วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560

โชคดีหรือโชคร้าย มีชายชราคนหนึ่ง เขาทำงานหนักมาตลอดทั้งชีวิต แต่เขานั้นก็ นับได้ว่าเป็นผู้ที่เพรียบพร้อม เขามีลูกชายที่ดีและแข็งแรง และมี ม้าที่ดีอยู่ 1 ตัว ม้าตัวนี้สามารถทำงานได้ทุกอย่าง ทั้งเดินทาง ขนของ แม้กระทั่งทำนา เพื่อนบ้านของเขาต่างก็ชื่นชมชายชรา ที่มีพร้อมสรรพ อยู่มาวันหนึ่ง จู่ๆม้าที่แสนจะรู้ใจ และทำงานได้สารพัดอย่างได้ เตลิดหนีไปจากคอกของชายชรา แน่นอนว่า เมื่อม้าหายไป ชาย ชราก็ไม่มีม้าเหลือเลยสักตัว เมื่อเพื่อนบ้านของเขาทราบข่าว ก็ มาหาชายชรา และกล่าวว่า "ท่านนี้ช่างโชคร้ายจริงๆ อยู่ดีๆม้าก็มาหายไปเช่นนี้" ชายชราได้ยินก็บอกว่า "ท่านรู้ได้อย่างไรว่ามันเป็นโชคร้าย" หลังจากม้าหายไป 1 สัปดาห์ ม้าของชายชราก็กลับมามันหิวโหย ไม่ถนัดอยู่ในป่า และได้พาเพื่อนม้ามาอีกถึง 12 ตัว ชายชราจึงมี ม้าเลี้ยงเพิ่มขึ้นจากตัวเดียวเป็น 13 ตัวเลยทีเดียว แน่นอนว่า พอเพื่อนบ้านทราบข่าวก็มายินดีกับชายชรา "ท่านนี้ช่างโชคดีเสียเหลือเกิน" ชายชราก็ถามเพื่อนบ้านกลับว่า "ท่านรู้ได้อย่างไรว่าโชคดี" 2 เดือนต่อมา บุตรชายคนเดียวของชายชรา กำลังจะขี่ม้าไปซื้อ ของยังเมืองข้างๆ เมื่อออกจากป่า ม้าก็สะบัดบุตรชายของเขาตก จากหลังม้า ขาหักและชายหนุ่มต้องขาพิการตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้น มา เมื่อเพื่อนบ้านทราบข่าว ต่างก็มาแสดงความเสียใจกับชายชรา เพราะเป็นบุตรชายคนเดียวและเป็นที่พึ่งของชายชรา "ท่านนี่ช่างโชคร้ายเสียจริงๆ" ชายชราก็ถามเพื่อนบ้านด้วยประโยคเดิมว่า "ท่านรู้ได้อย่างไรว่านี่คือโชคร้าย" เวลาผ่านไป 1 ปี มีประกาศเกณฑ์กำลังพลคนหนุ่มไปเป็นทหาร ไปรบกับข้าศึก ชายหนุ่มในหมู่บ้านถูกเกณฑ์ไปจนหมด เหลือ เพียงเด็กคนแก่และผู้หญิง คนหนุ่มคนเดียวที่ไม่ถูกเกณฑ์ไปรบ ก็คือ บุตรชายขาพิการของชายชรานั่นเอง ครั้งนั้นทัพจีนพ่ายแพ้ ทำให้ชายหนุ่มที่ถูกเกณฑ์ไปรบต้องเสียชีวิตทั้งหมด สร้างความ เศร้าโศกเสียใจให้กับคนในหมู่บ้านเป็นยิ่งนัก เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะเป็นโชคดีหรือเป็นโชคร้าย จริงๆ แล้วทุก อย่างเกิดจาก "ทัศนคติ ที่เรามีต่อสิ่งนั้น" ถ้าเรามองในแง่ลบ ทุกอย่างรอบตัวก็แย่ไปหมด แต่ถ้าเรามองใน แง่บวก บางครั้งในสถานการณ์ที่แย่ที่สุด อาจจะมีสิ่งดีๆซ่อนอยู่ ในนั้นก็เป็นได้ครับ ที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=567111

