วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

โลกนักวิ่งอึ้ง ! สาวเม็กซิโกใส่กระโปรง และรองเท้าแตะ ชนะวิ่งมาราธอน 29 พ.ค. 2560 (19:49 น.) สาวพื้นเมืองเม็กซิโกลงแข่งวิ่ง 50 กม. ด้วยกระโปรง และรองเท้าจากยางรถยนต์ แถมเอาชนะนักวิ่งอีก 500 คน เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วย สำหรับคนทั่วไป อาจจะต้องใช้เวลาในการฝึกซ้อมมาแรมปี และลงทุนซื้ออุปกรณ์สำหรับมืออาชีพ เพื่อลงแข่งอุลตร้ามาราธอนซึ่งมีระยะทางยาวกว่าการวิ่งมาราธอนทั่วไป แต่สำหรับ María Lorena Ramírez หญิงสาวจากเม็กซิโก ผู้ที่ไม่เคยฝึกซ้อมเพื่อลงแข่งวิ่งมาราธอนอย่างถูกต้องมาก่อนเลย และไม่มีกระทั่งชุดหรือรองเท้าสำหรับวิ่ง เธอไม่ใช่แค่เธอลงวิ่งระยะทาง 50 กิโลเมตรเท่านั้น แต่เธอยังชนะการแข่งขันครั้งนี้ด้วยกระโปรงยาวและรองเท้าแตะเก่าๆ ที่ทำจากยางรถยนต์คู่หนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าคุณภาพสูงสำหรับวิ่ง ถุงเท้า ชุดวิ่ง หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่มให้พลังงาน เหล่านี้เปรียบเสมือนสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับนักวิ่งมืออาชีพในการลงแข่งวิ่งมาราธอน แต่มันคงไม่จำเป็นสำหรับ María Lorena Ramírez วัย 22 ปี จากรัฐชีวาวา ประเทศเม็กซิโก เธอลงแข่งด้วยชุดธรรมดาเสื้อยืดกระโปรงยาวเท่าเข่าและมีเพียงน้ำดื่ม 1 ขวดกับผ้าเช็ดหน้าเท่านั้น มันทำให้เธอดูแตกต่างจากนักวิ่ง 500 คน จากกว่า 12 ประเทศทั่วโลก ที่มีการเตรียมความพร้อมสำหรับวิ่งครั้งนี้ทั้งร่างกายและอุปกรณ์ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอหวั่นใจแต่อย่างใดเลย เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าชาว Rarámuri หรือ Tarahumara ชนเผ่าพื้นเมืองของประเทศเม็กซิโกเป็นกลุ่มคนที่เรียกได้ว่าวิ่งได้เร็วมาก แต่คงไม่มีใครคิดว่าเธอจะเอาชนะในครั้งนี้ไปได้ อย่างน้อยก็เสื้อผ้าและรองเท้าที่เธอใส่มาในวันนั้นน่าจะเป็นอุปสรรค แต่หลังจากเวลาผ่านไป 7 ชั่วโมง 3 นาที สิ่งที่ทุกคนไม่คิดเอาไว้ก็เกิดขึ้น เมื่อเธอคนนี้เป็นคนแรกที่วิ่งเข้าเส้นชัยและคว้าเงินรางวัล 320 ดอลลาร์กลับบ้านไป “เธอไม่ได้มีอุปกรณ์ช่วยใดๆ ในการวิ่งครั้งนี้เลย ไม่มีเจลบรรเทาอาการปวดใดๆ ไม่มีน้ำหวานเพิ่มพลัง แว่นตากันฝุ่น หรืออุปกรณ์การวิ่งราคาแพงใดๆ เลย มีเพียงแค่ขวดน้ำดื่ม และผ้าเช็ดหน้าเท่านั้นเอง” Orlando Jiménez ผู้จัดการแข่งขันกล่าว สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือ María Lorena Ramírez ไม่เคยผ่านการฝึกซ้อมสำหรับการวิ่งมาราธอนระยะทาง 50 กิโลเมตรมาก่อนเลย มีเพียงการเดินเท้าด้วยระยะทาง 10-15 กิโลเมตรต่อวันที่เธอต้องทำในการต้อนฝูงแกะเท่านั้น นอกจากการแข่ง Cerro Rojo Ultramarathon ในรัฐปวยบลา ตอนกลางของเม็กซิโกที่จัดเมื่อ 29 เมษายน ครั้งนี้ เธอยังเคยได้ที่สองจากการแข่งวิ่ง 100 กิโลเมตร ในงาน Caballo Blanco Ultramarathon เมื่อปีที่แล้วด้วย ชาวชนเผ่า Rarámuri ถือเป็นนักวิ่งระยะไกลในตำนานเลยก็ว่าได้ ด้วยความอดทนของร่างกายที่ไม่เหมือนใคร พวกเขาบำรุงร่างกายด้วยการดื่ม pinole (หรือข้าวโพดคั่วผสมดอกไม้, น้ำ, และน้ำตาล) และ iskiate (เมล็ดเชียผสมน้ำและน้ำมะนาว) และส่วนใหญ่พวกเขาจะวิ่งด้วยเท้าเปล่า หรือไม่ก็รองเท้าแตะที่เรียกว่า huarache ซึ่งพื้นรองเท้าแต่ก่อนมักจะทำมาจากหนังแท้ แต่นักวิ่งส่วนใหญ่จะนิยมทำมาจากยางรถยนต์เก่า พวกเขาจะเอามาผูกติดกับเท้าให้แน่นที่สุดด้วยผ้า ความสำเร็จของ María Lorena Ramírez’ ได้สร้างความทึ่งให้แก่วงการกีฬาโลกเป็นอย่างมาก ว่ามันคือพรสวรรค์ของผู้หญิงคนหนึ่งที่พิสูจน์ได้ว่าคุณอาจไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ใดๆ ที่ทันสมัยเลยคุณก็สามารถทำมันออกมาได้ดีที่สุดเช่นกัน ที่มา Haberler

