วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

จากคู่แค้น มาเป็นคู่หู #ข้อคิดชะตาชีวิตใครกำหนด " ข้ามศพกูไปก่อนเถอะมาร์กี้ มึงจะไม่ได้อยู่ในหนังเรื่องนี้แน่นอน " คำพูดยโสโอหังเย่อหยิ่งของ Leonardo Dicaprio ในวัยละอ่อนที่พูดกับ Mark Wahlberg ในวัยไล่เลี่ยกันเมื่อครั้งที่ทั้งคู่รู้ว่าจะได้เล่นหนัง The Basketball Diaries ด้วยกัน เรื่องราวเกิดขึ้นก่อนหน้าการคัดเลือกตัวนักแสดง ลีโอ กับ มาร์กี้ ต้องปะทะกันในการแข่งขันบาสเก็ตบอลการกุศลงานหนึ่ง สองคนเขม่นกันอย่างแรง เพราะ มาร์กี้ จุดชนวนความร้าวฉานด้วยการเล่นแรง และโชคชะตาก็ขีดให้สองคนมาเจอกันในวันแคสบทหนัง The Basketball Diaries ลีโอ กรีดร้องปานจะบ้าตายเมื่อรู้ว่าคนที่จะมาเล่นเป็นเพื่อนสนิทของเขาคือ Mark Wahlberg เขาเหวี่ยงทีมงานและชี้ขาดว่าหากมีไอ้หมอนั่นผมก็ไม่เล่นหนังนี่ ตามประสาเด็กวัยรุ่นที่กำลังจะโด่งดัง Mark Wahlberg รู้สึกว่าเขาจะต้องชวดบทนี้แน่ๆ เพราะเขาวางตัวไอ้หมอนั่นในบทพระเอกมานานก่อนเขา เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้มันถูกสร้างขึ้นเพื่อไอ้หมอนั่นอย่างไม่ต้องสงสัย คนมาทีหลังจะทำอะไรได้เล่าปั๊ดโธ่...... การไกล่เกลี่ยจาก Scott Kalvert ผู้กำกับฯ ได้ชักแม่น้ำทั้งห้ามากล่อมไอ้เด็กเอาแต่ใจอย่างลีโอ ซึ่งตอนนั้นโด่งดังขีดสุดจากการแสดงหนังอย่าง What's Eating Gilbert Grape ในขั้นตอนการต่อบทและซักซ้อมก่อนแคส ลีโอ ยอมอ่อนข้อให้ แต่อย่าได้หวังว่าจะมีฉากกอดคอประสาเพื่อนรักอย่างเด็ดขาด ยอมเล่นให้ก็บุญหัวเท่าไหร่แล้ว มาร์กี้ เข้าบทกับ ลีโอ ท่ามกลางไฟแค้นที่สุมอก แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพทั้งคู่เล่นได้เข้าขากันจนทีมงานอินไปตามๆ กันว่าสองคนนี้มันเพื่อนรักกันมานานนมจริงๆ นี่หว่า พวกเขาดูไม่เหมือนกำลังแสดงเลย และดูไม่เหมือนเกลียดกันมาก่อนแต่อย่างใด ที่น่ายินดีคือทั้ง ลีโอ และ มาร์กี้ ต่างก็รู้สึกถึงมันเช่นกัน เขาทั้งคู่มีอะไรหลายๆ อย่างที่จูนกันติด แบบว่าแค่มองตาก็รู้ใจ สองคนสนิทกันรวดเร็วจนทุกคนในกองถ่ายงง มันนั่งคุยกันได้ทั้งวี่ทั้งวัน เรื่อง บาสเก็ตบอล เรื่องหนัง เรื่องเพลง เรื่องสาวๆ ลืมเรื่องร้าวฉานแต่ครั้งก่อนเก่าไปหมดสิ้น จวบจนเสร็จสิ้นการถ่ายทำและการเดินสายโปรโมท สองคนนี้ยังติดต่อกันเรื่อยมา และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอๆ จนเติบโตในวงการบันเทิง หลายปีต่อมาในการคัดเลือกบทในหนัง The Departed ของผู้กำกับฯ Martin Scorsese ลีโอ เสนอชื่อ Mark Wahlberg เพื่อนซี้ของเขาให้ สกอเซซี่ พิจารณาว่าเขาเหมาะกับบทหนึ่งในหนังมากๆ ทำไมน่ะเหรอ เพราะไอ้หมอนี่มันกวนโอ๊ย ปากพล่อย และมีอารมณ์ขันเสียดสีเยอะมากๆ มันเป็นคนที่เกิดมาเพื่อบท Dignam โดยเฉพาะ ผู้กำกับฯ Martin Scorsese ตอบตกลงทันที และแน่นอนว่าบทนี้ มาร์กี้ เล่นได้มันส์หยดจนแย่งซีนได้ทุกฉากที่เขาปรากฏตัวมา Mark Wahlberg มาเฉลยในภายหลังว่า ถ้าสมมติในตอนทดสอบบทหนัง The Basketball Diaries หากเขาอวดดี เย่อหยิ่ง ไม่จ้องหน้า มองแววตา และ กอดคอหมอนั่นตอนซ้อมต่อบท ทั้งๆ ที่ในตอนนั้นเขาหมั่นไส้ไอ้หมอนั่น อยากต่อยหน้ามันให้แหกตามประสาเด็กๆ ที่มีต่อกัน เขาอาจจะไม่ใช่ Mark Wahlberg อย่างที่คนรู้จักทุกวันนี้ และแน่นอนว่าในกองถ่าย The Departed เด็กหนุ่มสองคนในวันนั้นก็ยังคงคุยกันโขมงโฉงเฉงเช่นเดิม พวกเขาดูคิดถึงกันมากเหลือเกิน http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9600000049707