โชคดีหรือโชคร้าย

มีชายชราคนหนึ่ง  เขาทำงานหนักมาตลอดทั้งชีวิต  แต่เขานั้นก็
นับได้ว่าเป็นผู้ที่เพรียบพร้อม เขามีลูกชายที่ดีและแข็งแรง และมี
ม้าที่ดีอยู่ 1 ตัว   ม้าตัวนี้สามารถทำงานได้ทุกอย่าง  ทั้งเดินทาง
ขนของ แม้กระทั่งทำนา  เพื่อนบ้านของเขาต่างก็ชื่นชมชายชรา
ที่มีพร้อมสรรพ

อยู่มาวันหนึ่ง   จู่ๆม้าที่แสนจะรู้ใจ และทำงานได้สารพัดอย่างได้
เตลิดหนีไปจากคอกของชายชรา แน่นอนว่า เมื่อม้าหายไป ชาย
ชราก็ไม่มีม้าเหลือเลยสักตัว เมื่อเพื่อนบ้านของเขาทราบข่าว  ก็
มาหาชายชรา และกล่าวว่า
"ท่านนี้ช่างโชคร้ายจริงๆ อยู่ดีๆม้าก็มาหายไปเช่นนี้"
ชายชราได้ยินก็บอกว่า
"ท่านรู้ได้อย่างไรว่ามันเป็นโชคร้าย"
หลังจากม้าหายไป 1 สัปดาห์ ม้าของชายชราก็กลับมามันหิวโหย
ไม่ถนัดอยู่ในป่า และได้พาเพื่อนม้ามาอีกถึง 12 ตัว  ชายชราจึงมี
ม้าเลี้ยงเพิ่มขึ้นจากตัวเดียวเป็น 13 ตัวเลยทีเดียว

แน่นอนว่า พอเพื่อนบ้านทราบข่าวก็มายินดีกับชายชรา
"ท่านนี้ช่างโชคดีเสียเหลือเกิน"
ชายชราก็ถามเพื่อนบ้านกลับว่า
"ท่านรู้ได้อย่างไรว่าโชคดี"
2 เดือนต่อมา  บุตรชายคนเดียวของชายชรา กำลังจะขี่ม้าไปซื้อ
ของยังเมืองข้างๆ เมื่อออกจากป่า ม้าก็สะบัดบุตรชายของเขาตก
จากหลังม้า ขาหักและชายหนุ่มต้องขาพิการตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้น
มา

เมื่อเพื่อนบ้านทราบข่าว   ต่างก็มาแสดงความเสียใจกับชายชรา
เพราะเป็นบุตรชายคนเดียวและเป็นที่พึ่งของชายชรา
"ท่านนี่ช่างโชคร้ายเสียจริงๆ"
ชายชราก็ถามเพื่อนบ้านด้วยประโยคเดิมว่า
"ท่านรู้ได้อย่างไรว่านี่คือโชคร้าย"
เวลาผ่านไป 1 ปี  มีประกาศเกณฑ์กำลังพลคนหนุ่มไปเป็นทหาร
ไปรบกับข้าศึก    ชายหนุ่มในหมู่บ้านถูกเกณฑ์ไปจนหมด  เหลือ
เพียงเด็กคนแก่และผู้หญิง  คนหนุ่มคนเดียวที่ไม่ถูกเกณฑ์ไปรบ
ก็คือ บุตรชายขาพิการของชายชรานั่นเอง ครั้งนั้นทัพจีนพ่ายแพ้
ทำให้ชายหนุ่มที่ถูกเกณฑ์ไปรบต้องเสียชีวิตทั้งหมด  สร้างความ
เศร้าโศกเสียใจให้กับคนในหมู่บ้านเป็นยิ่งนัก

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะเป็นโชคดีหรือเป็นโชคร้าย  จริงๆ แล้วทุก
อย่างเกิดจาก
"ทัศนคติ ที่เรามีต่อสิ่งนั้น"
ถ้าเรามองในแง่ลบ ทุกอย่างรอบตัวก็แย่ไปหมด  แต่ถ้าเรามองใน
แง่บวก   บางครั้งในสถานการณ์ที่แย่ที่สุด อาจจะมีสิ่งดีๆซ่อนอยู่
ในนั้นก็เป็นได้ครับ

ที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=567111

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น