วันอังคารที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ดอกเบี้ยของความรัก วันนั้น คนขับรถเช่าโชเฟอร์จู ต้องส่งรถคืนเวลาเย็นห้าโมงครึ่ง ดูนาฬิกาตอนนี้ ห้าโมงสิบห้า เลยชูป้ายงดรับผู้ผู้โดยสารขึ้นมา วันนี้ตรงกับวันสุดสัปดาห์ หน้าโรง เรียนมีนักเรียนออกมากลุ่มใหญ่ โชเฟอร์จูเพราะความเคยชิน เลยหยุครถจ้องมองนัก เรียนที่เดินสวนกันไปมา พวกเขาทั้งหมดล้วนใส่แบบฟอร์มของโรงเรียนเหมื่อนกัน ทุกคน ใบหน้าแต่ละคนยิ้มแย้มด้วยความเบิกบาน โชเฟอร์..ฉัน..ฉันจะนั่งรถของคุณ มีเด็กหญิงขาเป๋สะพายกระเป๋านักเรียนเดินเข้ามา มองซ้ายแลขวาพูดอย่างเร่งรีบ โชเฟอร์จูพูดว่า ต้องส่งรถแล้วเขาแค่จอดพักสักครู่ เด็กหญิงก้มหัวลง ผ่านไปหลายวินาที เธอก็พูดอ้อนวอนอีกว่า ขอบคุณท่านมาก โช เฟอร์ แต่ฉันนั่งไปแค่ป้ายเดียว ป้ายเดียว คำ ขอบคุณ คำๆนั้น ทำให้โชเฟอร์จูลังเลใจ เขามองเด็กหญิง เห็นชุดฟอร์มโรงเรียน ที่เธอสวมใส่ซักจนซีดแล้ว กระเป๋านักเรียนที่เก่าจนไม่สามารถเก่าอีกแล้ว อดไมาได้ มี่จะถอนหายใจ จึงพูดว่า ขึ้นรถเถอะ เด็กหญิงดีใจมากแล้วขึ้นรถ รถวิ่งมาถึงทางโค้ง ทันใดนั้น เด็กหญิงพูดอย่างหวาดๆ โชเฟอร์ ฉันมีแค่สามเหรียญ ฉะนั้น ครึ่งป้ายก็ได้ โชเฟอร์จูมองจากกระจกมองหลัง เห็นเด็กหญิงหน้าตาแดงกล่ำ ไม่พูดอะไร เพราะเมืองๆนี้ ค่ารถมันเริ่มต้นที่ห้เหรียญ ขับมาถึงป้ายรถที่ใกล้ที่สุด โชเฟอร์จูจอดรถ เด็กหญิงลงจากรถปิดประตูด้วยท่าทาง ดีใจแล้วพูดว่า ขอบคุณท่านมากจริงๆ โชเฟอร์ โชเฟอร์จูมองตามเด็กหญิงที่เดินไปข้างหน้าอย่างกระโผลกกระเผก ทันใดนั้น เขารู้ สึกสะเทือนใจ เริ่มจากวันสุดสัปดาห์นั้นเป็นต้นมา โชเฟอร์จูทุกวันสุดสัปดาห์ก็จะเห็นเด็กหญิงนั้น หน้าประตูโรงเรียน รถเช่าหลายคันผ่านไป เด็กหญิงมองยังไม่มอง เอาแต่โยกขายืน รอ หรือ เด็กหญิงรอเรา โชเฟอร์จูคาดการณ์เอง แต่ภายในใจก็เกิดความรู้สึกอบอุ่น เขาขับรถออกไป เด็กหญิงโบกมือแต่ไกล โชเฟอร์จูประหลาดใจ รถซานต้าของเขาสี แดงเหมื่อนคันอื่นๆ เด็กหญิงทำไมมองปราดเดียวก็ดูออก ยังคงเป็นสามเหรียญเหมื่อนเดิม ป้ายเดียวเหมือนเดิม โชเฟอร์จูไม่ได้ถามเธอว่า เพราะเหตุใดถึงเจาะจงที่จะรอนั่งรถของเขา ไม่ได้ถามเธอว่า ทำไมถึงโดยสารแค่ ป้ายเดียว เด็กหญิงโดยทั่วไปแล้ว มักจะมีความลับที่เก็บไว้ในใจ โชเฟอร์จูเข้าใจใน เรื่องนี้ดี หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง และครั้งต่อๆไป กลายเป็นความคุ้นเคยของโชเฟอร์จู วัน สุดสัปดาห์ก่อนส่งรถ ลูกค้ารายสุดท้ายต้องเป็นเด็กหญิงขาเป๋ เขามักจะชูป้ายงดรับผู้ โคยสาร ตั้งใจรออยู่หน้าโรงเรียน เด็กหญิงก็คงราวสิบสี่สิบห้าปี ยามที่เห็นเธอ เธอ มักจะคล้ายกวางตัวน้อยกระโดดเข้ามา พูดด้วยเสียงอันดังกับเพื่อนนักเรียนว่า พบกัน ใหม่ ระยะทางใช้เวลาไม่ถึงห้านาที เด็กหญิงลงจากรถ คำพูดคำสุดท้ายที่พูดก็คือ ขอบคุณท่าน โชเฟอร์ คล้ายดั่งเป็นเพราะต้องการรอคำๆนี้ วันสุดสัปดาห์ไม่ว่าจะไปอยู่ไกลแค่ไหน โชเฟอร์ จูก็ต้องขับรถกลับมาที่นี่ บางครั้งแม้จะล่วงเลยเวลาส่งรถ ต้องเสียค่าปรับ เขาก็ต้อง ไปส่งเด็กหญิงก่อน เวลาผ่านไปรวดเร็วนัก สภาพการณ์นี้คงอยู่เป็นปี ย่างเข้าสู่ฤดูร้อนของปีที่สอง มองดู เด็กหญิงสะพายกระเป๋าที่หนักอึ้งขึ้นรถ โชเฟอร์จูมีความรู้สึกคล้ายดั่งจะต้องสูญเสีย อะไรไป เขารู้ดี เด็กหญิงจะจบมัธยมต้นแล้ว เธอจะเรียนมัธยมปลายที่ไหนต่อ ? โชเฟอร์ ขอบคุณท่านมากแล้ว นี่อาจจะเป็นการนั่งรถของคุณเป็นครั้งสุดท้าย นำพา ความยุ่งยากมาให้ท่านมากแล้ว ฉันสอบได้ที่โรงเรียน สิ้นจี๋อี้จง อาจเป็นได้ที่ครึ่งปีถึง จะได้กลับบ้านสักครั้ง เด็กหญิงพูด โชเฟอร์จูมองเธอจากกระจกมองหลัง ความรู้สึก ภายในใจณ.เวลานี้ยากจะอธิบาย เด็กหญิงยอดเยี่ยมมาก โรงเรียนนั้นเป็นอันดับต้นๆของจังหวัด สอบเข้าไปได้แล้ว เปรียบเสมือนได้ก้าวเท้าครึ่งก้าวสู่ประตูมหาวิทยาลัยแล้ว ถ้าเช่นนั้น ให้ผมส่งเธอไปถึงบ้านแล้วกัน โชเฟอร์พูด เด็กหญิงส่ายหัว บอกตนเองมีเงินแค่สามเหรียญ ครั้งนี้ไม่เก็บเงิน โชเฟอร์พูดจบก็มองนาฬิกา ส่งเด็กหญิงกลับบ้าน ต้องคลาดเวลา การส่งรถแน่ ทว่า เสียค่าปรับเล็กน้อยจะเป็นไรไป เขาคิดจะอยู่กับเด็กหญิงนานขึ้น อยากจะใช้เวลานี้อยู่กับเด็กหญิงนานขึ้นอีกนิด เด็กหญิงบอกที่อยู่ให้ ไกลมาก ยัง เหลืออีกเจ็ดป้าย ครึ่งชั่วโมงต่อมา โชเฟอร์จูได้หยุครถ เด็กหญิงสะพายกระเป๋าลงมา โชเฟอร์จูถือ กล่องไว้หนึ่งใบยื่นออกมา พูดว่า นี่เป็นของขวัญ ให้เธอ เด็กหญิงประหลาดใจ รับกล่องของขวัญมา จากนั้นโค้งคำนับให้โชเฟอร์จู พูดว่า ขอบ คุณท่าน โชเฟอร์ มองเด็กหญิงเดินกระโผกกระเผรกเดินเข้าไปในตัวตึก โชเฟอร์จู ถอนหายใจ เด็กหญิง จากนี้ไปก็จะไม่ได้พบกันอีกแล้ว เขาไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของเธอ 《 ตามหาคนดีเมื่อสิบปีก่อน 》 ชั่วพริบตา สิบปีผ่านไป โชเฟอร์จู ยังคงขับรถเช่า วันนี้ผู้โดยสารน้อย เขากำลังเช็ดรถ ทว่าได้ยินประกาศหาคนจากสถานีรายงานการจราจร ติดตามหาเมื่อสิบปีก่อน บุคคล ที่ขับรถเช่าของบริษัทเซิ่นลี่ ป้ายทะเบียนรถหมายเลข Az×××× โชเฟอร์จูได้ยินตกตะ ลึง มีคนหาเขา? สิบปีก่อน รถที่เขาขับก็คือรถคันนั้น โทรศัพย์ไปที่สถานี ผู้จัดรายการได้ให้หมายเลขโทรศัพย์แก่เขาหนึ่งเลขหมาย โช เฟอร์จูสงสัยมาก คิดไม่ออกว่าเป็นใคร ทุกวันยุ่งอยู่กับการทำมาหากิน นอกจากคู่ชีวิต