วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560

“หมู่บ้านยิ้มแย้ม” ณ หมู่บ้านยิ้มแย้ม ทุกชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ไม่มีโจร ไม่มี ผู้ร้าย ทุกคนในหมู่บ้านรักใคร่ปรองดองกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัย มีแต่ รอยยิ้มให้แก่กันและกันตลอดมา จนหมู่บ้านนี้ เป็นที่กล่าวขาน เลื่องลือไปทั่ว ว่าเป็นหมู่บ้านยิ้มแย้มที่มี่แต่ความสุข อยู่มาวันหนึ่ง หัวหน้าหมู่บ้านหวาดระแวงก็ได้ข่าวความน่าอภิรมย์ ของหมู่บ้านยิ้มแย้ม และต้องการที่จะแผ่ขยายอาณานิคมของตน เข้าไปยังหมู่บ้านยิ้มแย้ม ดังนั้นหัวหน้าหมู่บ้านหวาดระแวงจึงส่ง สายลับชื่อ ยุยงเข้าไปสอดแนมว่าทำไมคนในหมู่บ้านย้มแย้มจึงมี แต่รอยยิ้มให้แก่กันและกัน และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมาโดย ตลอด หลังจากที่ สายลับยุยงเข้าไปสอดแนมในหมู่บ้านยิ้มแย้มได้ไม่ นาน ก็สังเกตเห็นว่า ผู้คนในหมู่บ้ายยิ้มแย้มนั้น เมื่อเจอะเจอกัน นอกเหนือจากการยิ้มแย้มทักทายกันและกันแล้ว ก็จะมีการมอบตัว ยิ้มแย้มให้แก่กันเสมอ วันหนึ่งสายลับยุยงซึ่งแฝงตัวอยู่ข้างมุมตึก สังเกตเห็น ชายวัย กลางคนชายหมู่บ้านยิ้มแย้มคนหนึ่ง กำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าตึก ขณะนั้นเองก็มีชายหนุ่มชาวหมู่บ้านยิ้มแย้มเดินผ่านมา ทั้งคู่ทัก ทายและยิ้มแย้มให้แก่กัน และไม่ลืมที่จะมอบตัวยิ้มแย้มให้แก่กัน และกันก่อนกล่าวคำอำลา หลังจากที่ชายหนุ่มชาวหมู่บ้านยิ้มแย้ม เดินผ่านชายวัยกลางคน มาได้ไม่นาน สายลับยุยงก็เดินออกจากข้างมุมตึกเข้าประกบชาย หนุ่ม "ท่านรู้จักชายวัยกลางคนผู้นั้นหรือ" สายลับยุยงเปิดการสนทนา "ไม่หรอกจ๊ะ เราไม่รู้จักกัน แต่ที่หมู่บ้านยิ้มแย้มนี้ทุกคนคือเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เราปฏิบัติตัวต่อกันอย่างนี้ มาตั้งนมนาน แล้วหละจ๊ะ" ชายหนุ่มตอบพร้อมกับยิ้มให้อย่างเป็นมิตร จากนั้นก็ส่งตัวยิ้มแย้ม ให้กับสายลับยุยงตามประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมาในหมู่บ้านยิ้มแย้ม "เอ...นี่อะไร" สายลับยุยงแกล้งถาม "ตัวยิ้มแย้มไงจ๊ะ ตัวยิ้มแย้มคือตัวแทนของความดีและมิตรภาพ ฉันให้น้าจ๊ะ ตัวยิ้มแย้มนี้จะทำให้น้ามีแต่ความสุขและชีวิตก็จะเต็ม ไปด้วยความสดชื่น น้ารับเอาไว้ซิจ๊ะ" เมื่อได้ฟังดังนั้น สายลับยุยงก็เริ่มแผนการยุยงของตนทันทีด้วย คำพูดที่ว่า "ถ้าตัวยิ้มแย้มสรรพคุณเลอเลิศอย่างที่เจ้าว่าจริง ๆ แล้วเจ้าไม่ กลัวหรอกหรือว่า การที่เจ้าแจกตัวยิ้มแย้มให้กับทุกคนที่เจ้าเจอะ เจอ จะทำให้ตัวยิ้มแย้มของเจ้าหมดไป แล้วเมื่อนั้นความสุขความ สดชื่นก็จะหายไปจากตัวเจ้า โอ้...