วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2559

มีพ่อจนๆ..มันผิดด้วยหรือ??...(อยากให้อ่านจบ) วันนี้เลิกงานเร็วเลยพาเจ้านุ่มไปซื้อของใช้ที่ห้างแห่งหนึ่ง รอต่อ แถวจ่ายตังค์นานเลย เจ้านุ่มก็เริ่มงอแงๆ ง่วงนอน สังเกตุว่าคิว ด้านหน้าเรามากันเป็นครอบครัว มีพ่อแม่ลูกสาววัยประมาณเจ้า นุ่ม แล้วก็ผู้ชายสูงอายุคนหนึ่ง ที่หนูน้อยเรียกว่า"ปู่" คุยกันยิ้ม แย้มแจ่มใสดี ซื้อของใช้ล้นตระกร้าเชียวค่ะ พอแคชเชียร์คิดเงินของครอบครัวนี้จนเสร็จได้ยินคร่าวๆว่า "ทั้งหมดพัน(กว่าๆ)บาทค่ะ...." ผู้เป็น"ปู่" เป็นคนเปิดกระเป๋าสตางค์ใบเก่าๆ จะจ่ายเงิน พร้อมทำ ท่าอ้ำอึ้ง มีลูกชายลูกสะใภ้จ้องตาเขม็ง หุบยิ้มทันที " ว่าไงพ่อ จ่ายเค้าไปสิ" ลูกชายบอก คุณปู่ยังทำท่าอ้ำอึ้ง "ไหน ดูหน่อย มีตังค์เท่าไหร่" คุณปู่ยื่นกระเป๋าตังค์ให้ดูข้างใน " อ้าว ไหนว่ามีตังค์เยอะไง แล้วแบบนี้จะชวนมาซื้อของทำไม ไม่มีตังค์จ่ายก็ไม่บอก อายเค้าจริงๆ " ลูกชายลูกสะใภ้พากันมองคุณปู่ด้วยสายตาที่เหมือนดูถูกรำคาญ ในที่สุดเค้าก็พากันทำสิ่งที่เราไม่อยากจะเชื่อสายตา คืออุ้มลูก เดินหนีไปเลย พร้อมกับโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ไม่สนใจลูกสาวที่ ร้องว่า "ปู่ๆๆๆ ปู่มาด้วย" คุณปู่ยืนคอตก หน้าเศร้าอยู่หน้าแคชเชียร์ พอเด็กถามว่าจะเอา ยังไง คุณปู่เปิดกระเป๋าตังค์ให้เด็กดู แล้วบอกว่าให้คิดเงินตามนี้ ได้ของเท่าไหร่เท่านั้น (เด็กนับแล้วมีแปดร้อยบาทค่ะ) ระหว่างรอแคชเชียร์คิดเงินใหม่ ได้ยินคุณปู่เล่าว่าแกบ้านอยู่ต่าง อำเภอห่างไปเป็นร้อยกิโล ลูกหลานไม่ไปหานานแล้ว แกจึงตัด สินใจรวบรวมเงินทั้งหมดที่มี นั่งรถเข้ามาเยี่ยมลูกหลานในเมือง แล้วชวนออกมาซื้อของ ลูกแกก็ไม่ถามสักคำว่า เงินมีเท่าไหร่ หยิบของเอาๆ แกก็ไม่เคยรู้ราคาของ เพราะอยู่บ้านนอกก็ซื้อ ร้านของชำทีห้าบาทสิบบาท ใครจะจะรู้ว่าของในห้างใหญ่เค้า ซื้อกันทีละเป็นพัน เราจ่ายเสร็จเห็นคุณปู่ยังเดินเคว้งอยู่แถวๆนั้น ก็เลยถามแกว่าจะ กลับยังไง แกบอกว่าพอขึ้นรถกลับเป็น ( อ้าว แล้วตังค์ล่ะ เมื่อกี้ เห็นจ่ายไปหมดแล้วนี่นา ) แต่ก็ยังลังเลอยู่ กลัวลูกกลับมาตาม หาแล้วไม่เจอ มือถือก็ไม่รู้เบอร์ เลยตัดสินใจพาคุณปู่ไปที่แผนกประชาสัมพันธ์ประกาศหาลูกค่ะ จากนั้นเราบอกให้รอสักพัก ถ้าลูกไม่มาจริงๆ ให้ไปขึ้นรถที่คิวรถ ( ฝากเด็กที่ปชส.ค่ะ ว่าให้ย้ำคุณปู่อีกที) พร้อมกับให้เงินแกเป็น ค่ารถไว้ค่ะ จริงๆอยากรอดูสักพัก แต่เจ้านุ่มไม่ไหวแล้วค่ะ งอแง เหลือเกิน คุณปู่น้ำตาคลอบอกเราว่า "มันคงไม่ทิ้งปู่จริงๆหรอกนะ นี่ก็ได้ของไปเยอะเหมือนกันถึงจะ ซื้อได้ไม่หมดก็เถอะ นี่มันไม่เคยกลับไปหาปูเลย ก็เพราะปู่มันจน ไม่มีสมบัติอะไรให้" เราปลอบใจแกไปบอกว่าเดี๋ยวเค้าคงกลับมาน่ะ คงเดินไปดูอย่าง อื่นก่อน เดินกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยค่ะ หันหลังกลับไป มองเห็นคุณปู่ยังยืนคอตกที่เดิม ในใจคิดวนเวียนตลอดเวลา .... นี่เค้าทำแบบนี้กับพ่อตัวเองได้ยังไงนะ ... ที่มา : www.pantip.com ภาพ : http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000013250 #ThammanoonsFC #เรื่องดีๆมีข้อคิด Line : ts2502 Instagram : th.thamma

