วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560

สมดุลแห่งการใช้ชีวิตคู่ เคยฟังเพลง"100เหตุผล" ไหมครับ??? เหตุผลของการอยู่ต่อมีแค่หนึ่งเดียว เหตุผลของการจากไปมีเป็นร้อยข้อ... หรือคิดง่ายๆ ตอนจะรักกันมีเหตุผลนิดเดียว หรือไม่มีเลย แค่ถูก ชะตาเดินชนกันแล้วหนังสือตก ช่วยเก็บแล้วสบตากันก็รักกันแล้ว แต่เวลาจะเลิกกันนี่ซิ เหตุผลถาโถมมาจากไหนก็ไม่รู้ มากมายจน ถังสังฆทานอายม้วน แถมเหตุผลที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเหตุผลได้ ก็กลับอ้างมาเป็นเหตุผล เรื่องเล็กๆ เช่น ทอดไข่เค็มเกินไป ก็ สร้างปัญหาใหญ่มานักต่อนัก ถ้าเปรียบเทียบบัญญัติไตรยางศ์ง่ายๆ 100-1 เทียบดูแค่นี้ เห็น ภาพอย่างนี้ คุณคิดว่าการครองรักครองเรือนเป็นเรื่องง่ายไหม? ผมเคยบอกหลายครั้ง เขียนอีกหลายหนว่า ต้องใช้สารพัดศาสตร์ ในการรักษาความสัมพันธ์ หลากหลายแขนงที่สุดชนิดหนึ่งของ โลก ให้อภัย เสียสละ อดทน อดกลั้น อดออม มีน้ำใจ ให้เกียรติ การเงิน การเมือง รวมทั้งที่ขาดไม่ได้ก็คือ การมุ้ง และอีกสารพัด สารพันที่ต้องขุดเอามาใช้ เพื่อเป้าหมายมีปลายทางใช้ชีวิตร่วม กัน... ในขณะที่ฝ่ายหนึ่งได้ ฝ่ายหนึ่งอาจต้องเสีย ในขณะที่ฝ่ายหนึ่งสบาย ฝ่ายหนึ่งอาจลำบาก ในขณะฝ่ายหนึ่งสนุก อีกฝ่ายอาจรอด้วยความห่วงใย หลังจากการตกลงปลงใจใช้ชีวิตคู่ ลูกตุ้มสมดุลของทุกสรรพสิ่ง บนโลก จะถูกฉีกกฎไปอย่างไม่มีชิ้นดี ลูกตุ้มสมดุลระหว่างอยู่ต่อ กับเลิกรา ไม่มีทางที่สูสีกัน... ยิ่งโลกเปิดช่องให้สื่อสารสื่อถึงกันได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว ปัญหาชีวิต คู่ถูกพาเข้าสู่กระแสรับรู้ของผู้อื่นง่ายมากขึ้น สามีเลว ภรรยาไม่ดี ถูกเปรียบเทียบกับเทพบุตร เทพธิดาบนบอร์ด หลายคู่จึงหลุดวง โคจรกลับไปพบสิ่งดีเลวตามเหตุและผลของแต่ละคน... ที่เราควรตะหนักรู้ให้มาก นั่นคือ ชีวิตคู่ไม่ได้จบลงตอนแต่งงาน หรือครองคู่เหมือนในละคร แต่มันแค่เพิ่งเริ่มต้นเหมือนเด็กทารก เพิ่งลืมตาออกมาดูโลกต่างหาก...ก้าวเดินต่อไปแห่งการรักษาสัม พันธ์ เหนื่อยหนักชนิดที่คุณต้องคาดไม่ถึง... หลายคนเข้าสู่ช่วงนี้ทั้งที่ยังขาดความพร้อม ที่อย่าว่าแต่จะเอา ชีวิตคู่ให้รอด เพราะแม้ลำพังตัวเองก็ยังเอาไม่รอด... ดังนั้นการ หงายหลังขาชี้ฟ้าจึงไม่ยากเกินการคาดเดา แล้วเราจะเตรียมตัว เช่นไร ????????? คำถามนี้ผมก็ไม่กล้าตอบเชิงรูปธรรม เพราะคำตอบจริงๆมันเป็น ได้แค่ นามธรรมที่ว่า "ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง" ไม่มีอะไรแน่แท้ แน่นอน...