ช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวจริงๆ ข้า เห็นใจเจ้าเหลือเกินพ่อหนุ่ม" เมื่อชายหนุ่มชาวหมู่บ้านยิ้มแย้มได้ฟังดังนั้น ก็เริ่มคิดตามและสี หน้าที่เคยยิ้มแย้มก็กลับหม่นหมองลง เปลี่ยนจากความยิ้มแย้ม เป็นความวิตกกังวลและเดินจากไปโดยไม่ร่ำลา ระหว่างทางขณะ ที่ชายหน่มมุ่งหน้ากลับบ้าน ก็ได้พบกับหญิงสาวของหมู่บ้านยิ้ม แย้ม หญิงสาวหยุดทักทายและส่งยิ้มให้ตามปรกติ แต่ชายหนุ่ม กลับไม่ยิ้มตอบและเมื่อหญิงสาวส่งตัวยิ้มแย้มให้ ชายหนุ่มก็รับไว้ แล้วพูดว่า "ขอบใจ แต่ฉันไม่มีตัวยิ้มแย้มให้กับเธอหรอกนะ เพราะถ้าฉันให้ ตัวยิ้มแย้มกับเธอ สักวันหนึ่งตัวยิ้มแย้มก็จะหมดไปจากตัวฉันและ เมื่อนั้นชีวิตของฉันก็จะไม่มีความสุข และความสดชื่นในชีวิตก็จะ มลายหายไปด้วย..." หญิงสาวได้ฟังก็เริ่มได้คิด แล้วทั้งคู่ก็จากกันไป ข่าวเรื่องการให้ ตัวยิ้มแย้มแก่กันแล้วจะทำให้ตัวยิ้มแย้มที่มีร่อยหรอ ทำให้ความ สุขและความสดชื่นในชีวิตหายไป แพร่กระจายไปในหมู่บ้านยิ้ม แย้มอย่างรวดเร็ว แล้วนับแต่นั้นมา ชาวหมู่บ้านยิ้มแย้มก็มีพฤติ กรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีรอยยิ้มให้แก่กัน ไม่ ทักทายกันเหมือนเช่นเดิม เพราะไม่ต้องการเสียตัวยิ้มแย้มให้แก่ กัน และเมื่อต้องทักทายกัน ก็ไม่มีการแจกตัวยิ้มแย้มให้แก่กันอีก ต่อไป เพราะกลัวว่าความสุขและความสดชื่นจะหายไปจากตัวเอง ชายหมู่บ้านยิ้มแย้มบางคนถึงกับทำตัวยิ้มแย้มปลอมออกจำหน่าย แต่ก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ในทางกลับกัน กลับทำให้เหตุการณ์ เลวรายลงจากเดิม ตัวยิ้มแย้มปลอมไม่มีสรรพคุณเหมือนกับตัว ยิ้มแย้มจริง และยังทำให้ผู้ที่ได้รับตัวยิ้มแย้มปลอมไป เสียความรู้ สึกเกิดเป็นความไม่ไว้ใจกันและกัน ไม่เชื่อกันเหมือนดังแต่ก่อน บัดนี้หมู่บ้านยิ้มแย้มไม่หลงเหลืออีกต่อไปแล้ว ความสุข ความสด ชื่นในชีวิตก็เหือดแห้งไปด้วย ช่างเสียดายเสียเหลือเกิน.... บัดนี้ หมู่บ้านยิ้มแย้มได้เปลี่ยนชื่อจากหมู่บ้านยิ้มแย้มเป็นหมู่บ้านหวาด ระแวงไปเสียแล้ว! อ่านนิทานเรื่องนี้จบแล้วท่านมีความคิดเห็นอย่างไรครับ “หมู่บ้านยิ้มแย้ม” นั้นเปรียบเสมือนสังคมเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นครอบ ครัว, กลุ่มเพื่อนหรือ ชุมชน “ตัวยิ้มแย้ม” คือตัวแทนของความจริงใจ, ความดีและมิตรภาพซึ่ง ทำให้ทั้งผู้ให้และผู้รับมีแต่ความสุขและชีวิตก็จะเต็มไปด้วยความ สดชื่น ทีสำคัญคือตัวยิ้มแย้มนี้จริงๆ แล้วไม่มีวันหมด “สายลับยุยง” คือความหวาดระแวง บ่อเกิดของความไม่ไว้ใจกัน และกัน ไม่เชื่อกัน และหมายรวมถึงบุคคลที่ชอบทำให้คนเราขาด ความเชื่อใจกัน “ตัวยิ้มแย้มปลอม” คือตัวแทนของ การหลอกลวง, การเห็นแก่ได้ และการเอาเปรียบกัน ผมไม่ขอตีความนิทานเรื่องนี้ แต่อยากจะให้ท่านผู้อ่านค่อยๆค้น หาความหมายของนิทานเรื่องนี้กันเอง เพราะหากท่านเข้าใจมัน อย่างถ่องแท้แล้วท่านทั้งหลายก็จะรักษาความเป็นหมู่บ้านยิ้มแย้ม ของสังคมหน่วยเล็กๆของท่านไว้ ได้อย่างมีความสุข ที่มา : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=deeplove&month 14-04-2008&group=8&gblog=1

