เมื่อชายคนหนึ่งได้เดินผ่านช้างตัวใหญ่ที่ถูกผูกไว้กับต้นไม้ข้างทาง เขาก็ต้องหยุดเดินเพราะสะดุดใจกับอะไรบางอย่างซึ่งดูไม่สมเหตุสมผล นั่นคือช้างตัวใหญ่ตัวนี้มีเพียงเชือกเส้นเล็กๆล่ามไว้ที่ขาหน้าเท่านั้น ไม่ได้เป็นโซ่ที่แข็งแรงทนทาน หรือมีอย่างอื่นที่พันธนาการไว้เลย ซึ่งถ้าดูจากขนาดตัวของช้างกับเชือกแล้วช้างน่าจะดึงเชือกขาดได้ทุกเมื่อ แต่มันก็ไม่ทำ กลับยืนสงบไม่ได้มีความพยายามจะทำอะไรเลย
เขาเดินตรงเข้าไปหาควานช้างที่นั่งอยู่ใกล้ๆ พร้อมกับถามคำถามที่เขาสงสัย ว่าทำไมช้างถึงไม่หลบหนี ทั้งๆที่เชือกเส้นเล็กเพียงเท่านี้ และเขาก็ได้รับคำตอบที่น่าทึ่ง
“คือเมื่อตอนที่มันยังเด็ก เราก็ใช้เชือกขนาดนี้ล่ามมันไว้ และตอนที่มันอายุเท่านั้น แม้มันจะพยายามมันก็ยังไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะดึงเชือกให้ขาดได้ พอมันโตขึ้นมันก็เลยยังเชื่ออยู่เหมือนเดิมว่ามันไม่สามารถที่จะทำได้ มันก็เลยไม่ทำ”
ชายคนนั้นประหลาดใจมาก ทั้งๆที่เพียงแค่ดูด้วยสายตาก็รู้ว่าช้างตัวนั้นสามารถดึงเชือกให้ขาดและเป็นอิสระได้อย่างไม่ยากเย็น แต่มันก็ไม่ทำเพียงเพราะมันเชื่อว่ามันทำไม่ได้
เหมือนกับคนเรา มีคนมากมายหลายคนที่ไม่กล้าที่จะทำอะไรก็ตามที่อยากจะทำ เพราะเชื่อว่าเราทำไม่ได้ เพียงเพราะเมื่อก่อนเราเคยทำไม่ได้ หรือเคยทำแล้วแต่ทำไม่สำเร็จในอดีต
กี่ครั้งแล้วที่คุณไม่กล้าทำอะไรเพราะประสบการณ์หรือความเชื่อในอดีต
กี่ครั้งแล้วที่คุณไม่กล้าทำอะไรใหม่ๆเพียงเพราะคุณเชื่อว่าคุณทำไม่ได้
เมื่อคุณเปลี่ยนความเชื่อได้ คุณก็มีโอกาสทำได้
อย่าปล่อยให้ประสบการณ์ หรือความคิดในอดีต มาจำกัดสิ่งที่คุณจะทำในตอนนี้และอนาคต
Fwd line
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น