เสื้อชุดใหม่ในถังขยะ
เสียงกดออดหน้าบ้านดังขึ้น
“คุณย่า เปิดประตูให้มะลิด้วยค้า”
เสียงหลานสาวตัวน้อยอายุเพิ่งจะ 7 ขวบ เพิ่งกลับ
จากโรงเรียนดังขึ้น คุณย่าวัย 70 ปี รีบกุลีกุจอเดิน
มาเปิดประตูให้หลานสาว
“หลานย่ากลับมาแล้วเหรอ ดูสิย่าซื้ออะไรให้หลาน?”
เด็กหญิงมะลิร้องเสียงกรีดกราดดีใจที่ได้เสื้อชุดใหม่
“คุณย่าใจดีจังเลย หนูมะลิรักคุณย่าค่ะ”
หลานสาวกอดคุณย่าและหอมแก้มไปหนึ่งฟอดใหญ่ๆ
“วันเสาร์นี้ก็เป็นวันเกิดของหลานแล้วนะ ย่าซื้อของ
ขวัญให้หนูเยอะแยะเลย เสื้อชุดนี้เอาไว้ใส่วันเสาร์นะ
ลูก”
พูดยังไม่ทันขาดคำ เด็กหญิงมะลิก็วิ่งเอาเสื้อผ้าชุด
ใหม่เข้าห้องไป แล้วเดินยิ้มแก้มตุ่ยออกมาอวดย่า
“หนูมะลิน่ารักไหมคะคุณย่า?”
“หลานย่าน่ารักที่สุดในโลกเลย”
พูดเสร็จนางก็ดึงหลานสาวเข้ามากอดอย่างรักใคร่
เย็นวันนั้น ลูกชายและลูกสะใภ้ของนางกลับมาจาก
ทำงาน นางเหลือบเห็นสีหน้าไม่พอใจของลูกสะใภ้
เมื่อเห็นมะลิเดินสวมเสื้อชุดใหม่ไปอวด แต่เธอไม่ได้
ว่าอะไร เธอรู้ว่าเสื้อผ้าที่แม่สามีซื้อมาให้หลานเป็น
เสื้อผ้าราคาถูก อีกทั้งเนื้อผ้าก็หยาบแถมยังมีกลิ่นติด
มาอีกด้วย เธอจึงได้แต่เก็บความรู้สึกไม่พอใจนั้นไว้
หลังอาหารเย็น ตอนที่เธอพามะลิไปอาบน้ำ เธอได้
พูดกับลูกสาวตัวน้อยว่า
“มะลิ ถอดชุดออกมาเดี๋ยวนี้ เสื้อผ้าที่บ้านยังมีอีกเยอะ
เสื้อผ้าชุดนี้ถอดออกมาเก็บไว้ก่อนและไม่ต้องถามแม่
นะว่าเก็บไว้ที่ไหน?”