“หมู่บ้านยิ้มแย้ม”

ณ หมู่บ้านยิ้มแย้ม ทุกชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ไม่มีโจร ไม่มี
ผู้ร้าย ทุกคนในหมู่บ้านรักใคร่ปรองดองกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัย  มีแต่
รอยยิ้มให้แก่กันและกันตลอดมา    จนหมู่บ้านนี้   เป็นที่กล่าวขาน
เลื่องลือไปทั่ว ว่าเป็นหมู่บ้านยิ้มแย้มที่มี่แต่ความสุข

อยู่มาวันหนึ่ง หัวหน้าหมู่บ้านหวาดระแวงก็ได้ข่าวความน่าอภิรมย์
ของหมู่บ้านยิ้มแย้ม   และต้องการที่จะแผ่ขยายอาณานิคมของตน
เข้าไปยังหมู่บ้านยิ้มแย้ม   ดังนั้นหัวหน้าหมู่บ้านหวาดระแวงจึงส่ง
สายลับชื่อ ยุยงเข้าไปสอดแนมว่าทำไมคนในหมู่บ้านย้มแย้มจึงมี
แต่รอยยิ้มให้แก่กันและกัน   และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมาโดย
ตลอด

หลังจากที่     สายลับยุยงเข้าไปสอดแนมในหมู่บ้านยิ้มแย้มได้ไม่
นาน ก็สังเกตเห็นว่า  ผู้คนในหมู่บ้ายยิ้มแย้มนั้น   เมื่อเจอะเจอกัน
นอกเหนือจากการยิ้มแย้มทักทายกันและกันแล้ว ก็จะมีการมอบตัว
ยิ้มแย้มให้แก่กันเสมอ

วันหนึ่งสายลับยุยงซึ่งแฝงตัวอยู่ข้างมุมตึก   สังเกตเห็น   ชายวัย
กลางคนชายหมู่บ้านยิ้มแย้มคนหนึ่ง    กำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าตึก
ขณะนั้นเองก็มีชายหนุ่มชาวหมู่บ้านยิ้มแย้มเดินผ่านมา    ทั้งคู่ทัก
ทายและยิ้มแย้มให้แก่กัน    และไม่ลืมที่จะมอบตัวยิ้มแย้มให้แก่กัน
และกันก่อนกล่าวคำอำลา