จากคู่แค้น มาเป็นคู่หู #ข้อคิดชะตาชีวิตใครกำหนด

        " ข้ามศพกูไปก่อนเถอะมาร์กี้ มึงจะไม่ได้อยู่ในหนังเรื่องนี้แน่นอน "
      
       คำพูดยโสโอหังเย่อหยิ่งของ Leonardo Dicaprio ในวัยละอ่อนที่พูดกับ Mark Wahlberg ในวัยไล่เลี่ยกันเมื่อครั้งที่ทั้งคู่รู้ว่าจะได้เล่นหนัง The Basketball Diaries ด้วยกัน
      
       เรื่องราวเกิดขึ้นก่อนหน้าการคัดเลือกตัวนักแสดง ลีโอ กับ มาร์กี้ ต้องปะทะกันในการแข่งขันบาสเก็ตบอลการกุศลงานหนึ่ง สองคนเขม่นกันอย่างแรง เพราะ มาร์กี้ จุดชนวนความร้าวฉานด้วยการเล่นแรง
      
       และโชคชะตาก็ขีดให้สองคนมาเจอกันในวันแคสบทหนัง The Basketball Diaries ลีโอ กรีดร้องปานจะบ้าตายเมื่อรู้ว่าคนที่จะมาเล่นเป็นเพื่อนสนิทของเขาคือ Mark Wahlberg เขาเหวี่ยงทีมงานและชี้ขาดว่าหากมีไอ้หมอนั่นผมก็ไม่เล่นหนังนี่
      
       ตามประสาเด็กวัยรุ่นที่กำลังจะโด่งดัง Mark Wahlberg รู้สึกว่าเขาจะต้องชวดบทนี้แน่ๆ เพราะเขาวางตัวไอ้หมอนั่นในบทพระเอกมานานก่อนเขา เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้มันถูกสร้างขึ้นเพื่อไอ้หมอนั่นอย่างไม่ต้องสงสัย คนมาทีหลังจะทำอะไรได้เล่าปั๊ดโธ่......