แล้ว เขาแทบไม่รู้จักหญิงอื่นอีกเลย โทรศัพย์ติดแล้ว โชเฟอร์จูได้ยินเสียงของผู้หญิงที่ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ใช่ท่าน เหรอ? โชเฟอร์! โชเฟอร์จูตะลึงชั่วครู่ เสียงเช่นนี้ พูดออกเสียงจังหวะเช่นนี้ คุ้นมาก แต่ไม่สามารถคิดขึ้นมาได้ว่าเป็นใคร " ขอบคุณท่านมาก โชเฟอร์ "ผู้หญิงพูดอีกคำ โชเฟอร์จูตบท้ายทอยตนเอง คิดขึ้นมาจนได้ เป็นเด็กหญิงขาเป๋ที่เคยนั่งรถของเขา ใช่เธอ นัยต์ตาของโชเฟอร์จูเริ่มพร่า สิบปีแล้ว เด็กหญิงคนนั้นยังจำเขาได้ ทั้งสองนัดพบกันที่ร้านกาแฟ ยามที่เห็นเด็กหญิง โชเฟอร์จูแทบจะจำไม่ได้ ผู้ที่สวย สง่างามที่อยู่ตรงหน้าคือ เด็กหญิงที่มีเงินเพียงสามเหรียญแล้วนั่งรถเขา เด็กหญิง ลุกขึ้นยืน โค้งคำนับให้โชเฟอร์จู แล้วพูดว่า ฉันขอบคุณท่านจากก้นบึ้งของหัวใจ โชเฟอร์ ยามดื่มกาแฟ เด็กสาวพูดถึงเรื่องในอดีต เมื่อสิบสองปีก่อน พ่อของเธอก็เป็นคนขับ รถเช่าคนหนึ่ง พ่อรักเธอมาก ทุกวันสุดสัปดาห์ ไม่ว่าท่านจะยุ่งแค่ไหนก็จะขับรถมา รับเธอกลับบ้าน ถึงวันตรุษจีนทั้งครอบครัวจะกลับไปฉลองที่บ้านเดิม เพื่อต้องการ บรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น ท่านพ่อได้ยืมรถตู้ของเพื่อนมา วิ่งถึงกลางทาง ทันใดนั้น หิมะเกิดตกหนัก ไม่ทันได้ระวังชนกับรถบรรทุก รถตู้ถูถชนยับเยิน คุณพ่อเสียชีวิตทัน ที เป็นเพราะครั้งนั้น ขาของเธอบาดเจ็บสาหัส หลังจัดการพิธีศพคุณพ่อแล้ว คุณแม่เป็นเพราะต้องชดใช้ค่ารถ และค่ารักษาตัวเธอ ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ส่วนเธอตั้งหน้าตั้งตาเรียนสุดชีวิต ใจหนึ่งก็อยากเติบใหญ่ไวไว เธอเข้มแข็งมาก ไม่ว่าเรื่องราวอะไรก็อดทนได้ นอกจากความสงสารจากผู้อื่นที่เธอ ทนไม่ได้ ดังนั้น เธอไม่เคยเล่าเรื่องราวที่เกิดกลางทางให้ใครรับรู้ เลิกเรียนก็กลับบ้าน ยามที่ ถูถเพื่อนนักเรียนถามว่า ทำไมตอนนี้ต้องนั่งรถเมล์ เธอจะโกหกไปว่า ตอนนี้พ่อเดิน ทางไปไกล คำพูดโกหกยื้อไปได้ครึ่งปี จนกระทั่งวันหนึ่ง พบเจอโชเฟอร์จู เธอเห็น รถเช่าคันนั้นจอดอยู่ข้างทางไม่ขยับเขยื้อน เหมือนที่คุณพ่อเธอขับรถมาแล้วรออยู่ หน้าโรงเรียน เธอมีเงินเพียงสามเหรียญเพื่อนั่งรถเมล์ แต่เธอนำมันทั้งหมดมานั่งรถเช่า นั่งเพียง แค่ป้ายเดียว จากนั้นต้องใช้เวลาชั่วโมงครึ่งเพื่อเดินกลับถึงบ้าน แม้ระยะทางยาวไกล แต่เธอเดินไปอย่างสงบ เพราะว่า จะได้ไม่ต้องมีใครมาคาดเดาว่า เธอสูญเสียพ่อไป แล้ว ท่านต้องไม่รู้แน่นอนว่า รถเช่าที่ขับอยู่นั้น ก็คือคันที่คุณพ่อขับอยู่ก่อนที่จะเสียชีวิต หมายเลขป้ายทะเบียนรถมันอยู่ในหัวฉันตลอด เด็กสาวเล่าไปน้ำตาก็ไหลไป ดังนั้น แม้จะมองเห็นอยู่ไกลๆ แค่แว่บเดียวฉันก็จำได้ แล้ว โชเฟอร์จูฟังแล้ว น้ำตาแทบจะอั้นไม่อยู่ แผ่นเหรียญรางวัลนี้ ฉันพกติดตัวตลอด ฉันไม่รู้ว่า ถ้าหากไม่มีมันแล้ว ฉันจะเดินมา ถึงวันนี้หรือไม่ ยังมีอีก ค่ารถที่ท่านคืนให้ฉัน ฉันเก็บไว้ตลอด มีเงินนี้แล้ว ฉันรู้สึกว่า ความลำบากใดๆฉันก็สามารถฟันฝ่าไปได้ ถึงแม้จะสูญเสียคุณพ่อไปแล้วแต่ฉันก็ยัง คงมีความรักแบบของของพ่ออยู่ พูดไปเด็กสาวได้หยิบแผ่นเหรียญรางวัลออกมาจากกระเป๋า ห้อยที่คอ นั้นเป็นแผ่น เหรียญรางวัลเหรียญทองที่ขอบๆเริ่มดำแล้ว ด้านหลังของเหรียญมีอักษรเล็กๆอยู่ หนึ่งแถว " อวยพรให้ชีวิตคุณเหมือนดั่งเหรียญทองนี้ " แผ่นเหรียญทองนี้ก็คือ ของขวัญที่โชเฟอร์จูได้มอบให้กับเด็กสาว " บุญคุณแม้น้ำหยดเดียวจะใช้คำพูดใดมาทดแทน " เด็กสาวคล้องแขนโชเฟอร์จูออกจากร้านกาแฟ มองดูเด็กสาวขับรถไปไกลแล้ว โชเฟอร์จูขับรถจอดข้างทาง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างสาแก่ใจ เด็กสาวพิการ คนนั้น คนที่ณ.เวลานี้ที่เขาพึ่งจะรู้ว่าชื่อ หลินเหม่ยเสีย เธอกับลูกสาวของตนเองที่สิบสองปีก่อนจากไปด้วยโรคมะเร็ง แทบจะเหมือนออกมา จากพิมพ์เดียวกัน ตอนลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ ทุกสุดสัปดาห์ โชเฟอร์จูก็จะไปรับเธอที่หน้าโรงเรียนนี้เช่น กัน ลูกสาวก่อนขึ้นรถคำพูดแรกก็คือ "ขอบคุณคุณพ่อ" และคำที่พูดหลังลงจากรถ "ขอบคุณท่าน คุณพ่อ" ทำให้หัวใจเขาหวานชื่นและมีความสุขมากมาย แผ่นป้ายรางวัลนั้น เป็นของของลูกสาวเขา ที่ไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้มา เคยเป็น ความภาคภูมิใจและความหวังของเขาทั้งหมด แต่ลูกสาวมาด่วนจากไปกระทันหัน ซึ้ง เขาไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อถึงวันสุดสัปดาห์วันนั้น ผ่านโรงเรียนแห่งนั้น อดไม่ได้ที่จะจอด รถ คล้ายดั่งว่าลูกสาวจะเดินออกมาจากโรงเรียนอีก ขึ้นรถ พูดว่า "ขอบคุณคุณพ่อ" ช่วงเวลาที่เด็กสาวมานั่งรถของเขา เขารู้สึกว่า ลูกสาวได้กลับมาอยู่ข้างกายเขาอีก ครั้ง วันเวลาของเขายังมีความหวังเขาได้พบความสุขอีกครั้ง ทันใดนั้น มือเขาได้สัมผัสถูถซองจดหมายซองหนึ่ง หยิบออกมาดู ภายในบรรจุเงิน ดอลล่าร์ปึกหนา โชเฟอร์จูตะลึง เขานึกไม่ออกว่า หลินเหม่ยเสียได้เอาเงินใส่เข้าไป ในกระเป๋าเสื้อนอกของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือจะเป็นตอนที่คล้องแขนเขา กลางปึกธนบัตร มีกระดาษบันทึกแผ่นหนึ่ง : โชเฟอร์ นี่คือดอกเบี้ยของความรัก ขอ ให้ท่านต้องรับไว้ เงินนั้นไร้ค่า ท่านจะอยู่ในใจฉันตลอดไป " ขอบคุณท่าน โชเฟอร์ " ปล. ไร้ค่าแต่มีราคา คุณผู้อ่านจะเลือก " มีค่า " หรือ " มีราคา "