หลังจากที่ชายหนุ่มชาวหมู่บ้านยิ้มแย้ม  เดินผ่านชายวัยกลางคน
มาได้ไม่นาน สายลับยุยงก็เดินออกจากข้างมุมตึกเข้าประกบชาย
หนุ่ม

"ท่านรู้จักชายวัยกลางคนผู้นั้นหรือ"
สายลับยุยงเปิดการสนทนา
"ไม่หรอกจ๊ะ  เราไม่รู้จักกัน   แต่ที่หมู่บ้านยิ้มแย้มนี้ทุกคนคือเพื่อน
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม    เราปฏิบัติตัวต่อกันอย่างนี้  มาตั้งนมนาน
แล้วหละจ๊ะ"
ชายหนุ่มตอบพร้อมกับยิ้มให้อย่างเป็นมิตร จากนั้นก็ส่งตัวยิ้มแย้ม
ให้กับสายลับยุยงตามประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมาในหมู่บ้านยิ้มแย้ม

"เอ...นี่อะไร"
สายลับยุยงแกล้งถาม
"ตัวยิ้มแย้มไงจ๊ะ    ตัวยิ้มแย้มคือตัวแทนของความดีและมิตรภาพ
ฉันให้น้าจ๊ะ ตัวยิ้มแย้มนี้จะทำให้น้ามีแต่ความสุขและชีวิตก็จะเต็ม
ไปด้วยความสดชื่น น้ารับเอาไว้ซิจ๊ะ"

เมื่อได้ฟังดังนั้น   สายลับยุยงก็เริ่มแผนการยุยงของตนทันทีด้วย
คำพูดที่ว่า
"ถ้าตัวยิ้มแย้มสรรพคุณเลอเลิศอย่างที่เจ้าว่าจริง ๆ     แล้วเจ้าไม่
กลัวหรอกหรือว่า   การที่เจ้าแจกตัวยิ้มแย้มให้กับทุกคนที่เจ้าเจอะ
เจอ จะทำให้ตัวยิ้มแย้มของเจ้าหมดไป แล้วเมื่อนั้นความสุขความ
สดชื่นก็จะหายไปจากตัวเจ้า โอ้...ช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวจริงๆ ข้า
เห็นใจเจ้าเหลือเกินพ่อหนุ่ม"

เมื่อชายหนุ่มชาวหมู่บ้านยิ้มแย้มได้ฟังดังนั้น   ก็เริ่มคิดตามและสี
หน้าที่เคยยิ้มแย้มก็กลับหม่นหมองลง    เปลี่ยนจากความยิ้มแย้ม
เป็นความวิตกกังวลและเดินจากไปโดยไม่ร่ำลา ระหว่างทางขณะ
ที่ชายหน่มมุ่งหน้ากลับบ้าน   ก็ได้พบกับหญิงสาวของหมู่บ้านยิ้ม
แย้ม  หญิงสาวหยุดทักทายและส่งยิ้มให้ตามปรกติ   แต่ชายหนุ่ม
กลับไม่ยิ้มตอบและเมื่อหญิงสาวส่งตัวยิ้มแย้มให้ ชายหนุ่มก็รับไว้
แล้วพูดว่า

"ขอบใจ  แต่ฉันไม่มีตัวยิ้มแย้มให้กับเธอหรอกนะ  เพราะถ้าฉันให้
ตัวยิ้มแย้มกับเธอ สักวันหนึ่งตัวยิ้มแย้มก็จะหมดไปจากตัวฉันและ
เมื่อนั้นชีวิตของฉันก็จะไม่มีความสุข และความสดชื่นในชีวิตก็จะ
มลายหายไปด้วย..."

