์ที่ดีของพี่อีกด้วย ไม่เอาเปรียบใคร ไม่คิดถึงตัวเองก่อน สิ่งที่พี่จำได้อีกอย่างคือ เมื่อเวลาเราพี่น้องเล่นด้วยกัน เมื่อมีเรื่องหรือเกิดเรื่องขึ้น เราก็จะโดนลงโทษด้วยกันเสมอ ถึงแม้พี่ชายบางครั้งจะสั่งให้ทำอะไรก็ตาม น้องน้อยก็ไม่เคยฟ้องว่า พี่ชายสั่งเลยสักครั้ง น้องน้อยเป็นเด็กที่กล้าที่จะเล่นกับพี่ชายด้วยความรักและซื่อสัตย์ ไม่เคยเอาเปรียบในพี่น้องเลย มีอีกช่วงหนึ่งที่พี่พอจะจำได้และสนุกมาก คือช่วงตอนที่พวกเราได้ตามเสด็จทูลกระหม่อมพ่อ-สมเด็จแม่ ไปต่างประเทศ พวกเราได้เห็นอะไรหลายสิ่งหลายอย่าง ได้ฝึกหัดเล่นกีฬาของฝรั่งหลายประเภท แต่ความที่บุคลิกของน้องน้อยเป็นเด็กฉลาดและว่องไวมาแต่เล็ก ๆ มีอยู่ครั้ง เราไปเล่นสเก็ตกัน มีครูฝรั่งสอน น้องน้อยจะเป็นก่อนใครเพื่อน และเล่นได้ดีจนแซงพวกพี่ ๆ และครูที่กำลังสอนอยู่ เพียงเรียนแค่ 1-2 ครั้งเท่านั้น จนฝรั่งให้สมญานามว่า "สลาตัน" เพราะทำอะไรจะเร็วมาก วิ่งขึ้นว่าลงเร็วไปหมด เห็นต้นไม้ก็ปีนต้นไม้ ทำอะไรว่องไวมากและกล้า เป็นเด็กที่กล้าเสี่ยง อย่างตอนที่เราอยู่ที่ประเทศสวิส ทูลกระหม่อมพ่อ-สมเด็จแม่ เสด็จออกไปทรงงาน พวกเราก็แอบไปปีนต้นแอปเปิ้ลกัน เพราะที่สวิส เขาจัดให้พวกเราพักตำหนักที่มีสวนสนามเหมือนป่า มีผลไม้น่าทานมาก ทำให้เด็กอย่างเราทั้งสองเกิดความสนุก จึงปีนขึ้นไปขโมยแอปเปิ้ลมาแอบทานกันที่ข้าง ๆ ต้นไม้ แต่ในช่วงนั้น พอน้องน้อยได้กัดแอปเปิ้ลเข้าไปคำแรก ฟันน้ำนมของน้องน้อย ที่กำลังผลิของใหม่ก็ได้หลุดติดออกมากับแอปเปิ้ล ทำให้เราสองคนหัวเราะและขำกันมาก แต่น้องน้อยก็ไม่ร้องไห้ กลับเป็นเรื่องที่สนุก และฟันหลออยู่นาน (ถ้าพวกเราสังเกตให้ดี ๆ ภาพตอนทรงพระเยาว์ของออกมา ส่วนใหญ่ฟันจะหลอ) ถ้ายิ่งมีช่างภาพสื่อมวลชนทั้งไทยหรือต่างชาติ ขอมาฉายพระรูปครอบครัว เราสองคนก็จะเป็นตัวที่ทำอะไรให้มันยุ่งไปหมด ทำให้ถ่ายไม่เสร็จ (ทำหน้าทำตา) จนผู้ที่มาฉายพระรูปปวดหัวกันไปหมด พอตอนหลังเวลาฉายพระรูป จึงจะเห็นบ่อย ๆ ที่สมเด็จแม่ต้องคอยจับพวกเราไว้ให้นิ่ง ๆ ด้วยพระหัตถ์ทั้งสองข้างพี่ชายข้าง ออกมา ข้างเสมอ กันช่างภาพเป็นลมและพระองค์ท่านด้วย พอช่วงหลัง เมื่อพี่ชายต้องจากทุกคนไปเรียนเมืองนอก เราก็เริ่มห่างกัน แต่ออกมา ก็ยังเขียนจดหมายถึงพี่ชายสม่ำเสมอ และยังคอยดูและของให้พี่ชายที่อยู่เมืองไทยอีกด้วย ความทรงจำของพี่ที่นึกถึงน้องน้อยนี้อาจจะเป็นบางส่วน บางเสี้ยวในชีวิตของเรา เมื่อเด็ก ๆ แต่ความดี ความน่ารักของน้องน้อยที่มีต่อพี่น้อง และที่พี่จำได้ดีเสมอคือ น้องน้อย มีน้ำใจกับพี่น้อง เป็นเด็กดี ฉลาด ร่วมรับผิดชอบในสิ่งที่ปฏิบัติร่วมกันเสมอ ไม่เคยหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ ไม่เคยทำให้ใคร หรือผู้อื่นเดือดร้อน ไม่เคยฟ้อง ไม่เคยแก้ตัว และเมื่อมีอะไรก็จะหันซ้าย- หันขวา นึกถึงพี่น้องก่อนเสมอ ในโอกาสที่น้องน้อยครบ 3 รอบ ในครั้งนี้ พี่ขอมีส่วนร่วมกับประชาชนชาวไทย ส่งความรักมายังน้องน้อยที่ดีและน่ารักของพี่ ขอให้น้องน้อย จงเป็นที่รักเคารพของประชาชนตลอดไป และมีกำลังกาย กำลังใจ ที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติ เป็นมิ่งขวัญของประชาชนตลอดไป จากพี่ชายที่รักน้องเสมอมา "พี่ชาย" ๒ เม.ย. ๓๔ Cr. www.manager.co.th ภาพจากหนังสือ ปิยชาติสยามบรมราชกุมารี "ดาวประจำเมือง" และภาพจากแฟ้มภาพ ทรัพยากรกลุ่มงานแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ศูนย์สารสนเทศ สำนักราชเลขาธิการ