ต่อให้คู่ที่พร้อมที่สุด เท่าที่โลกนี้จะคัดสรรบรรจงจัดให้ เป็นคู่แท้ที่หากันจนเจอ ผมว่าก็ไม่มีใครตีตรารับประกันว่า จะไป กันรอด... ยิ่งคนใหญ่ คนโต ไฮโซ ดารา ซุปตาร์มีระดับแท้จริงก็คือคนธรรม ดาแบบพวกเรา แถมมีสิ่งเร้าล่อใจมากกว่าอีกหลายเท่า โอกาสที่ ลูกตุ้มจะไม่สมดุลยิ่งจะมีมากขึ้นเป็นเงาของความมีชื่อเสียง ต้อง เข้าใจให้ถ่องแท้ว่า การเปลี่ยนแปลงใดๆในโลกล้วนธรรมดา ยอมรับที่จะอยู่กับผลของมันด้วยสติ ไม่มีใครไม่เสียใจเพราะอกหักรักคุด แต่ถึงอย่างไรในที่สุด ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป อย่าหยุดชีวิตไปพร้อมกับความรักที่หลุดหาย เสียคนหนึ่งที่ไม่รักไป แต่ได้รับรู้ความรักที่แท้จริงของคนในครอบ ครัว คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม... ต้องลุกให้ได้ ยืนขึ้นให้ไว ชีวิตต้องก้าวไปเจอสิ่งใหม่ๆ หรือความรักครั้งใหม่... จมทุกข์กับความรักได้ แต่อย่าจมนานจนเสียโอกาสเปิดรับโอกาสดีๆ... ถ้ามีพรขอได้ ขอให้ดูแลตัวเองให้ได้ด้วยการงานการเงิน เพราะอดรักนั่นไม่ตาย แต่ถ้าอดข้าวนี่อาจตายได้จริงๆ... เมื่อดูแลตัวเองได้สบายแล้ว การมีรักจะลดเงื่อนไขลงไปมาก เมื่อนั้นโอกาสมีความสุขก็จะมากตามไปด้วย และเมื่อเราพร้อมดูแลตัวเองได้แล้ว เวลาเจอด้านลบแห่งรัก เราก็มีพื้นฐานที่ดีรองรับ รอวันที่ดอกรักดอกใหม่จะบานในใจให้หัวใจแช่มชื่น... บางคนคร่ำครวญว่า ถ้ารอแล้วไม่มีดอกรักบานล่ะ???? ตอบว่า แล้วคุณกลัวอะไรล่ะ???? สุดยอดแห่งความสุขชนิดหนึ่งของโลก คือการอยู่กับตัวเองอย่างมีสติ มีอิสรเสรีในการใช้ชีวิต มีหนังสือดีๆให้คุณได้อ่าน มีที่ท่องเที่ยวสวยงามให้คุณออกเดินทางไปค้นหา... สองสิ่งนี้จะทำให้คุณเติบโตอย่างแท้จริง เป็นการเติบโตอย่างเข้าใจโลก เข้าใจชีวิต... เมื่อนั้น ชีวิตคุณจะมีมุมมองเปลี่ยนไป ความสุขจะก่อตัวช้าๆขึ้นข้างในใจแบบมีสติ เมื่อมีสติ ย่อมมีปัญญา จนเห็นว่า ความว้าเหว่ที่คุณกลัวนั้น ไม่มีอยู่จริง เรื่องจริงก็คือ หัวใจจะกลับ อิ่มเอมด้วยความสุข ที่พร้อมมอบให้กับตัวเอง และยังมีเหลือแบ่งปันเป็นกำลังใจ สู่คนรอบข้างได้อย่างสวยงามอีกด้วย แบบนี้ต่างหาก คือ สิ่งที่เราควรมี หากเราถูกกำหนดให้ต้องยืนตรงข้ามกับความรัก... โชคดีอย่างมีสติครับ Cr:นกรู้ จู้ฮุกกรู ภาพ : http://www.rodalesorganiclife.com/