ดอกเบี้ยของความรัก

วันนั้น คนขับรถเช่าโชเฟอร์จู ต้องส่งรถคืนเวลาเย็นห้าโมงครึ่ง ดูนาฬิกาตอนนี้
ห้าโมงสิบห้า เลยชูป้ายงดรับผู้ผู้โดยสารขึ้นมา วันนี้ตรงกับวันสุดสัปดาห์ หน้าโรง
เรียนมีนักเรียนออกมากลุ่มใหญ่ โชเฟอร์จูเพราะความเคยชิน เลยหยุครถจ้องมองนัก
เรียนที่เดินสวนกันไปมา พวกเขาทั้งหมดล้วนใส่แบบฟอร์มของโรงเรียนเหมื่อนกัน
ทุกคน ใบหน้าแต่ละคนยิ้มแย้มด้วยความเบิกบาน

โชเฟอร์..ฉัน..ฉันจะนั่งรถของคุณ มีเด็กหญิงขาเป๋สะพายกระเป๋านักเรียนเดินเข้ามา
มองซ้ายแลขวาพูดอย่างเร่งรีบ โชเฟอร์จูพูดว่า ต้องส่งรถแล้วเขาแค่จอดพักสักครู่
เด็กหญิงก้มหัวลง ผ่านไปหลายวินาที เธอก็พูดอ้อนวอนอีกว่า ขอบคุณท่านมาก โช
เฟอร์ แต่ฉันนั่งไปแค่ป้ายเดียว ป้ายเดียว

คำ ขอบคุณ คำๆนั้น ทำให้โชเฟอร์จูลังเลใจ เขามองเด็กหญิง เห็นชุดฟอร์มโรงเรียน
ที่เธอสวมใส่ซักจนซีดแล้ว กระเป๋านักเรียนที่เก่าจนไม่สามารถเก่าอีกแล้ว อดไมาได้
มี่จะถอนหายใจ จึงพูดว่า ขึ้นรถเถอะ

เด็กหญิงดีใจมากแล้วขึ้นรถ รถวิ่งมาถึงทางโค้ง ทันใดนั้น เด็กหญิงพูดอย่างหวาดๆ
โชเฟอร์ ฉันมีแค่สามเหรียญ ฉะนั้น ครึ่งป้ายก็ได้ โชเฟอร์จูมองจากกระจกมองหลัง
เห็นเด็กหญิงหน้าตาแดงกล่ำ ไม่พูดอะไร เพราะเมืองๆนี้ ค่ารถมันเริ่มต้นที่ห้เหรียญ

ขับมาถึงป้ายรถที่ใกล้ที่สุด โชเฟอร์จูจอดรถ เด็กหญิงลงจากรถปิดประตูด้วยท่าทาง
ดีใจแล้วพูดว่า ขอบคุณท่านมากจริงๆ โชเฟอร์

โชเฟอร์จูมองตามเด็กหญิงที่เดินไปข้างหน้าอย่างกระโผลกกระเผก ทันใดนั้น เขารู้
สึกสะเทือนใจ

เริ่มจากวันสุดสัปดาห์นั้นเป็นต้นมา โชเฟอร์จูทุกวันสุดสัปดาห์ก็จะเห็นเด็กหญิงนั้น
หน้าประตูโรงเรียน รถเช่าหลายคันผ่านไป เด็กหญิงมองยังไม่มอง เอาแต่โยกขายืน
รอ หรือ เด็กหญิงรอเรา โชเฟอร์จูคาดการณ์เอง แต่ภายในใจก็เกิดความรู้สึกอบอุ่น
เขาขับรถออกไป เด็กหญิงโบกมือแต่ไกล โชเฟอร์จูประหลาดใจ รถซานต้าของเขาสี
แดงเหมื่อนคันอื่นๆ เด็กหญิงทำไมมองปราดเดียวก็ดูออก

ยังคงเป็นสามเหรียญเหมื่อนเดิม ป้ายเดียวเหมือนเดิม โชเฟอร์จูไม่ได้ถามเธอว่า
เพราะเหตุใดถึงเจาะจงที่จะรอนั่งรถของเขา ไม่ได้ถามเธอว่า ทำไมถึงโดยสารแค่
ป้ายเดียว เด็กหญิงโดยทั่วไปแล้ว มักจะมีความลับที่เก็บไว้ในใจ โชเฟอร์จูเข้าใจใน
เรื่องนี้ดี

หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง และครั้งต่อๆไป กลายเป็นความคุ้นเคยของโชเฟอร์จู วัน
สุดสัปดาห์ก่อนส่งรถ ลูกค้ารายสุดท้ายต้องเป็นเด็กหญิงขาเป๋ เขามักจะชูป้ายงดรับผู้
โคยสาร ตั้งใจรออยู่หน้าโรงเรียน เด็กหญิงก็คงราวสิบสี่สิบห้าปี ยามที่เห็นเธอ เธอ
มักจะคล้ายกวางตัวน้อยกระโดดเข้ามา พูดด้วยเสียงอันดังกับเพื่อนนักเรียนว่า พบกัน
ใหม่ ระยะทางใช้เวลาไม่ถึงห้านาที เด็กหญิงลงจากรถ คำพูดคำสุดท้ายที่พูดก็คือ
ขอบคุณท่าน โชเฟอร์

