ในเดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2500 จรวดลำหนึ่งพุ่งขึ้นจากฐานที่คาซัคสถาน (ส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตในเวลานั้น) ฝ่าชั้นบรรยากาศโลก ปล่อยวัตถุหนัก 184 ปอนด์สู่ห้วงอวกาศ มันโคจรรอบโลกครบหนึ่งรอบในเวลาเก้าสิบนาที
เป็นดาวเทียมดวงแรกของโลก นาม สปุตนิก 1 สิ่งประดิษฐ์ที่เคยเป็นเพียงฝันของนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์
หนังสือพิมพ์ลงข่าว "Reds Orbit Artificial Moon" และ "Soviet Satellite Circles Globe Every 90 Minutes"
อเมริกันช็อกอย่างรุนแรง ผู้ที่ตกใจกับข่าวนี้มากที่สุดคือชนชั้นปกครองในวอชิงตัน พวกเขารู้ว่าใครก็ตามที่ครองอวกาศจะครองโลก
ช่วงนั้นสงครามเย็นระหว่างเสรีนิยมตะวันตกกับโลกคอมมิวนิสต์เริ่มมาแล้วหลายปี การโคจรของดาวเทียมดวงแรกของรัสเซียเป็นการตบหน้าอเมริกาอย่างแรง
บัดดลสงครามเย็นก็เปิดสนามการรบแห่งใหม่ นั่นคือเหนือชั้นบรรยากาศโลก
………….
ฝ่ายอเมริกันจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างโดยเร็วที่สุด พวกเขาจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมาจัดการเรื่องนี้โดยเฉพาะ เป้าหมาย : ส่งจรวดออกไปนอกโลกเช่นเดียวกับพวกรัสเซีย กำหนดเวลา : ด่วนที่สุด ก่อนที่พวกโซเวียตสามารถพัฒนาขีปนาวุธติดดาวเทียม
ทว่าจรวดหลายลำของอเมริกาในช่วงหลายปีนั้นไม่เคยทะยานพ้นชั้นบรรยากาศโลก ความล้มเหลวของพวกเขาถูกตอกย้ำด้วยการที่ ยูริ กาการิน กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ขึ้นไปโคจรรอบโลกสำเร็จในเวลาไม่นานต่อมา
อเมริกาสิ้นหวัง!
ทว่าสิ่งที่ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ กระทำกลับยิ่งทำให้คนในองค์การนาซาตาค้าง
เขากล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาสูงในวันที่ 25 พฤษภาคม 2504 ว่า
"...ข้าพเจ้าเชื่อว่าประเทศนี้สมควรรับภาระที่จะบรรลุเป้าหมายก่อนสิ้นทศวรรษนี้ ส่งมนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์ และกลับคืนสู่โลกอย่างปลอดภัย ไม่มีโครงการอวกาศใดในช่วงเวลานี้ที่น่าทึ่งสำหรับมนุษยชาติและสำคัญต่อการสำรวจอวกาศในระยะยาว และไม่มีโครงการใดที่ยากเย็นและแพงในการบรรลุเป้านี้..."
คนในนาซาตะลึง เพราะลำพังนำคนขึ้นวงโคจรยังทำไม่ได้ มิพักเอ่ยถึงคำว่า ดวงจันทร์ และเส้นตายที่น้อยกว่าสิบปี
………….
ผมทำงานสร้างสรรค์มาหลายปี บ่อยครั้งได้ยินคำถามว่า "คุณคิดงานชิ้นนี้ออกมาได้อย่างไร?"
หลายครั้งงานสร้างสรรค์ที่ดูยากเย็นกลับสำเร็จในเวลาอันสั้น ในกำหนดเวลาเส้นตายที่แสนจำกัด
ทำได้อย่างไร?
สมองเป็นอวัยวะที่แปลกอย่างหนึ่ง มันชอบความท้าทาย แต่เจ้าของสมองมักไม่ชอบ กลัวว่าหากใช้งานมันมาก สมองจะบอบช้ำ
ในความจริงกลับตรงข้าม สมองยิ่งใช้คิดในเรื่องท้าทายและสร้างสรรค์กลับยิ่งทำงานดี ลองให้มันทำหลาย ๆ เรื่อง มันก็ทำได้
โจทย์ยิ่งยาก ยิ่งท้าทายความคิด
เด็กออทิสติกพิสูจน์ว่า สมองคนเราทำอะไรต่ออะไรได้มากกว่าที่เรารู้ และไม่น่าเชื่อ
เคนเนดี้จึงกล่าวว่า "เราเลือกไปดวงจันทร์ในทศวรรษนี้และทำเรื่องต่าง ๆ มิใช่เพราะมันง่าย แต่เพราะมันยาก"
เพราะมนุษย์ทำอะไร ๆ ก็ได้ หากถูกกดดันพอเหมาะ
การค้นพบ สิ่งประดิษฐ์ และภารกิจยากเย็นหลายเรื่องของมนุษยชาติล้วนเคยเป็นสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้มาก่อนทั้งสิ้น การที่มนุษย์วิ่งนำหน้าสัตว์โลกชนิดอื่น ทั้งที่มีสรีระอันอ่อนแอกว่า ก็เป็นสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้แต่แรก
สมองของคนเราใหญ่กว่าของควาย ทำอะไรก็อย่าให้อายมัน
ซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูงส่งมาบวกเลขเพียงสองหลักเท่ากับดูถูกมัน
คิดในเรื่องสร้างสรรค์ เรื่องดี เรื่องมงคล ตรงกันข้าม หลายคนกลับใช้สมองไปในทางไร้สาระ หาเรื่องกลั่นแกล้งโกงคนอื่น คิดค้นวิธีฆ่าแกงกัน
สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ ลบคำว่า "เป็นไปไม่ได้" ออกจากหัวของคุณก่อน
………….
ยานอวกาศของอเมริกาโคจรรอบดวงจันทร์กลางห้วงมืด ไม่นานต่อมายานลูกก็แยกตัวออกไปจอดบนพื้นผิวโลกใหม่
มนุษย์สองคนก้าวลงมาแตะพื้นดวงจันทร์
วันนั้นคือ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 หนึ่งปีก่อนเส้นตายตามคำท้าทายของเคนเนดี้
วินทร์ เลียววาริณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น