สมดุลแห่งการใช้ชีวิตคู่

เคยฟังเพลง"100เหตุผล" ไหมครับ???
เหตุผลของการอยู่ต่อมีแค่หนึ่งเดียว
เหตุผลของการจากไปมีเป็นร้อยข้อ...

หรือคิดง่ายๆ ตอนจะรักกันมีเหตุผลนิดเดียว หรือไม่มีเลย   แค่ถูก
ชะตาเดินชนกันแล้วหนังสือตก ช่วยเก็บแล้วสบตากันก็รักกันแล้ว

แต่เวลาจะเลิกกันนี่ซิ เหตุผลถาโถมมาจากไหนก็ไม่รู้ มากมายจน
ถังสังฆทานอายม้วน  แถมเหตุผลที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเหตุผลได้
ก็กลับอ้างมาเป็นเหตุผล เรื่องเล็กๆ  เช่น  ทอดไข่เค็มเกินไป   ก็
สร้างปัญหาใหญ่มานักต่อนัก

ถ้าเปรียบเทียบบัญญัติไตรยางศ์ง่ายๆ 100-1  เทียบดูแค่นี้   เห็น
ภาพอย่างนี้ คุณคิดว่าการครองรักครองเรือนเป็นเรื่องง่ายไหม?

ผมเคยบอกหลายครั้ง เขียนอีกหลายหนว่า ต้องใช้สารพัดศาสตร์
ในการรักษาความสัมพันธ์   หลากหลายแขนงที่สุดชนิดหนึ่งของ
โลก  ให้อภัย เสียสละ อดทน อดกลั้น อดออม  มีน้ำใจ  ให้เกียรติ
การเงิน  การเมือง รวมทั้งที่ขาดไม่ได้ก็คือ การมุ้ง  และอีกสารพัด
สารพันที่ต้องขุดเอามาใช้   เพื่อเป้าหมายมีปลายทางใช้ชีวิตร่วม
กัน...

ในขณะที่ฝ่ายหนึ่งได้ ฝ่ายหนึ่งอาจต้องเสีย
ในขณะที่ฝ่ายหนึ่งสบาย ฝ่ายหนึ่งอาจลำบาก
ในขณะฝ่ายหนึ่งสนุก อีกฝ่ายอาจรอด้วยความห่วงใย
หลังจากการตกลงปลงใจใช้ชีวิตคู่ ลูกตุ้มสมดุลของทุกสรรพสิ่ง
บนโลก จะถูกฉีกกฎไปอย่างไม่มีชิ้นดี ลูกตุ้มสมดุลระหว่างอยู่ต่อ
กับเลิกรา ไม่มีทางที่สูสีกัน...

ยิ่งโลกเปิดช่องให้สื่อสารสื่อถึงกันได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว ปัญหาชีวิต
คู่ถูกพาเข้าสู่กระแสรับรู้ของผู้อื่นง่ายมากขึ้น สามีเลว ภรรยาไม่ดี
ถูกเปรียบเทียบกับเทพบุตร เทพธิดาบนบอร์ด หลายคู่จึงหลุดวง
โคจรกลับไปพบสิ่งดีเลวตามเหตุและผลของแต่ละคน...

ที่เราควรตะหนักรู้ให้มาก นั่นคือ   ชีวิตคู่ไม่ได้จบลงตอนแต่งงาน
หรือครองคู่เหมือนในละคร  แต่มันแค่เพิ่งเริ่มต้นเหมือนเด็กทารก
เพิ่งลืมตาออกมาดูโลกต่างหาก...ก้าวเดินต่อไปแห่งการรักษาสัม
พันธ์ เหนื่อยหนักชนิดที่คุณต้องคาดไม่ถึง...

หลายคนเข้าสู่ช่วงนี้ทั้งที่ยังขาดความพร้อม    ที่อย่าว่าแต่จะเอา
ชีวิตคู่ให้รอด   เพราะแม้ลำพังตัวเองก็ยังเอาไม่รอด...  ดังนั้นการ
หงายหลังขาชี้ฟ้าจึงไม่ยากเกินการคาดเดา  แล้วเราจะเตรียมตัว
เช่นไร ?????????

