วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา. "บิล เกตส์"ได้ทวีตข้อความยาวๆ ถึงนักศึกษา ที่เพิ่งจบใหม่มีประเด็นคมๆหลายเรื่อง แต่ที่ผมชอบที่สุด คือ .... เขาสมมุติว่าถ้าตัวเองสามารถย้อนเวลากลับเป็นนักศึกษาใหม่ สาขาวิชาอะไร ที่เขาอยากเรียนบ้าง ประเด็นนี้น่าสนใจมาก เพราะการ"ย้อนอดีต" แบบสมมุติของเขา หมายถึง"วิสัยทัศน์" ที่มองไปใน"อนาคต" ถ้าเขาไม่เชื่อว่าสาขาวิชาเหล่านี้จะมีอิทธิพลต่อโลกในอนาคต เขาคงไม่อยากเรียน สาขาวิชาแรก คือ. AI หรือ"ปัญญาประดิษฐ์" ช่วงเวลาที่เขาทวีตอยู่ในช่วงเดียวกับที่"อัลฟาโกะ" เพิ่งสร้างปรากฏการณ์เขย่าโลกด้วยการชนะ "มือหนึ่ง"ของโลกชาวจีน เป็นการยืนยันว่าแม้แต่เกมที่ซับซ้อนที่สุดในโลก "ปัญญาประดิษฐ์" ก็สามารถชนะ"คน"ได้แล้ว ยิ่งนานวัน AI ยิ่งฉลาดขึ้นเรื่อยๆ ไม่แปลกที่"บิล เกตส์" จะอยากกลับไปศึกษาในสาขาวิชานี้ ในมุมของเขา. AI จะช่วยให้มนุษย์มี Productive มากขึ้น และช่วยขยายขอบเขตความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น วิชาที่สอง คือ พลังงานสะอาด "บิล เกตส์"มีความคิดเรื่อง "ช่วยโลก" มานานแล้ว พลังงานสะอาด จะช่วยแก้ปัญหาโลกร้อนได้ ขอเพียงแค่ทำราคา ลงมาให้จับต้องได้. ซึ่งวันนี้เราเห็นแนวโน้มแล้วว่ามีความเป็นไปได้สูง แบตเตอรี่ "คุณภาพ" สูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่...."ราคา" ต่ำลง "รถไฟฟ้า" คนเชื่อแล้วว่ามาแน่ ความสำเร็จของ"เทสลา" ทำให้วงการรถยนต์สั่นสะเทือน ล่าสุด"อิรอน มัสก์" เพิ่งแถลงข่าวเรื่องกระเบื้องมุงหลังคาโซลาร์เซลล์ นอกจากเขาจะออกแบบให้สวยทัดเทียมกับกระเบื้องมุมหลังคาทั่วไป ไม่มันวาวเป็นกระจกเหมือนในอดีต ราคาที่ประกาศออกมาก็ต่ำกว่าที่มีการคาดการณ์กันไว้ แข่งขันในตลาดได้ ครับ. ใครจะไปนึกว่าผู้ผลิตกระเบื้องมุมหลังคา จะมีคู่แข่งชื่อ"อิรอน มัสก์" SCG ก็คงงงเหมือนกัน ตอนนี้แทบทุกธุรกิจต้องเจอกับคู่แข่งที่ "ข้ามสายพันธ์ุ" เป็น "คู่แข่ง"ที่นึกไม่ถึง" สาขาวิชาที่ 3 ที่ "บิล เกตส์"อยากเรียน คือ Bioscience หรือ"ชีววิทยาศาสตร์" ความรู้ในสาขาวิชานี้จะทำให้มนุษย์มีสุขภาพดีขึ้น และมีชีวิตยืนยาวขึ้น เดี๋ยวนี้เราสามารถตรวจ DNA แล้วรู้ว่าเรามีมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งที่อวัยวะส่วนไหน พอรู้ก็ดูแลอวัยวะ ส่วนนั้นให้ดีๆ ความรู้ทั้ง 3 สาขานี้ คือ สิ่งที่"บิล เกตต์"เชื่อว่าจะ"เปลี่ยนโลก" สังเกตุไหมครับว่าเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ หรือโซเชียลมีเดียอะไรเลย ทั้งที่สิ่งเหล่านี้มีบทบาทมากในการเปลี่ยนโลก เหตุผลก็คือ เพราะเรื่องพวกนี้ตัวเขารู้ดีอยู่แล้ว ไม่เหมือนกับ 3 วิชาดังกล่าวที่เขาไม่รู้ แม้ 3 สาขาวิชานี้ จะไม่ใช่เรื่องใหม่. แต่การขีดเส้นใต้ย้ำอีกครั้งโดยคนฉลาดระดับ"บิล เกตส์" ยิ่งทำให้เราต้องจับตามองเป็นพิเศษ เพราะนี่คือ"วิชา"ที่เปลี่ยนโลกในอนาคตอันใกล้นี้

เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา. "บิล เกตส์"ได้ทวีตข้อความยาวๆ ถึงนักศึกษา

