วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560

ถนนสายนี้... กลับบ้าน นานมาแล้ว ผมได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับพ่อลูกเรื่องหนึ่งที่ผมประทับใจ ผมจำรายละเอียดได้ไม่ชัดเจนนัก เพราะมันนานจนผมออกจะเลือนๆไปบ้างแล้ว ผมจะขอเล่าในแบบของผม เท่าที่ผมพอจำได้นะครับ เด็กหนุ่มคนหนึ่งมีเรื่องบาดหมางใจกับพ่อ ทั้งสองคนจะมีความเห็นไม่ลงรอยกัน และมักจะมีปากเสียงกันกันอยู่เสมอ เพราะผู้เป็นพ่อจะคอยห้ามปราม ไม่ให้เขาคบหากับเพื่อนเกเรบางคน แล้ววันหนึ่งเขากับพ่อก็มีปากเสียงกันอีก คราวนี้รุนแรงกว่าทุกครั้ง เขาจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้าน โดยสัญญากับตัวเองว่า หากไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต เขาก็จะไม่กลับมาบ้านหลังนี้อีก เขาอยากพิสูจน์ตัวเองให้พ่อเห็นและยอมรับในตัวเขาเสียที วันที่เขานั่งรถเพื่อออกจากหมู่บ้าน เขาเหลียวหลังกลับไปมองบ้านของตนเอง เขารู้สึกเหมือนว่าเห็นสายตาของพ่อ กำลังมองมาที่เขาจากสักมุมหนึ่งของบ้าน วูบหนึ่งของความคิดเขารู้สึกผิดที่ทำเช่นนี้ เพราะบ้านของเขาอยู่ในชนบท ห่างไกลจากผู้คน หากบ้านขาดเขาสักคนอาจจะทำให้ยุ่งยากลำบากได้ แต่ความถือดีก็เอาชนะความลังเลของเขาไป เขามุ่งหน้าเข้าเมืองเพื่อหางานทำ แต่ชีวิตไม่ง่าย เขาเปลี่ยนงานไปเรื่อยๆ รับจ้างทำงานสารพัด ใช้ชีวิตตามลำพัง เพื่อนที่เคยคบหากันจนเป็นเหตุให้บาดหมางกับพ่อ ก็ติดคุกไปแล้วจากความเกเร เวลาค่อยๆเคลื่อนผ่านไป เขายังคงพเนจรไปเรื่อยๆ ไม่เคยอยู่ที่ไหนนาน เขาเดินทางไกลขึ้น และห่างจากบ้านไปทุกทีๆ จนคิดว่าชาตินี้เขาคงไม่ได้หวนกลับบ้านอีกแล้ว หลายปีผ่านไป เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น หลายครั้งที่ความรู้สึกโหยหาบ้าน กระตุ้นให้เขาอยากกลับมา แต่เขาก็ไม่เคยกล้าพอ เขายังไม่ประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง แบบที่สัญญาไว้กับตัวเอง และเขาไม่รู้ว่าหากเขากลับมา จะมีใครต้อนรับเขาไหม โดยเฉพาะพ่อ และแล้วการตัดสินใจครั้งสำคัญก็เกิดขึ้น เขาได้งานที่จะต้องเดินทางไกลมากกว่าทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นเส้นทางที่เขาจะต้องผ่านไปยังหมู่บ้านของเขา หลายครั้งแล้วที่เขาปฏิเสธงานที่จะต้องเดินทางผ่านบ้าน แต่ครั้งนี้เขาตัดสินใจแล้ว.... เขาจึงเขียนจดหมายถึงพ่อของเขา เพื่อจะบอกว่า อีก 2 วัน เขาจะต้องผ่านถนนหน้าบ้านในตอนกลางคืน เขาไม่รู้ว่าพ่อจะยังรู้สึกแย่กับเขาอยู่ไหม หากพ่อจะให้อภัยเขา ก็ขอให้พ่อเปิดไฟในห้องนอนเดิมของเขาไว้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ แล้วเขาก็จะแวะบ้านสักหน่อย แต่ถ้าพ่อยังโกรธไม่มีแสงไฟ เขาก็จะผ่านเลยไป หลังจากส่งจดหมายไปแล้ว เขาก็นับเวลารอคอยให้ถึงวันนั้น วันที่จะผ่านไปบ้าน เมื่อถึงวันเดินทาง เขารู้สึกตื่นเต้น และหวั่นไหวเป็นอย่างยิ่ง เขากลัวเหลือเกินว่าไฟในบ้านจะมืดสนิท บนถนนสายกลับบ้าน เมื่อรถกำลังวิ่งใกล้เข้าไป ใจเขาสั่นจนต้องกำมือแน่นและหลับตาลง ด้วยความกลัว เขาคาดคะเนระยะทางเมื่อใกล้ถึงบ้าน สักพักเขาก็ได้ยินเสียงพึมพำในรถดังขึ้น เขาจึงรีบเปิดตาขึ้น ภาพที่เห็นคือบ้านของเขาหลังเดิม มีไฟเปิดสว่างไสวไปทั้งบ้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งที่รั้วบ้าน และเขายังเห็นพ่อของเขา แม่และน้องสาวยืนโบกมืออยู่ที่หน้าบ้านเพื่อรอรับเขา.!! Cr. Steel Rose.com