มีพ่อจนๆ..มันผิดด้วยหรือ??...(อยากให้อ่านจบ)

วันนี้เลิกงานเร็วเลยพาเจ้านุ่มไปซื้อของใช้ที่ห้างแห่งหนึ่ง รอต่อ
แถวจ่ายตังค์นานเลย  เจ้านุ่มก็เริ่มงอแงๆ ง่วงนอน  สังเกตุว่าคิว
ด้านหน้าเรามากันเป็นครอบครัว  มีพ่อแม่ลูกสาววัยประมาณเจ้า
นุ่ม แล้วก็ผู้ชายสูงอายุคนหนึ่ง   ที่หนูน้อยเรียกว่า"ปู่"   คุยกันยิ้ม
แย้มแจ่มใสดี ซื้อของใช้ล้นตระกร้าเชียวค่ะ

พอแคชเชียร์คิดเงินของครอบครัวนี้จนเสร็จได้ยินคร่าวๆว่า
"ทั้งหมดพัน(กว่าๆ)บาทค่ะ...."
ผู้เป็น"ปู่" เป็นคนเปิดกระเป๋าสตางค์ใบเก่าๆ จะจ่ายเงิน พร้อมทำ
ท่าอ้ำอึ้ง มีลูกชายลูกสะใภ้จ้องตาเขม็ง หุบยิ้มทันที
" ว่าไงพ่อ จ่ายเค้าไปสิ"
ลูกชายบอก คุณปู่ยังทำท่าอ้ำอึ้ง
"ไหน ดูหน่อย มีตังค์เท่าไหร่"
คุณปู่ยื่นกระเป๋าตังค์ให้ดูข้างใน
" อ้าว ไหนว่ามีตังค์เยอะไง   แล้วแบบนี้จะชวนมาซื้อของทำไม
ไม่มีตังค์จ่ายก็ไม่บอก อายเค้าจริงๆ "
ลูกชายลูกสะใภ้พากันมองคุณปู่ด้วยสายตาที่เหมือนดูถูกรำคาญ