โลกนักวิ่งอึ้ง ! สาวเม็กซิโกใส่กระโปรง และรองเท้าแตะ ชนะวิ่งมาราธอน
29 พ.ค. 2560 (19:49 น.)

สาวพื้นเมืองเม็กซิโกลงแข่งวิ่ง 50 กม. ด้วยกระโปรง และรองเท้าจากยางรถยนต์ แถมเอาชนะนักวิ่งอีก 500 คน เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วย

สำหรับคนทั่วไป อาจจะต้องใช้เวลาในการฝึกซ้อมมาแรมปี  และลงทุนซื้ออุปกรณ์สำหรับมืออาชีพ เพื่อลงแข่งอุลตร้ามาราธอนซึ่งมีระยะทางยาวกว่าการวิ่งมาราธอนทั่วไป แต่สำหรับ María Lorena Ramírez หญิงสาวจากเม็กซิโก ผู้ที่ไม่เคยฝึกซ้อมเพื่อลงแข่งวิ่งมาราธอนอย่างถูกต้องมาก่อนเลย และไม่มีกระทั่งชุดหรือรองเท้าสำหรับวิ่ง เธอไม่ใช่แค่เธอลงวิ่งระยะทาง 50 กิโลเมตรเท่านั้น แต่เธอยังชนะการแข่งขันครั้งนี้ด้วยกระโปรงยาวและรองเท้าแตะเก่าๆ ที่ทำจากยางรถยนต์คู่หนึ่งเท่านั้นเอง

ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าคุณภาพสูงสำหรับวิ่ง ถุงเท้า ชุดวิ่ง หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่มให้พลังงาน เหล่านี้เปรียบเสมือนสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับนักวิ่งมืออาชีพในการลงแข่งวิ่งมาราธอน แต่มันคงไม่จำเป็นสำหรับ María Lorena Ramírez วัย 22 ปี จากรัฐชีวาวา ประเทศเม็กซิโก เธอลงแข่งด้วยชุดธรรมดาเสื้อยืดกระโปรงยาวเท่าเข่าและมีเพียงน้ำดื่ม 1 ขวดกับผ้าเช็ดหน้าเท่านั้น มันทำให้เธอดูแตกต่างจากนักวิ่ง 500 คน จากกว่า 12 ประเทศทั่วโลก ที่มีการเตรียมความพร้อมสำหรับวิ่งครั้งนี้ทั้งร่างกายและอุปกรณ์ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอหวั่นใจแต่อย่างใดเลย