        การไกล่เกลี่ยจาก Scott Kalvert ผู้กำกับฯ ได้ชักแม่น้ำทั้งห้ามากล่อมไอ้เด็กเอาแต่ใจอย่างลีโอ ซึ่งตอนนั้นโด่งดังขีดสุดจากการแสดงหนังอย่าง What's Eating Gilbert Grape ในขั้นตอนการต่อบทและซักซ้อมก่อนแคส ลีโอ ยอมอ่อนข้อให้ แต่อย่าได้หวังว่าจะมีฉากกอดคอประสาเพื่อนรักอย่างเด็ดขาด ยอมเล่นให้ก็บุญหัวเท่าไหร่แล้ว
      
       มาร์กี้ เข้าบทกับ ลีโอ ท่ามกลางไฟแค้นที่สุมอก แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพทั้งคู่เล่นได้เข้าขากันจนทีมงานอินไปตามๆ กันว่าสองคนนี้มันเพื่อนรักกันมานานนมจริงๆ นี่หว่า พวกเขาดูไม่เหมือนกำลังแสดงเลย และดูไม่เหมือนเกลียดกันมาก่อนแต่อย่างใด
      
       ที่น่ายินดีคือทั้ง ลีโอ และ มาร์กี้ ต่างก็รู้สึกถึงมันเช่นกัน เขาทั้งคู่มีอะไรหลายๆ อย่างที่จูนกันติด แบบว่าแค่มองตาก็รู้ใจ สองคนสนิทกันรวดเร็วจนทุกคนในกองถ่ายงง มันนั่งคุยกันได้ทั้งวี่ทั้งวัน เรื่อง บาสเก็ตบอล เรื่องหนัง เรื่องเพลง เรื่องสาวๆ ลืมเรื่องร้าวฉานแต่ครั้งก่อนเก่าไปหมดสิ้น
      
       จวบจนเสร็จสิ้นการถ่ายทำและการเดินสายโปรโมท สองคนนี้ยังติดต่อกันเรื่อยมา และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอๆ จนเติบโตในวงการบันเทิง
      
       หลายปีต่อมาในการคัดเลือกบทในหนัง The Departed ของผู้กำกับฯ Martin Scorsese ลีโอ เสนอชื่อ Mark Wahlberg เพื่อนซี้ของเขาให้ สกอเซซี่ พิจารณาว่าเขาเหมาะกับบทหนึ่งในหนังมากๆ ทำไมน่ะเหรอ เพราะไอ้หมอนี่มันกวนโอ๊ย ปากพล่อย และมีอารมณ์ขันเสียดสีเยอะมากๆ มันเป็นคนที่เกิดมาเพื่อบท Dignam โดยเฉพาะ ผู้กำกับฯ Martin Scorsese ตอบตกลงทันที และแน่นอนว่าบทนี้ มาร์กี้ เล่นได้มันส์หยดจนแย่งซีนได้ทุกฉากที่เขาปรากฏตัวมา
      
       Mark Wahlberg มาเฉลยในภายหลังว่า ถ้าสมมติในตอนทดสอบบทหนัง The Basketball Diaries หากเขาอวดดี เย่อหยิ่ง ไม่จ้องหน้า มองแววตา และ กอดคอหมอนั่นตอนซ้อมต่อบท ทั้งๆ ที่ในตอนนั้นเขาหมั่นไส้ไอ้หมอนั่น อยากต่อยหน้ามันให้แหกตามประสาเด็กๆ ที่มีต่อกัน เขาอาจจะไม่ใช่ Mark Wahlberg อย่างที่คนรู้จักทุกวันนี้
      
       และแน่นอนว่าในกองถ่าย The Departed เด็กหนุ่มสองคนในวันนั้นก็ยังคงคุยกันโขมงโฉงเฉงเช่นเดิม พวกเขาดูคิดถึงกันมากเหลือเกิน

http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9600000049707

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น