ในที่สุดเค้าก็พากันทำสิ่งที่เราไม่อยากจะเชื่อสายตา   คืออุ้มลูก
เดินหนีไปเลย  พร้อมกับโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ไม่สนใจลูกสาวที่
ร้องว่า
"ปู่ๆๆๆ ปู่มาด้วย"

คุณปู่ยืนคอตก หน้าเศร้าอยู่หน้าแคชเชียร์   พอเด็กถามว่าจะเอา
ยังไง คุณปู่เปิดกระเป๋าตังค์ให้เด็กดู  แล้วบอกว่าให้คิดเงินตามนี้
ได้ของเท่าไหร่เท่านั้น (เด็กนับแล้วมีแปดร้อยบาทค่ะ)

ระหว่างรอแคชเชียร์คิดเงินใหม่ ได้ยินคุณปู่เล่าว่าแกบ้านอยู่ต่าง
อำเภอห่างไปเป็นร้อยกิโล ลูกหลานไม่ไปหานานแล้ว  แกจึงตัด
สินใจรวบรวมเงินทั้งหมดที่มี นั่งรถเข้ามาเยี่ยมลูกหลานในเมือง
แล้วชวนออกมาซื้อของ   ลูกแกก็ไม่ถามสักคำว่า  เงินมีเท่าไหร่
หยิบของเอาๆ   แกก็ไม่เคยรู้ราคาของ    เพราะอยู่บ้านนอกก็ซื้อ
ร้านของชำทีห้าบาทสิบบาท    ใครจะจะรู้ว่าของในห้างใหญ่เค้า
ซื้อกันทีละเป็นพัน

เราจ่ายเสร็จเห็นคุณปู่ยังเดินเคว้งอยู่แถวๆนั้น  ก็เลยถามแกว่าจะ
กลับยังไง แกบอกว่าพอขึ้นรถกลับเป็น ( อ้าว แล้วตังค์ล่ะ  เมื่อกี้
เห็นจ่ายไปหมดแล้วนี่นา )   แต่ก็ยังลังเลอยู่ กลัวลูกกลับมาตาม
หาแล้วไม่เจอ  มือถือก็ไม่รู้เบอร์

เลยตัดสินใจพาคุณปู่ไปที่แผนกประชาสัมพันธ์ประกาศหาลูกค่ะ
จากนั้นเราบอกให้รอสักพัก ถ้าลูกไม่มาจริงๆ ให้ไปขึ้นรถที่คิวรถ
( ฝากเด็กที่ปชส.ค่ะ ว่าให้ย้ำคุณปู่อีกที)   พร้อมกับให้เงินแกเป็น
ค่ารถไว้ค่ะ จริงๆอยากรอดูสักพัก แต่เจ้านุ่มไม่ไหวแล้วค่ะ งอแง
เหลือเกิน

คุณปู่น้ำตาคลอบอกเราว่า
"มันคงไม่ทิ้งปู่จริงๆหรอกนะ   นี่ก็ได้ของไปเยอะเหมือนกันถึงจะ
ซื้อได้ไม่หมดก็เถอะ นี่มันไม่เคยกลับไปหาปูเลย ก็เพราะปู่มันจน
ไม่มีสมบัติอะไรให้"
เราปลอบใจแกไปบอกว่าเดี๋ยวเค้าคงกลับมาน่ะ คงเดินไปดูอย่าง
อื่นก่อน

เดินกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยค่ะ    หันหลังกลับไป
มองเห็นคุณปู่ยังยืนคอตกที่เดิม ในใจคิดวนเวียนตลอดเวลา

.... นี่เค้าทำแบบนี้กับพ่อตัวเองได้ยังไงนะ ...

ที่มา : www.pantip.com
ภาพ : http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000013250
#ThammanoonsFC
#เรื่องดีๆมีข้อคิด

Line : ts2502
Instagram : th.thamma

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น