วันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เติมเต็มกุฎิ 《月光满堂》 ยังมีอาจารย์เซนผู้ชราภาพผู้หนึ่ง ทราบว่าเวลาดับขันธ์ของตนใกล้เข้ามาแล้ว จึงได้เรียกลูกศิษย์ที่เห็นว่าศึกษาธรรมอยู่ในขั้นสูงมา 3 คนเพื่อหาผู้รับมอบบาตรและจีวร สืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อไป เมื่อศิษย์ทั้งสามมาถึง อาจารย์เซนก็ได้มอบปริศนาธรรม โดยให้ทั้งสามนำเงินไปจำนวนเท่าๆ กัน เพื่อนำไปซื้อสิ่งใดก็ได้เพียงชนิดเดียวมาบรรจุให้เต็มกุฏิหลังนี้โดยใช้เงินน้อยที่สุด ศิษย์คนแรกออกไปไม่นาน ก็กลับมาพร้อมกับหญ้าแห้งเต็มคันรถ อาจารย์เซนเห็นดังนั้นก็ได้แต่สายหน้า ศิษย์คนที่สองกลับเข้ามาพร้อมกับประคองถ้วยใส่น้ำชาใบจ้อยเข้ามาด้วย ครู่หนึ่ง กลิ่นหอมของใบชาก็ตลบอบอวลไปทั่วกุฏิหลังน้อย อาจารย์เซนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ส่วนศิษย์คนที่สาม ซึ่งนับตั้งแต่ได้รับปริศนาธรรมและเงิน ก็มิได้ย่างกรายออกไปจากกุฏิเลย บัดนี้เขายืนขึ้นพร้อมทั้งนำเงินทั้งหมดมามอบคืนให้กับอาจารย์เซน จากนั้นเดินไปเปิดประตูกุฏิจนกว้างที่สุด มองเห็นพระจันทร์ลอยเด่นอยู่ภายนอก ดวงจันทร์สาดแสงไปทั่วบริเวณทั้งภายนอกและภายใน จนกุฏิสว่างไสวไปด้วยแสงสีเงินยวง เขายังกล่าวกับอาจารย์เซนด้วยว่า "ศิษย์ไม่ต้องใช้เงินสักสตางค์เพื่อไขปริศนาธรรม เนื่องเพราะแสงแห่งพุทธธรรมได้ส่องสว่างอยู่ในใจศิษย์แล้ว" เมื่ออาจารย์เซนได้ฟัง จึงได้ถอดจีวรไปคลุมให้กับศิษย์คนที่สาม เป็นความหมายว่าให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อไป ที่มา : หนังสือ 《禅的故事精华版》, 慕云居 เรียบเรียง, สำนักพิมพ์ 地震出版社, 2006.12, ISBN 7-5028-2995-4

เติมเต็มกุฎิ
                                                  《月光满堂》
      
       ยังมีอาจารย์เซนผู้ชราภาพผู้หนึ่ง ทราบว่าเวลาดับขันธ์ของตนใกล้เข้ามาแล้ว จึงได้เรียกลูกศิษย์ที่เห็นว่าศึกษาธรรมอยู่ในขั้นสูงมา 3 คนเพื่อหาผู้รับมอบบาตรและจีวร สืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อไป
      
       เมื่อศิษย์ทั้งสามมาถึง อาจารย์เซนก็ได้มอบปริศนาธรรม โดยให้ทั้งสามนำเงินไปจำนวนเท่าๆ กัน เพื่อนำไปซื้อสิ่งใดก็ได้เพียงชนิดเดียวมาบรรจุให้เต็มกุฏิหลังนี้โดยใช้เงินน้อยที่สุด
      
       ศิษย์คนแรกออกไปไม่นาน ก็กลับมาพร้อมกับหญ้าแห้งเต็มคันรถ อาจารย์เซนเห็นดังนั้นก็ได้แต่สายหน้า
      
       ศิษย์คนที่สองกลับเข้ามาพร้อมกับประคองถ้วยใส่น้ำชาใบจ้อยเข้ามาด้วย ครู่หนึ่ง กลิ่นหอมของใบชาก็ตลบอบอวลไปทั่วกุฏิหลังน้อย อาจารย์เซนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
      
       ส่วนศิษย์คนที่สาม ซึ่งนับตั้งแต่ได้รับปริศนาธรรมและเงิน ก็มิได้ย่างกรายออกไปจากกุฏิเลย บัดนี้เขายืนขึ้นพร้อมทั้งนำเงินทั้งหมดมามอบคืนให้กับอาจารย์เซน จากนั้นเดินไปเปิดประตูกุฏิจนกว้างที่สุด มองเห็นพระจันทร์ลอยเด่นอยู่ภายนอก ดวงจันทร์สาดแสงไปทั่วบริเวณทั้งภายนอกและภายใน จนกุฏิสว่างไสวไปด้วยแสงสีเงินยวง เขายังกล่าวกับอาจารย์เซนด้วยว่า "ศิษย์ไม่ต้องใช้เงินสักสตางค์เพื่อไขปริศนาธรรม เนื่องเพราะแสงแห่งพุทธธรรมได้ส่องสว่างอยู่ในใจศิษย์แล้ว"
      
       เมื่ออาจารย์เซนได้ฟัง จึงได้ถอดจีวรไปคลุมให้กับศิษย์คนที่สาม เป็นความหมายว่าให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อไป
       
      
       ที่มา : หนังสือ 《禅的故事精华版》, 慕云居 เรียบเรียง, สำนักพิมพ์ 地震出版社, 2006.12, ISBN 7-5028-2995-4

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น