คล้ายดั่งเป็นเพราะต้องการรอคำๆนี้ วันสุดสัปดาห์ไม่ว่าจะไปอยู่ไกลแค่ไหน โชเฟอร์
จูก็ต้องขับรถกลับมาที่นี่ บางครั้งแม้จะล่วงเลยเวลาส่งรถ ต้องเสียค่าปรับ เขาก็ต้อง
ไปส่งเด็กหญิงก่อน

เวลาผ่านไปรวดเร็วนัก สภาพการณ์นี้คงอยู่เป็นปี ย่างเข้าสู่ฤดูร้อนของปีที่สอง มองดู
เด็กหญิงสะพายกระเป๋าที่หนักอึ้งขึ้นรถ โชเฟอร์จูมีความรู้สึกคล้ายดั่งจะต้องสูญเสีย
อะไรไป เขารู้ดี เด็กหญิงจะจบมัธยมต้นแล้ว เธอจะเรียนมัธยมปลายที่ไหนต่อ ?

โชเฟอร์ ขอบคุณท่านมากแล้ว นี่อาจจะเป็นการนั่งรถของคุณเป็นครั้งสุดท้าย นำพา
ความยุ่งยากมาให้ท่านมากแล้ว ฉันสอบได้ที่โรงเรียน สิ้นจี๋อี้จง อาจเป็นได้ที่ครึ่งปีถึง
จะได้กลับบ้านสักครั้ง เด็กหญิงพูด โชเฟอร์จูมองเธอจากกระจกมองหลัง ความรู้สึก
ภายในใจณ.เวลานี้ยากจะอธิบาย

เด็กหญิงยอดเยี่ยมมาก โรงเรียนนั้นเป็นอันดับต้นๆของจังหวัด สอบเข้าไปได้แล้ว
เปรียบเสมือนได้ก้าวเท้าครึ่งก้าวสู่ประตูมหาวิทยาลัยแล้ว

ถ้าเช่นนั้น ให้ผมส่งเธอไปถึงบ้านแล้วกัน โชเฟอร์พูด
เด็กหญิงส่ายหัว บอกตนเองมีเงินแค่สามเหรียญ
ครั้งนี้ไม่เก็บเงิน โชเฟอร์พูดจบก็มองนาฬิกา ส่งเด็กหญิงกลับบ้าน ต้องคลาดเวลา
การส่งรถแน่ ทว่า เสียค่าปรับเล็กน้อยจะเป็นไรไป เขาคิดจะอยู่กับเด็กหญิงนานขึ้น
อยากจะใช้เวลานี้อยู่กับเด็กหญิงนานขึ้นอีกนิด เด็กหญิงบอกที่อยู่ให้ ไกลมาก ยัง
เหลืออีกเจ็ดป้าย

ครึ่งชั่วโมงต่อมา โชเฟอร์จูได้หยุครถ เด็กหญิงสะพายกระเป๋าลงมา โชเฟอร์จูถือ
กล่องไว้หนึ่งใบยื่นออกมา พูดว่า นี่เป็นของขวัญ ให้เธอ
เด็กหญิงประหลาดใจ รับกล่องของขวัญมา จากนั้นโค้งคำนับให้โชเฟอร์จู พูดว่า ขอบ
คุณท่าน โชเฟอร์ มองเด็กหญิงเดินกระโผกกระเผรกเดินเข้าไปในตัวตึก โชเฟอร์จู
ถอนหายใจ เด็กหญิง จากนี้ไปก็จะไม่ได้พบกันอีกแล้ว เขาไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของเธอ

《 ตามหาคนดีเมื่อสิบปีก่อน 》

ชั่วพริบตา สิบปีผ่านไป โชเฟอร์จู ยังคงขับรถเช่า วันนี้ผู้โดยสารน้อย เขากำลังเช็ดรถ
ทว่าได้ยินประกาศหาคนจากสถานีรายงานการจราจร ติดตามหาเมื่อสิบปีก่อน บุคคล
ที่ขับรถเช่าของบริษัทเซิ่นลี่ ป้ายทะเบียนรถหมายเลข Az×××× โชเฟอร์จูได้ยินตกตะ
ลึง มีคนหาเขา? สิบปีก่อน รถที่เขาขับก็คือรถคันนั้น