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าชาว Rarámuri หรือ Tarahumara ชนเผ่าพื้นเมืองของประเทศเม็กซิโกเป็นกลุ่มคนที่เรียกได้ว่าวิ่งได้เร็วมาก แต่คงไม่มีใครคิดว่าเธอจะเอาชนะในครั้งนี้ไปได้ อย่างน้อยก็เสื้อผ้าและรองเท้าที่เธอใส่มาในวันนั้นน่าจะเป็นอุปสรรค แต่หลังจากเวลาผ่านไป 7 ชั่วโมง 3 นาที สิ่งที่ทุกคนไม่คิดเอาไว้ก็เกิดขึ้น เมื่อเธอคนนี้เป็นคนแรกที่วิ่งเข้าเส้นชัยและคว้าเงินรางวัล 320 ดอลลาร์กลับบ้านไป

“เธอไม่ได้มีอุปกรณ์ช่วยใดๆ ในการวิ่งครั้งนี้เลย ไม่มีเจลบรรเทาอาการปวดใดๆ ไม่มีน้ำหวานเพิ่มพลัง แว่นตากันฝุ่น หรืออุปกรณ์การวิ่งราคาแพงใดๆ เลย มีเพียงแค่ขวดน้ำดื่ม และผ้าเช็ดหน้าเท่านั้นเอง” Orlando Jiménez ผู้จัดการแข่งขันกล่าว

สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือ María Lorena Ramírez ไม่เคยผ่านการฝึกซ้อมสำหรับการวิ่งมาราธอนระยะทาง 50 กิโลเมตรมาก่อนเลย มีเพียงการเดินเท้าด้วยระยะทาง 10-15 กิโลเมตรต่อวันที่เธอต้องทำในการต้อนฝูงแกะเท่านั้น

นอกจากการแข่ง Cerro Rojo Ultramarathon ในรัฐปวยบลา ตอนกลางของเม็กซิโกที่จัดเมื่อ 29 เมษายน ครั้งนี้ เธอยังเคยได้ที่สองจากการแข่งวิ่ง 100 กิโลเมตร ในงาน Caballo Blanco Ultramarathon เมื่อปีที่แล้วด้วย

ชาวชนเผ่า Rarámuri ถือเป็นนักวิ่งระยะไกลในตำนานเลยก็ว่าได้ ด้วยความอดทนของร่างกายที่ไม่เหมือนใคร พวกเขาบำรุงร่างกายด้วยการดื่ม pinole (หรือข้าวโพดคั่วผสมดอกไม้, น้ำ, และน้ำตาล) และ iskiate (เมล็ดเชียผสมน้ำและน้ำมะนาว) และส่วนใหญ่พวกเขาจะวิ่งด้วยเท้าเปล่า หรือไม่ก็รองเท้าแตะที่เรียกว่า huarache ซึ่งพื้นรองเท้าแต่ก่อนมักจะทำมาจากหนังแท้ แต่นักวิ่งส่วนใหญ่จะนิยมทำมาจากยางรถยนต์เก่า พวกเขาจะเอามาผูกติดกับเท้าให้แน่นที่สุดด้วยผ้า

ความสำเร็จของ María Lorena Ramírez’ ได้สร้างความทึ่งให้แก่วงการกีฬาโลกเป็นอย่างมาก ว่ามันคือพรสวรรค์ของผู้หญิงคนหนึ่งที่พิสูจน์ได้ว่าคุณอาจไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ใดๆ ที่ทันสมัยเลยคุณก็สามารถทำมันออกมาได้ดีที่สุดเช่นกัน

ที่มา Haberler

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น