เด็กน้อยมองหน้าแม่อย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมถอดเสื้อ
ผ้าที่คุณย่าซื้อมาให้ แล้วก็หัวเราะร่วนเมื่อคุณแม่ของ
เธอรดน้ำลงบนตัวของเธอ โดยไม่มีใครรู้ว่า คุณย่า
ของเด็กน้อยยืนฟังด้วยความเศร้าอย่างเงียบๆ แล้วก็
เดินเข้าห้องของตัวเองไป
กลางดึกคืนนั้น นางลุกจากเตียงโดยไม่ยอมเปิดไฟ
และใช้มือคลำไปที่ลูกบิดประตู แล้วเปิดออกมาอย่าง
เงียบๆ นางอาศัยแสงไฟสีแดงบนหิ้งพระเดินตรงไป
ที่ถังขยะ และทำการค้นหาอะไรสักอย่างหนึ่งและนาง
ก็เจอเสื้อผ้าชุดใหม่ ที่เพิ่งซื้อให้หลานสาวเมื่อบ่ายนี้
อยู่ในถังขยะใบนั้น นางหยิบเสื้อชุดนั้นขึ้นมาแนบไว้
ที่อก พลันน้ำตาก็ไหลออกมา ตอนนี้ทั้งมือทั้งหัวใจ
ของนางเต้นสั่นไม่เป็นปกติ นางยืดตัวเดินเข้าห้อง
ไปอย่างเงียบๆ
อีกมุมหนึ่งของห้องครัว ลูกชายของนางที่บังเอิญตื่น
ขึ้นมากลางดึกก่อนนางเพียงครู่เดียวก็ได้เห็นการกระ
ทำของแม่ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาได้แต่ยืนน้ำตานอง
หน้ารู้สึกสงสารแม่ของตัวเองจับใจ ไม่คิดว่าภรรยา
ของตนเองจะทำกับแม่ได้ถึงเพียงนี้
เช้าวันเสาร์ ภรรยาของเขาออกไปเที่ยวกับเพื่อนของ
เธอ ส่วนแม่ของเขาออกไปขายไข่ไก่ ที่หน้าตลาด
เหมือนทุกวัน เขาเข้าไปปลุกลูกสาวตัวน้อยแล้วบอก
กับลูกสาวว่า
“วันนี้เรามาเป็นสายลับกันดีไหมลูก”
“สายลับอะไรเหรอคะคุณพ่อ?”
เด็กหญิงมะลิไม่เข้าใจ
“เราจะเป็นสายลับแอบดูคุณย่าขายไข่ไก่นะสิ ไปลุก
ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว”
เด็กหญิงมะลิรีบลุกจากที่นอนล้างหน้าแปรงฟัน และ
แต่งตัวอย่างน่ารักออกมาหาคุณพ่อ ที่รออยู่ที่โซฟา
พ่อลูกแอบเดินตามคุณย่าไปที่ตลาด เขาเลือกเข้า
ไปนั่งแอบดูแม่ของตัวเองที่ร้านขายกาแฟ ที่มีทั้งต้น
ไม้และกระจกกั้นพอไม่ให้แม่ของตัวเองเห็น
แม่ของเขาตั้งโต๊ะพับเล็กๆ ขายไข่ไก่อยู่ใกล้ร้านโช
ห่วย ลูกค้ามีไม่มากนัก ดูเหมือนคนที่มาซื้อจะรู้จักแม่
เป็นอย่างดี เพราะขายทีก็พูดคุยกันนานเลยทีเดียว
แม่รับไข่ไก่มาในราคาฟองละ 2 บาท แต่ขายคู่ละแค่
5 บาท เขาไม่กล้าขัดใจแม่ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่คุ้ม แต่ก็
ยังดีกว่าให้แม่นั่งเหงาอยู่กับบ้านตามที่แม่บอก
พอใกล้จะเที่ยง ผู้คนก็เริ่มทยอยบางตา แม่ของเขา
เก็บโต๊ะพับไปฝากไว้กับร้านโชห่วย คาดจากสายตา
แม่ของเขาไม่น่าจะขายได้เกิน 30 ฟอง พอนางฝาก
เสร็จก็เดินหิ้วแผงไข่ที่ขายไม่หมด เดินไปร้านขาย
เสื้อผ้าเด็กที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก สองพ่อลูกแอบเดิน
ตามไปโดยไม่ให้คุณย่ารู้ตัว เมื่อนางเดินเข้าไปใน
ร้านก็หยิบชุดที่นางซื้อให้มะลิออกมาให้เจ้าของร้าน
“ฉันขอคืนชุดที่ซื้อไปเมื่อ 3 วันก่อนได้ไหม?”
“ไม่ได้หรอกค่ะยาย เสื้อผ้ามันเปื้อนหมดแล้วแถมป้าย
ก็ถูกแกะทิ้งไปแล้ว”
“งั้นฉันเอากลับไปซักให้ได้ไหม?”