ถนนสายนี้... กลับบ้าน

นานมาแล้ว ผมได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับพ่อลูกเรื่องหนึ่งที่ผมประทับใจ ผมจำรายละเอียดได้ไม่ชัดเจนนัก เพราะมันนานจนผมออกจะเลือนๆไปบ้างแล้ว

ผมจะขอเล่าในแบบของผม เท่าที่ผมพอจำได้นะครับ

เด็กหนุ่มคนหนึ่งมีเรื่องบาดหมางใจกับพ่อ ทั้งสองคนจะมีความเห็นไม่ลงรอยกัน และมักจะมีปากเสียงกันกันอยู่เสมอ เพราะผู้เป็นพ่อจะคอยห้ามปราม ไม่ให้เขาคบหากับเพื่อนเกเรบางคน

แล้ววันหนึ่งเขากับพ่อก็มีปากเสียงกันอีก คราวนี้รุนแรงกว่าทุกครั้ง เขาจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้าน โดยสัญญากับตัวเองว่า หากไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต เขาก็จะไม่กลับมาบ้านหลังนี้อีก เขาอยากพิสูจน์ตัวเองให้พ่อเห็นและยอมรับในตัวเขาเสียที

วันที่เขานั่งรถเพื่อออกจากหมู่บ้าน เขาเหลียวหลังกลับไปมองบ้านของตนเอง เขารู้สึกเหมือนว่าเห็นสายตาของพ่อ กำลังมองมาที่เขาจากสักมุมหนึ่งของบ้าน วูบหนึ่งของความคิดเขารู้สึกผิดที่ทำเช่นนี้ เพราะบ้านของเขาอยู่ในชนบท ห่างไกลจากผู้คน หากบ้านขาดเขาสักคนอาจจะทำให้ยุ่งยากลำบากได้ แต่ความถือดีก็เอาชนะความลังเลของเขาไป

เขามุ่งหน้าเข้าเมืองเพื่อหางานทำ แต่ชีวิตไม่ง่าย เขาเปลี่ยนงานไปเรื่อยๆ รับจ้างทำงานสารพัด ใช้ชีวิตตามลำพัง เพื่อนที่เคยคบหากันจนเป็นเหตุให้บาดหมางกับพ่อ ก็ติดคุกไปแล้วจากความเกเร

เวลาค่อยๆเคลื่อนผ่านไป เขายังคงพเนจรไปเรื่อยๆ ไม่เคยอยู่ที่ไหนนาน เขาเดินทางไกลขึ้น และห่างจากบ้านไปทุกทีๆ จนคิดว่าชาตินี้เขาคงไม่ได้หวนกลับบ้านอีกแล้ว

หลายปีผ่านไป เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น หลายครั้งที่ความรู้สึกโหยหาบ้าน กระตุ้นให้เขาอยากกลับมา แต่เขาก็ไม่เคยกล้าพอ เขายังไม่ประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง แบบที่สัญญาไว้กับตัวเอง และเขาไม่รู้ว่าหากเขากลับมา จะมีใครต้อนรับเขาไหม โดยเฉพาะพ่อ

และแล้วการตัดสินใจครั้งสำคัญก็เกิดขึ้น เขาได้งานที่จะต้องเดินทางไกลมากกว่าทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นเส้นทางที่เขาจะต้องผ่านไปยังหมู่บ้านของเขา หลายครั้งแล้วที่เขาปฏิเสธงานที่จะต้องเดินทางผ่านบ้าน
แต่ครั้งนี้เขาตัดสินใจแล้ว....

เขาจึงเขียนจดหมายถึงพ่อของเขา เพื่อจะบอกว่า อีก 2 วัน เขาจะต้องผ่านถนนหน้าบ้านในตอนกลางคืน เขาไม่รู้ว่าพ่อจะยังรู้สึกแย่กับเขาอยู่ไหม หากพ่อจะให้อภัยเขา ก็ขอให้พ่อเปิดไฟในห้องนอนเดิมของเขาไว้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ แล้วเขาก็จะแวะบ้านสักหน่อย แต่ถ้าพ่อยังโกรธไม่มีแสงไฟ เขาก็จะผ่านเลยไป

หลังจากส่งจดหมายไปแล้ว เขาก็นับเวลารอคอยให้ถึงวันนั้น วันที่จะผ่านไปบ้าน

เมื่อถึงวันเดินทาง เขารู้สึกตื่นเต้น และหวั่นไหวเป็นอย่างยิ่ง เขากลัวเหลือเกินว่าไฟในบ้านจะมืดสนิท

บนถนนสายกลับบ้าน เมื่อรถกำลังวิ่งใกล้เข้าไป ใจเขาสั่นจนต้องกำมือแน่นและหลับตาลง ด้วยความกลัว เขาคาดคะเนระยะทางเมื่อใกล้ถึงบ้าน สักพักเขาก็ได้ยินเสียงพึมพำในรถดังขึ้น เขาจึงรีบเปิดตาขึ้น ภาพที่เห็นคือบ้านของเขาหลังเดิม มีไฟเปิดสว่างไสวไปทั้งบ้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งที่รั้วบ้าน และเขายังเห็นพ่อของเขา แม่และน้องสาวยืนโบกมืออยู่ที่หน้าบ้านเพื่อรอรับเขา.!!

Cr. Steel Rose.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น