ที่เพิ่งจบใหม่มีประเด็นคมๆหลายเรื่อง
แต่ที่ผมชอบที่สุด คือ ....
เขาสมมุติว่าถ้าตัวเองสามารถย้อนเวลากลับเป็นนักศึกษาใหม่

สาขาวิชาอะไร
ที่เขาอยากเรียนบ้าง
ประเด็นนี้น่าสนใจมาก

เพราะการ"ย้อนอดีต"
แบบสมมุติของเขา

หมายถึง"วิสัยทัศน์"
ที่มองไปใน"อนาคต"

ถ้าเขาไม่เชื่อว่าสาขาวิชาเหล่านี้จะมีอิทธิพลต่อโลกในอนาคต
เขาคงไม่อยากเรียน

สาขาวิชาแรก คือ. AI หรือ"ปัญญาประดิษฐ์"

ช่วงเวลาที่เขาทวีตอยู่ในช่วงเดียวกับที่"อัลฟาโกะ"

เพิ่งสร้างปรากฏการณ์เขย่าโลกด้วยการชนะ

"มือหนึ่ง"ของโลกชาวจีน

เป็นการยืนยันว่าแม้แต่เกมที่ซับซ้อนที่สุดในโลก
"ปัญญาประดิษฐ์" ก็สามารถชนะ"คน"ได้แล้ว

ยิ่งนานวัน AI
ยิ่งฉลาดขึ้นเรื่อยๆ

ไม่แปลกที่"บิล เกตส์"
จะอยากกลับไปศึกษาในสาขาวิชานี้

ในมุมของเขา. AI จะช่วยให้มนุษย์มี Productive มากขึ้น
และช่วยขยายขอบเขตความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น

วิชาที่สอง คือ
พลังงานสะอาด

"บิล เกตส์"มีความคิดเรื่อง "ช่วยโลก" มานานแล้ว
พลังงานสะอาด จะช่วยแก้ปัญหาโลกร้อนได้

ขอเพียงแค่ทำราคา
ลงมาให้จับต้องได้.

ซึ่งวันนี้เราเห็นแนวโน้มแล้วว่ามีความเป็นไปได้สูง

แบตเตอรี่
"คุณภาพ" สูงขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะที่...."ราคา" ต่ำลง

"รถไฟฟ้า"
คนเชื่อแล้วว่ามาแน่

ความสำเร็จของ"เทสลา"

ทำให้วงการรถยนต์สั่นสะเทือน

ล่าสุด"อิรอน มัสก์" เพิ่งแถลงข่าวเรื่องกระเบื้องมุงหลังคาโซลาร์เซลล์

นอกจากเขาจะออกแบบให้สวยทัดเทียมกับกระเบื้องมุมหลังคาทั่วไป
ไม่มันวาวเป็นกระจกเหมือนในอดีต

ราคาที่ประกาศออกมาก็ต่ำกว่าที่มีการคาดการณ์กันไว้

แข่งขันในตลาดได้

ครับ. ใครจะไปนึกว่าผู้ผลิตกระเบื้องมุมหลังคา จะมีคู่แข่งชื่อ"อิรอน มัสก์"

SCG ก็คงงงเหมือนกัน
ตอนนี้แทบทุกธุรกิจต้องเจอกับคู่แข่งที่

"ข้ามสายพันธ์ุ" เป็น
"คู่แข่ง"ที่นึกไม่ถึง"

สาขาวิชาที่ 3 ที่
"บิล เกตส์"อยากเรียน คือ

Bioscience หรือ"ชีววิทยาศาสตร์"

ความรู้ในสาขาวิชานี้จะทำให้มนุษย์มีสุขภาพดีขึ้น และมีชีวิตยืนยาวขึ้น
เดี๋ยวนี้เราสามารถตรวจ DNA แล้วรู้ว่าเรามีมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งที่อวัยวะส่วนไหน

พอรู้ก็ดูแลอวัยวะ
ส่วนนั้นให้ดีๆ

ความรู้ทั้ง 3 สาขานี้ คือ สิ่งที่"บิล เกตต์"เชื่อว่าจะ"เปลี่ยนโลก"

สังเกตุไหมครับว่าเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ หรือโซเชียลมีเดียอะไรเลย

ทั้งที่สิ่งเหล่านี้มีบทบาทมากในการเปลี่ยนโลก

เหตุผลก็คือ เพราะเรื่องพวกนี้ตัวเขารู้ดีอยู่แล้ว

ไม่เหมือนกับ 3 วิชาดังกล่าวที่เขาไม่รู้

แม้ 3 สาขาวิชานี้
จะไม่ใช่เรื่องใหม่.

แต่การขีดเส้นใต้ย้ำอีกครั้งโดยคนฉลาดระดับ"บิล เกตส์"

ยิ่งทำให้เราต้องจับตามองเป็นพิเศษ

เพราะนี่คือ"วิชา"ที่เปลี่ยนโลกในอนาคตอันใกล้นี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น