นางยังไม่ละความพยายาม
“ไม่ได้หรอกคะ”
เถ้าแก่เนี้ยพูดแล้วก็เดินจากไป
“ช่วยยายหน่อยเถอะลูก เสื้อชุดนี้ฉันต้องขายไข่ไก่
ตั้งสองวันถึงจะพอค่าชุด ราคาไม่ใช่ถูกๆ ฉันซื้อของ
แพงไปให้หลานคิดว่าแม่ของเขาจะพอใจ ที่ไหนได้..”
เหมือนมีอะไรมาจุกที่ลำคอทำให้นางพูดต่อไม่ได้
“ยายคะ ถ้าหนูคืนตังให้ยายหนูก็ขาดทุนนะสิคะ หนู
ก็ใช่ว่าจะขายดีซะที่ไหน?”
เมื่อคืนไม่ได้นางก็นั่งลงกับพื้นร้องไห้เสียงดังออกมา
หญิงชราผมเผ้าขาวโพลน ใบหน้ามีแต่รอยเหี่ยวย่น
นั่งพิงกำแพงร้องไห้ด้วยความเสียใจ ทำให้ผู้คนที่กำ
ลังเลือกซื้อของหันมาดูกันเป็นแถว
“คุณยายอย่าทำอย่างนี้สิคะ เดี๋ยวลูกค้าก็หาว่าหนูรัง
แกคนแก่ คุณยายกลับบ้านเถอะค่ะ”
เจ้าของร้านบอกเชิงบังคับให้นางออกจากร้านไป
สองพ่อลูกเห็นเหตุการณ์และได้ยินทุกประโยค
“มะลิลูกพ่อ ไปรับคุณย่ากลับบ้านกันเถอะลูก”
เขาจูงมือลูกสาวตัวน้อยเดินเข้าร้านไป
“คุณย่าคะ ไม่ต้องคืนเสื้อชุดนี้หรอกคะ หนูมะลิชอบ
ชุดนี้มากๆค่ะ”
พูดเสร็จ เด็กน้อยก็หยิบชุดนั้นขึ้นมาสวมทับเสื้อผ้า
ที่สวมอยู่แล้วยิ้มให้คุณย่า
ลูกชายของนางรีบพยุงแม่ให้ลุกขึ้นพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“แม่ครับกลับบ้านเราเถอะ”
พูดเสร็จก็หยิบถุงไข่และจับมือของแม่ให้ลุกขึ้นยืน
“ต่อไปแม่ไม่ต้องออกมาขายไข่แล้วนะครับ ผมขอซื้อ
ไข่ที่แม่จะออกมาขายทั้งชีวิตครับ”
พูดเสร็จก็กอดแม่ร้องไห้อย่างไม่อายใคร
........................................................................
ความสุขในครอบครัว ไม่ได้อยู่ที่มีเงินทองมากมาย
เท่าใด? สวมใส่เสื้อผ้ายี่ห้ออะไร?แต่เป็นความเข้าใจ
ของคนในครอบครัวต่างหาก ความรักที่คนในครอบ
ครัวมีต่อกันต่างหากที่เป็นความสุขที่ แท้จริง อย่า
ปล่อยให้เสื้อผ้าผืนน้อย ๆ ทำร้ายน้ำใจของคนแก่ ๆ
อย่างใหญ่หลวง สิ่งที่คุณกำลังทำกับพ่อแม่ อยู่ใน
สายตาของลูกทุกอย่าง วันหนึ่งเมื่อคุณแก่ตัวมา ลูก
ของคุณก็จะทำกับคุณอย่างที่คุณได้ทำกับพ่อแม่ อย่า
สอนให้ลูกเป็นคนแล้งน้ำใจ อย่าสอนให้ลูกกลายเป็น
คนอกตัญญู
ที่มา : https://www.facebook.com/photo.php?fbid=916063108433060&set=gm.853340771370188&type=1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น