หญิงสาวได้ฟังก็เริ่มได้คิด  แล้วทั้งคู่ก็จากกันไป ข่าวเรื่องการให้
ตัวยิ้มแย้มแก่กันแล้วจะทำให้ตัวยิ้มแย้มที่มีร่อยหรอ    ทำให้ความ
สุขและความสดชื่นในชีวิตหายไป   แพร่กระจายไปในหมู่บ้านยิ้ม
แย้มอย่างรวดเร็ว   แล้วนับแต่นั้นมา   ชาวหมู่บ้านยิ้มแย้มก็มีพฤติ
กรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด  ไม่มีรอยยิ้มให้แก่กัน   ไม่
ทักทายกันเหมือนเช่นเดิม   เพราะไม่ต้องการเสียตัวยิ้มแย้มให้แก่
กัน   และเมื่อต้องทักทายกัน ก็ไม่มีการแจกตัวยิ้มแย้มให้แก่กันอีก
ต่อไป เพราะกลัวว่าความสุขและความสดชื่นจะหายไปจากตัวเอง

ชายหมู่บ้านยิ้มแย้มบางคนถึงกับทำตัวยิ้มแย้มปลอมออกจำหน่าย
แต่ก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น   ในทางกลับกัน  กลับทำให้เหตุการณ์
เลวรายลงจากเดิม     ตัวยิ้มแย้มปลอมไม่มีสรรพคุณเหมือนกับตัว
ยิ้มแย้มจริง  และยังทำให้ผู้ที่ได้รับตัวยิ้มแย้มปลอมไป เสียความรู้
สึกเกิดเป็นความไม่ไว้ใจกันและกัน  ไม่เชื่อกันเหมือนดังแต่ก่อน

บัดนี้หมู่บ้านยิ้มแย้มไม่หลงเหลืออีกต่อไปแล้ว ความสุข ความสด
ชื่นในชีวิตก็เหือดแห้งไปด้วย  ช่างเสียดายเสียเหลือเกิน.... บัดนี้
หมู่บ้านยิ้มแย้มได้เปลี่ยนชื่อจากหมู่บ้านยิ้มแย้มเป็นหมู่บ้านหวาด
ระแวงไปเสียแล้ว!

อ่านนิทานเรื่องนี้จบแล้วท่านมีความคิดเห็นอย่างไรครับ

“หมู่บ้านยิ้มแย้ม”  นั้นเปรียบเสมือนสังคมเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นครอบ
ครัว, กลุ่มเพื่อนหรือ ชุมชน

“ตัวยิ้มแย้ม” คือตัวแทนของความจริงใจ, ความดีและมิตรภาพซึ่ง
ทำให้ทั้งผู้ให้และผู้รับมีแต่ความสุขและชีวิตก็จะเต็มไปด้วยความ
สดชื่น ทีสำคัญคือตัวยิ้มแย้มนี้จริงๆ แล้วไม่มีวันหมด

“สายลับยุยง”  คือความหวาดระแวง  บ่อเกิดของความไม่ไว้ใจกัน
และกัน ไม่เชื่อกัน และหมายรวมถึงบุคคลที่ชอบทำให้คนเราขาด
ความเชื่อใจกัน

“ตัวยิ้มแย้มปลอม”  คือตัวแทนของ การหลอกลวง, การเห็นแก่ได้
และการเอาเปรียบกัน

ผมไม่ขอตีความนิทานเรื่องนี้    แต่อยากจะให้ท่านผู้อ่านค่อยๆค้น
หาความหมายของนิทานเรื่องนี้กันเอง    เพราะหากท่านเข้าใจมัน
อย่างถ่องแท้แล้วท่านทั้งหลายก็จะรักษาความเป็นหมู่บ้านยิ้มแย้ม
ของสังคมหน่วยเล็กๆของท่านไว้ ได้อย่างมีความสุข

ที่มา : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=deeplove&month
14-04-2008&group=8&gblog=1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น