โทรศัพย์ไปที่สถานี ผู้จัดรายการได้ให้หมายเลขโทรศัพย์แก่เขาหนึ่งเลขหมาย โช
เฟอร์จูสงสัยมาก คิดไม่ออกว่าเป็นใคร ทุกวันยุ่งอยู่กับการทำมาหากิน นอกจากคู่ชีวิต
แล้ว เขาแทบไม่รู้จักหญิงอื่นอีกเลย

โทรศัพย์ติดแล้ว โชเฟอร์จูได้ยินเสียงของผู้หญิงที่ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ใช่ท่าน
เหรอ? โชเฟอร์! โชเฟอร์จูตะลึงชั่วครู่ เสียงเช่นนี้ พูดออกเสียงจังหวะเช่นนี้ คุ้นมาก
แต่ไม่สามารถคิดขึ้นมาได้ว่าเป็นใคร " ขอบคุณท่านมาก โชเฟอร์ "ผู้หญิงพูดอีกคำ

โชเฟอร์จูตบท้ายทอยตนเอง คิดขึ้นมาจนได้ เป็นเด็กหญิงขาเป๋ที่เคยนั่งรถของเขา
ใช่เธอ นัยต์ตาของโชเฟอร์จูเริ่มพร่า สิบปีแล้ว เด็กหญิงคนนั้นยังจำเขาได้

ทั้งสองนัดพบกันที่ร้านกาแฟ ยามที่เห็นเด็กหญิง โชเฟอร์จูแทบจะจำไม่ได้ ผู้ที่สวย
สง่างามที่อยู่ตรงหน้าคือ เด็กหญิงที่มีเงินเพียงสามเหรียญแล้วนั่งรถเขา เด็กหญิง
ลุกขึ้นยืน โค้งคำนับให้โชเฟอร์จู แล้วพูดว่า ฉันขอบคุณท่านจากก้นบึ้งของหัวใจ
โชเฟอร์

ยามดื่มกาแฟ เด็กสาวพูดถึงเรื่องในอดีต เมื่อสิบสองปีก่อน พ่อของเธอก็เป็นคนขับ
รถเช่าคนหนึ่ง พ่อรักเธอมาก ทุกวันสุดสัปดาห์ ไม่ว่าท่านจะยุ่งแค่ไหนก็จะขับรถมา
รับเธอกลับบ้าน ถึงวันตรุษจีนทั้งครอบครัวจะกลับไปฉลองที่บ้านเดิม เพื่อต้องการ
บรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น ท่านพ่อได้ยืมรถตู้ของเพื่อนมา วิ่งถึงกลางทาง ทันใดนั้น
หิมะเกิดตกหนัก ไม่ทันได้ระวังชนกับรถบรรทุก รถตู้ถูถชนยับเยิน คุณพ่อเสียชีวิตทัน
ที เป็นเพราะครั้งนั้น ขาของเธอบาดเจ็บสาหัส

หลังจัดการพิธีศพคุณพ่อแล้ว คุณแม่เป็นเพราะต้องชดใช้ค่ารถ และค่ารักษาตัวเธอ
ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ส่วนเธอตั้งหน้าตั้งตาเรียนสุดชีวิต ใจหนึ่งก็อยากเติบใหญ่ไวไว
เธอเข้มแข็งมาก ไม่ว่าเรื่องราวอะไรก็อดทนได้ นอกจากความสงสารจากผู้อื่นที่เธอ
ทนไม่ได้

ดังนั้น เธอไม่เคยเล่าเรื่องราวที่เกิดกลางทางให้ใครรับรู้ เลิกเรียนก็กลับบ้าน ยามที่
ถูถเพื่อนนักเรียนถามว่า ทำไมตอนนี้ต้องนั่งรถเมล์ เธอจะโกหกไปว่า ตอนนี้พ่อเดิน
ทางไปไกล คำพูดโกหกยื้อไปได้ครึ่งปี จนกระทั่งวันหนึ่ง พบเจอโชเฟอร์จู เธอเห็น
รถเช่าคันนั้นจอดอยู่ข้างทางไม่ขยับเขยื้อน เหมือนที่คุณพ่อเธอขับรถมาแล้วรออยู่
หน้าโรงเรียน

เธอมีเงินเพียงสามเหรียญเพื่อนั่งรถเมล์ แต่เธอนำมันทั้งหมดมานั่งรถเช่า นั่งเพียง
แค่ป้ายเดียว จากนั้นต้องใช้เวลาชั่วโมงครึ่งเพื่อเดินกลับถึงบ้าน แม้ระยะทางยาวไกล
แต่เธอเดินไปอย่างสงบ เพราะว่า จะได้ไม่ต้องมีใครมาคาดเดาว่า เธอสูญเสียพ่อไป
แล้ว

ท่านต้องไม่รู้แน่นอนว่า รถเช่าที่ขับอยู่นั้น ก็คือคันที่คุณพ่อขับอยู่ก่อนที่จะเสียชีวิต
หมายเลขป้ายทะเบียนรถมันอยู่ในหัวฉันตลอด