“น้องน้อยของพี่ชาย”

พระราชนิพนธ์ซาบซึ้งใจที่สมเด็จพระบรมฯ
ทรงมีต่อสมเด็จพระเทพฯ
      
      บทพระราชนิพนธ์ “น้องน้อยของพี่ชาย” พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฏราชกุมาร ที่ทรงเขียนถึง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เนื่องในโอกาส สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเจริญพระชนมายุ 3 รอบ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2534

      เนื่องในปีนี้ น้องน้อยของพี่ชายครบ 3 รอบ ประชาชนชาวไทยได้จัดงานและแสดงออกซึ่งความรักต่อน้องน้อย พี่ชายนึกอยากจะทำอะไรเพื่อน้องบ้าง จึงทำให้พี่คิดย้อนไปถึงเมื่อตอนที่เรายังเล็ก ๆ กันอยู่
      
       ขณะนั้นพี่ชายอายุประมาณ 3 ปี
ก่อนน้องน้อยเกิด พี่ก็เริ่มจำความได้บ้างว่า
บัดนี้เราได้พ้นจากความเป็นลูกคนเล็กแล้ว
ซึ่งก็ได้มีน้องน้อยเพิ่มขึ้นในครอบครัว พี่จำได้ว่า
ขณะนั้นพี่กำลังนอนเล่นอยู่ก็มีคนมาบอกว่า
สมเด็จแม่ได้ทรงมีประสูติกาลแล้ว เป็นองค์หญิง
พี่ก็ยังจำอะไรมากไม่ได้ในตอนนั้น เพียงแต่มันรู้สึกเป็นสิ่งแปลกใหม่ พี่ได้เห็นเด็กตัวเล็ก ๆ นอนอยู่ในเตียง
พี่ได้มาดูน้องตัวเล็ก ๆ ที่นอนอยู่ในเตียงเสมอ เมื่อน้องน้อยโตขึ้น เราก็เล่นกันเรื่อย
      