คำถามนี้ผมก็ไม่กล้าตอบเชิงรูปธรรม   เพราะคำตอบจริงๆมันเป็น
ได้แค่ นามธรรมที่ว่า  "ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง"   ไม่มีอะไรแน่แท้
แน่นอน...ต่อให้คู่ที่พร้อมที่สุด เท่าที่โลกนี้จะคัดสรรบรรจงจัดให้
เป็นคู่แท้ที่หากันจนเจอ  ผมว่าก็ไม่มีใครตีตรารับประกันว่า จะไป
กันรอด...

ยิ่งคนใหญ่ คนโต ไฮโซ ดารา ซุปตาร์มีระดับแท้จริงก็คือคนธรรม
ดาแบบพวกเรา  แถมมีสิ่งเร้าล่อใจมากกว่าอีกหลายเท่า โอกาสที่
ลูกตุ้มจะไม่สมดุลยิ่งจะมีมากขึ้นเป็นเงาของความมีชื่อเสียง  ต้อง
เข้าใจให้ถ่องแท้ว่า  การเปลี่ยนแปลงใดๆในโลกล้วนธรรมดา

ยอมรับที่จะอยู่กับผลของมันด้วยสติ
ไม่มีใครไม่เสียใจเพราะอกหักรักคุด
แต่ถึงอย่างไรในที่สุด ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป
อย่าหยุดชีวิตไปพร้อมกับความรักที่หลุดหาย
เสียคนหนึ่งที่ไม่รักไป แต่ได้รับรู้ความรักที่แท้จริงของคนในครอบ
ครัว คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม...
ต้องลุกให้ได้ ยืนขึ้นให้ไว
ชีวิตต้องก้าวไปเจอสิ่งใหม่ๆ หรือความรักครั้งใหม่...
จมทุกข์กับความรักได้
แต่อย่าจมนานจนเสียโอกาสเปิดรับโอกาสดีๆ...

ถ้ามีพรขอได้ ขอให้ดูแลตัวเองให้ได้ด้วยการงานการเงิน
เพราะอดรักนั่นไม่ตาย  แต่ถ้าอดข้าวนี่อาจตายได้จริงๆ...
เมื่อดูแลตัวเองได้สบายแล้ว การมีรักจะลดเงื่อนไขลงไปมาก
เมื่อนั้นโอกาสมีความสุขก็จะมากตามไปด้วย
และเมื่อเราพร้อมดูแลตัวเองได้แล้ว เวลาเจอด้านลบแห่งรัก
เราก็มีพื้นฐานที่ดีรองรับ
รอวันที่ดอกรักดอกใหม่จะบานในใจให้หัวใจแช่มชื่น...

บางคนคร่ำครวญว่า ถ้ารอแล้วไม่มีดอกรักบานล่ะ????
ตอบว่า แล้วคุณกลัวอะไรล่ะ????
สุดยอดแห่งความสุขชนิดหนึ่งของโลก
คือการอยู่กับตัวเองอย่างมีสติ มีอิสรเสรีในการใช้ชีวิต
มีหนังสือดีๆให้คุณได้อ่าน
มีที่ท่องเที่ยวสวยงามให้คุณออกเดินทางไปค้นหา...
สองสิ่งนี้จะทำให้คุณเติบโตอย่างแท้จริง
เป็นการเติบโตอย่างเข้าใจโลก เข้าใจชีวิต...

เมื่อนั้น ชีวิตคุณจะมีมุมมองเปลี่ยนไป
ความสุขจะก่อตัวช้าๆขึ้นข้างในใจแบบมีสติ
เมื่อมีสติ ย่อมมีปัญญา จนเห็นว่า
ความว้าเหว่ที่คุณกลัวนั้น ไม่มีอยู่จริง
เรื่องจริงก็คือ หัวใจจะกลับ อิ่มเอมด้วยความสุข
ที่พร้อมมอบให้กับตัวเอง และยังมีเหลือแบ่งปันเป็นกำลังใจ
สู่คนรอบข้างได้อย่างสวยงามอีกด้วย
แบบนี้ต่างหาก คือ สิ่งที่เราควรมี
หากเราถูกกำหนดให้ต้องยืนตรงข้ามกับความรัก...

โชคดีอย่างมีสติครับ
Cr:นกรู้ จู้ฮุกกรู
ภาพ : http://www.rodalesorganiclife.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น