เด็กสาวเล่าไปน้ำตาก็ไหลไป ดังนั้น แม้จะมองเห็นอยู่ไกลๆ แค่แว่บเดียวฉันก็จำได้
แล้ว โชเฟอร์จูฟังแล้ว น้ำตาแทบจะอั้นไม่อยู่

แผ่นเหรียญรางวัลนี้ ฉันพกติดตัวตลอด ฉันไม่รู้ว่า ถ้าหากไม่มีมันแล้ว ฉันจะเดินมา
ถึงวันนี้หรือไม่ ยังมีอีก ค่ารถที่ท่านคืนให้ฉัน ฉันเก็บไว้ตลอด มีเงินนี้แล้ว ฉันรู้สึกว่า
ความลำบากใดๆฉันก็สามารถฟันฝ่าไปได้ ถึงแม้จะสูญเสียคุณพ่อไปแล้วแต่ฉันก็ยัง
คงมีความรักแบบของของพ่ออยู่

พูดไปเด็กสาวได้หยิบแผ่นเหรียญรางวัลออกมาจากกระเป๋า ห้อยที่คอ นั้นเป็นแผ่น
เหรียญรางวัลเหรียญทองที่ขอบๆเริ่มดำแล้ว ด้านหลังของเหรียญมีอักษรเล็กๆอยู่
หนึ่งแถว " อวยพรให้ชีวิตคุณเหมือนดั่งเหรียญทองนี้ "

แผ่นเหรียญทองนี้ก็คือ ของขวัญที่โชเฟอร์จูได้มอบให้กับเด็กสาว
" บุญคุณแม้น้ำหยดเดียวจะใช้คำพูดใดมาทดแทน "

เด็กสาวคล้องแขนโชเฟอร์จูออกจากร้านกาแฟ มองดูเด็กสาวขับรถไปไกลแล้ว
โชเฟอร์จูขับรถจอดข้างทาง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างสาแก่ใจ เด็กสาวพิการ
คนนั้น คนที่ณ.เวลานี้ที่เขาพึ่งจะรู้ว่าชื่อ หลินเหม่ยเสีย

เธอกับลูกสาวของตนเองที่สิบสองปีก่อนจากไปด้วยโรคมะเร็ง แทบจะเหมือนออกมา
จากพิมพ์เดียวกัน

ตอนลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ ทุกสุดสัปดาห์ โชเฟอร์จูก็จะไปรับเธอที่หน้าโรงเรียนนี้เช่น
กัน ลูกสาวก่อนขึ้นรถคำพูดแรกก็คือ "ขอบคุณคุณพ่อ" และคำที่พูดหลังลงจากรถ
"ขอบคุณท่าน คุณพ่อ" ทำให้หัวใจเขาหวานชื่นและมีความสุขมากมาย

แผ่นป้ายรางวัลนั้น เป็นของของลูกสาวเขา ที่ไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้มา เคยเป็น
ความภาคภูมิใจและความหวังของเขาทั้งหมด แต่ลูกสาวมาด่วนจากไปกระทันหัน ซึ้ง
เขาไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อถึงวันสุดสัปดาห์วันนั้น ผ่านโรงเรียนแห่งนั้น อดไม่ได้ที่จะจอด
รถ คล้ายดั่งว่าลูกสาวจะเดินออกมาจากโรงเรียนอีก ขึ้นรถ พูดว่า "ขอบคุณคุณพ่อ"

ช่วงเวลาที่เด็กสาวมานั่งรถของเขา เขารู้สึกว่า ลูกสาวได้กลับมาอยู่ข้างกายเขาอีก
ครั้ง วันเวลาของเขายังมีความหวังเขาได้พบความสุขอีกครั้ง

ทันใดนั้น มือเขาได้สัมผัสถูถซองจดหมายซองหนึ่ง หยิบออกมาดู ภายในบรรจุเงิน
ดอลล่าร์ปึกหนา โชเฟอร์จูตะลึง เขานึกไม่ออกว่า หลินเหม่ยเสียได้เอาเงินใส่เข้าไป
ในกระเป๋าเสื้อนอกของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือจะเป็นตอนที่คล้องแขนเขา

กลางปึกธนบัตร มีกระดาษบันทึกแผ่นหนึ่ง : โชเฟอร์ นี่คือดอกเบี้ยของความรัก ขอ
ให้ท่านต้องรับไว้ เงินนั้นไร้ค่า ท่านจะอยู่ในใจฉันตลอดไป

" ขอบคุณท่าน โชเฟอร์ "

ปล. ไร้ค่าแต่มีราคา คุณผู้อ่านจะเลือก " มีค่า " หรือ " มีราคา "

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น