วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2559

"จิตหลงทาง" ครั้นเมื่อคุณเจอปัญหาหนักๆ ความรู้สึกเหมือนคนหลงทาง หรือมีจิตหลงทาง เกิดขึ้นง่ายกว่าที่คิด ในระหว่างการใช้ชีวิตธรรมดาๆนี่เอง ไม่จำเป็นต้องโดนลักตัวไปอยู่ป่ารกแต่อย่างใด หลงไปรักคนที่ไม่ควรรัก หลงไปเล่นในเวลาที่ไม่ควรเล่น หลงไปคิดในเรื่องที่ไม่ควรคิด เมื่อหลงไปรักคนไม่ควรรัก คุณจะรู้สึกเหมือนใจพร่ามัว มองไม่เห็นทางเลิกรัก เมื่อหลงไปเล่นสนุก คุณจะรู้สึกเหมือนงานถูกซ่อนอยู่ในม่านหมอก ตั้งใจเดินกลับไปหางานไม่กี่ก้าว ก็มีสิ่งล่อใจมาดึงให้เขวออกนอกทางเป็นจุดๆ เมื่อหลงไปคิดในเรื่องที่ไม่ควรคิด คุณจะรู้สึกเหมือนติดกับ เดินวนอยู่ในเขาวงกตที่ไร้ทางออก วนไปเวียนมากี่ทีก็กลับมาที่เดิม คิดซ้ำซากไม่เลิก ทุกคนมีป่ารกทางจิตเฉพาะตน แต่ไม่กี่คนที่หาทางออกจากป่าได้สำเร็จ บางคนถึงกับฝันว่าหลงทางซ้ำๆ หรือลืมตาตื่นแต่รู้สึกเหมือนคนไม่เห็นทางออก เพื่อกำจัด ‘จิตหลงทาง’ คุณจำเป็นต้องมี ‘จิตพุ่งเข้าเป้า’ เอาสติเป็นเข็มทิศและหางเสือ โดยถามตัวเองเรื่อยๆว่าชีวิตคุณวันนี้ มีใครที่ควรใส่ใจ มีงานอะไรที่ควรทำให้เสร็จ มีความคิดใดที่ควรถูกแทนที่ด้วยความคิดที่ดีกว่า อาจจะ ๘๐ หรือ ๙๐ เปอร์เซ็นต์ของมนุษย์ ที่ขาดจิตพุ่งเข้าเป้า ไม่เอาสติมานำทาง จึงต้องอยู่กับจิตหลงทางไปจนตาย แม้ยามใกล้ตายก็ยังรู้สึกหลงทางไม่เลิก ต้องไปต่อถึงไหนก็ไม่รู้.. ทุกเส้นทางเดินทุกย่างก้าวของชีวิต ควรมีเข็มทิศเพื่อนำทาง ที่เราเรียกกันว่า "ความมีสติ" @เสือ

"จิตหลงทาง"
ครั้นเมื่อคุณเจอปัญหาหนักๆ
ความรู้สึกเหมือนคนหลงทาง
หรือมีจิตหลงทาง
เกิดขึ้นง่ายกว่าที่คิด
ในระหว่างการใช้ชีวิตธรรมดาๆนี่เอง
ไม่จำเป็นต้องโดนลักตัวไปอยู่ป่ารกแต่อย่างใด

หลงไปรักคนที่ไม่ควรรัก
หลงไปเล่นในเวลาที่ไม่ควรเล่น
หลงไปคิดในเรื่องที่ไม่ควรคิด

เมื่อหลงไปรักคนไม่ควรรัก
คุณจะรู้สึกเหมือนใจพร่ามัว
มองไม่เห็นทางเลิกรัก

เมื่อหลงไปเล่นสนุก
คุณจะรู้สึกเหมือนงานถูกซ่อนอยู่ในม่านหมอก
ตั้งใจเดินกลับไปหางานไม่กี่ก้าว
ก็มีสิ่งล่อใจมาดึงให้เขวออกนอกทางเป็นจุดๆ

เมื่อหลงไปคิดในเรื่องที่ไม่ควรคิด
คุณจะรู้สึกเหมือนติดกับ
เดินวนอยู่ในเขาวงกตที่ไร้ทางออก
วนไปเวียนมากี่ทีก็กลับมาที่เดิม
คิดซ้ำซากไม่เลิก

ทุกคนมีป่ารกทางจิตเฉพาะตน
แต่ไม่กี่คนที่หาทางออกจากป่าได้สำเร็จ
บางคนถึงกับฝันว่าหลงทางซ้ำๆ
หรือลืมตาตื่นแต่รู้สึกเหมือนคนไม่เห็นทางออก

เพื่อกำจัด ‘จิตหลงทาง’
คุณจำเป็นต้องมี ‘จิตพุ่งเข้าเป้า’
เอาสติเป็นเข็มทิศและหางเสือ
โดยถามตัวเองเรื่อยๆว่าชีวิตคุณวันนี้
มีใครที่ควรใส่ใจ
มีงานอะไรที่ควรทำให้เสร็จ
มีความคิดใดที่ควรถูกแทนที่ด้วยความคิดที่ดีกว่า

อาจจะ ๘๐ หรือ ๙๐ เปอร์เซ็นต์ของมนุษย์
ที่ขาดจิตพุ่งเข้าเป้า ไม่เอาสติมานำทาง
จึงต้องอยู่กับจิตหลงทางไปจนตาย
แม้ยามใกล้ตายก็ยังรู้สึกหลงทางไม่เลิก
ต้องไปต่อถึงไหนก็ไม่รู้..

ทุกเส้นทางเดินทุกย่างก้าวของชีวิต
ควรมีเข็มทิศเพื่อนำทาง ที่เราเรียกกันว่า
"ความมีสติ"
@เสือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น