       ที่พี่จำได้คือ เมื่อตอนเล็ก ๆ น้องน้อยเป็นเด็กที่บอบบางมาก ไม่ค่อยชอบเสวย ในการเลี้ยงดู คุณพี่เลี้ยงต้องถนอมมาก แต่ก็แข็งแรง มีสิ่งหนึ่งที่ติดตัวน้องน้อยแลยและพี่จำได้แม่น คือน้องน้อยเป็นเด็กที่คล่องแคล่ว ว่องไว และเป็นเด็กที่ฉลาด มีความริเริ่มสูง
       
       เมื่อตอนเล็ก ๆ ถือได้ว่าเราสองคนเป็นลูกคนกลางทั้งคู่ จึงเป็น เพื่อนเล่นกันมาตลอด น้องน้อยเป็นเด็กที่เชื่อฟังและอยู่ในโอวาทของพี่ ๆ เสมอ อยากที่จะมีส่วนร่วมกิจกรรมต่าง ๆ กับ พี่ ๆ เป็นเด็กที่กล้า ตรงไปตรงมา ซนแบบเด็ก ๆ ทั่วไป และชอบเล่นแบบผู้ชาย
      
       เราได้ตามเสด็จทูลกระหม่อมพ่อ-สมเด็จแม่ ไปตามต่างจังหวัดเมื่อตอนเล็ก ๆ เราก็จะไปเล่นกัน หาไม้มาทำเป็นปืน หาของว่าง-ขนม ไปปิกนิกกัน และสร้างจิตนาการในการเล่นกันแบบเด็ก ๆ ในสมัยนั้น
      
       น้องน้อยจะเป็นผู้ช่วยที่ดีของพี่ ๆ ช่วยถือของตามไปเสมอ ยังเป็นผู้ดูแล และเป็นองครักษ์ที่ดีของพี่อีกด้วย ไม่เอาเปรียบใคร ไม่คิดถึงตัวเองก่อน

        สิ่งที่พี่จำได้อีกอย่างคือ เมื่อเวลาเราพี่น้องเล่นด้วยกัน เมื่อมีเรื่องหรือเกิดเรื่องขึ้น เราก็จะโดนลงโทษด้วยกันเสมอ ถึงแม้พี่ชายบางครั้งจะสั่งให้ทำอะไรก็ตาม น้องน้อยก็ไม่เคยฟ้องว่า พี่ชายสั่งเลยสักครั้ง น้องน้อยเป็นเด็กที่กล้าที่จะเล่นกับพี่ชายด้วยความรักและซื่อสัตย์ ไม่เคยเอาเปรียบในพี่น้องเลย
      
       มีอีกช่วงหนึ่งที่พี่พอจะจำได้และสนุกมาก คือช่วงตอนที่พวกเราได้ตามเสด็จทูลกระหม่อมพ่อ-สมเด็จแม่ ไปต่างประเทศ พวกเราได้เห็นอะไรหลายสิ่งหลายอย่าง ได้ฝึกหัดเล่นกีฬาของฝรั่งหลายประเภท แต่ความที่บุคลิกของน้องน้อยเป็นเด็กฉลาดและว่องไวมาแต่เล็ก ๆ มีอยู่ครั้ง เราไปเล่นสเก็ตกัน มีครูฝรั่งสอน น้องน้อยจะเป็นก่อนใครเพื่อน และเล่นได้ดีจนแซงพวกพี่ ๆ และครูที่กำลังสอนอยู่ เพียงเรียนแค่ 1-2 ครั้งเท่านั้น จนฝรั่งให้สมญานามว่า "สลาตัน" เพราะทำอะไรจะเร็วมาก วิ่งขึ้นว่าลงเร็วไปหมด เห็นต้นไม้ก็ปีนต้นไม้ ทำอะไรว่องไวมากและกล้า เป็นเด็กที่กล้าเสี่ยง
      
       อย่างตอนที่เราอยู่ที่ประเทศสวิส ทูลกระหม่อมพ่อ-สมเด็จแม่ เสด็จออกไปทรงงาน พวกเราก็แอบไปปีนต้นแอปเปิ้ลกัน เพราะที่สวิส เขาจัดให้พวกเราพักตำหนักที่มีสวนสนามเหมือนป่า มีผลไม้น่าทานมาก ทำให้เด็กอย่างเราทั้งสองเกิดความสนุก จึงปีนขึ้นไปขโมยแอปเปิ้ลมาแอบทานกันที่ข้าง ๆ ต้นไม้ แต่ในช่วงนั้น พอน้องน้อยได้กัดแอปเปิ้ลเข้าไปคำแรก ฟันน้ำนมของน้องน้อย ที่กำลังผลิของใหม่ก็ได้หลุดติดออกมากับแอปเปิ้ล ทำให้เราสองคนหัวเราะและขำกันมาก แต่น้องน้อยก็ไม่ร้องไห้ กลับเป็นเรื่องที่สนุก และฟันหลออยู่นาน (ถ้าพวกเราสังเกตให้ดี ๆ ภาพตอนทรงพระเยาว์ของออกมา ส่วนใหญ่ฟันจะหลอ)

        ถ้ายิ่งมีช่างภาพสื่อมวลชนทั้งไทยหรือต่างชาติ ขอมาฉายพระรูปครอบครัว เราสองคนก็จะเป็นตัวที่ทำอะไรให้มันยุ่งไปหมด ทำให้ถ่ายไม่เสร็จ (ทำหน้าทำตา) จนผู้ที่มาฉายพระรูปปวดหัวกันไปหมด พอตอนหลังเวลาฉายพระรูป จึงจะเห็นบ่อย ๆ ที่สมเด็จแม่ต้องคอยจับพวกเราไว้ให้นิ่ง ๆ ด้วยพระหัตถ์ทั้งสองข้างพี่ชายข้าง ออกมา ข้างเสมอ กันช่างภาพเป็นลมและพระองค์ท่านด้วย
      
       พอช่วงหลัง เมื่อพี่ชายต้องจากทุกคนไปเรียนเมืองนอก เราก็เริ่มห่างกัน แต่ออกมา ก็ยังเขียนจดหมายถึงพี่ชายสม่ำเสมอ และยังคอยดูและของให้พี่ชายที่อยู่เมืองไทยอีกด้วย
      
       ความทรงจำของพี่ที่นึกถึงน้องน้อยนี้อาจจะเป็นบางส่วน บางเสี้ยวในชีวิตของเรา เมื่อเด็ก ๆ แต่ความดี ความน่ารักของน้องน้อยที่มีต่อพี่น้อง และที่พี่จำได้ดีเสมอคือ น้องน้อย มีน้ำใจกับพี่น้อง เป็นเด็กดี ฉลาด ร่วมรับผิดชอบในสิ่งที่ปฏิบัติร่วมกันเสมอ ไม่เคยหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ ไม่เคยทำให้ใคร หรือผู้อื่นเดือดร้อน ไม่เคยฟ้อง ไม่เคยแก้ตัว และเมื่อมีอะไรก็จะหันซ้าย- หันขวา นึกถึงพี่น้องก่อนเสมอ
      
       ในโอกาสที่น้องน้อยครบ 3 รอบ ในครั้งนี้ พี่ขอมีส่วนร่วมกับประชาชนชาวไทย ส่งความรักมายังน้องน้อยที่ดีและน่ารักของพี่ ขอให้น้องน้อย จงเป็นที่รักเคารพของประชาชนตลอดไป และมีกำลังกาย กำลังใจ ที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติ เป็นมิ่งขวัญของประชาชนตลอดไป
      
       จากพี่ชายที่รักน้องเสมอมา
      
       "พี่ชาย"
       ๒ เม.ย. ๓๔

Cr. www.manager.co.th
ภาพจากหนังสือ ปิยชาติสยามบรมราชกุมารี "ดาวประจำเมือง" และภาพจากแฟ้มภาพ ทรัพยากรกลุ่มงานแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ศูนย์สารสนเทศ สำนักราชเลขาธิการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น