วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Swiss Made คุณภาพคนสวิส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ถือเป็นประเทศขนาดค่อนข้างเล็ก ตั้งอยู่ในช่วงกลางของยุโรปฝั่งตะวันตก มีจำนวนประชากรประมาณ 8 ล้านคน (น้อยกว่าจำนวนประชากรในกรุงเทพอีก) ภูมิศาสตร์ของประเทศก็มีแต่ภูเขาและหิมะปกคลุมเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีทรัพยากรทางธรรมชาติเท่าไหร่นัก อีกทั้งยังเป็นประเทศแบบ Land Lock คือ ไม่มีทางออกทางทะเล ทำให้ยากลำบากต่อการส่งออกสินค้า พูดได้ว่ามีข้อจำกัดค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่สิ่งที่ทำให้ประเทศสวิสเซอร์แลนด์น่าสนใจก็คือ ทั้งๆที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์เพาะปลูกต้นกาแฟไม่ได้ แต่เป็นเจ้าของNestle แบรนด์กาแฟที่ดังที่สุดในโลก ปลูกต้นโกโก้ก็ไม่ได้ แต่เป็นผู้ผลิตช็อคโกแล็ตอันดับ 1 ของโลก (Lindt, Tobleone, Frey) คนในประเทศแทบจะไม่ทานซีอิ๊ว แต่เป็นเจ้าของแบรนด์แม๊กกี้ ที่ส่งซีอิ๊วขายไปทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นประเทศผู้ผลิตแบรนด์นาฬิกาหรูมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็น Rolex, Patek Philippe, Tag Heuer ฯลฯ ทั้งหมดทั้งมวล มาจาก “คุณภาพของคน” ล้วนๆ รัฐบาลของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ปลูกฝังทางด้านการศึกษามาก ทุกคนที่มีสัญชาติสวิสจะต้องจบปริญญาตรีเป็นเกณฑ์ต่ำที่สุด โดยรัฐบาลจะออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างทั้งตำราเรียนรวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆ เมื่อเด็กโตขึ้นมาจะได้เรียนอะไร รัฐบาลจะเลือกให้ โดยดูผลการเรียนเป็นสำคัญ ถ้าคะแนนไม่ดีก็ให้ไปเรียนสายอาชีพพื้นๆ จบปริญญาตรีก็ออกมาทำอาชีพเป็นพนักงานกวาดถนนหรือเก็บขยะไป แต่หากเรียนหนังสือไม่เก่งแต่อยากเลือกวิชาเอง ก็ต้องออกทุนเองเพื่อไปเข้าโรงเรียนเอกชน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก อีกทั้งคนสวิสยังมีจิตวิญญาณในการรักชาติที่เกินร้อย อย่างผลิตผลทางการเกษตรที่ขายอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต(ส่วนใหญ่จะเป็นผักผลไม้นำเข้า) ถึงแม้จะมีราคาถูกกว่าตลาดนัดอย่างมาก แต่คนสวิสก็ยังนิยมซื้อของในตลาดนัดมากกว่า เนื่องจากคนสวิสเขาต้องการให้เกษตรกรในประเทศอยู่ได้ เป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และอย่างน้อยๆ ควรจะมีรายได้พอๆ กับคนส่วนใหญ่ในสังคม ทั้งหมดนี้ถูกปลูกฝังกันมาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นค่านิยมของคนประเทศไปในที่สุด ด้วยคุณภาพของคนในประเทศขนาดนี้ ถึงแม้จะประเทศทรัพยากรจะมีน้อยก็ไม่เป็นปัญหา ธุรกิจของสวิสเซอร์แลนด์ส่วนใหญ่จะเป็น Service Center คือเป็นศูนย์กลางของภาคบริการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน การธนาคาร ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจ Trading ฯลฯ หากเป็นบริษัททางด้านการผลิต ก็จะเน้นไปศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนา หรือไม่ก็ผลิตเฉพาะส่วนที่เป็นหัวใจหลักเท่านั้น ส่วนอุตสาหกรรมหนักก็ Outsource ออกไปทำในต่างประเทศ ทำให้เกิดมลภาวะในประเทศน้อยมากๆ ที่ผ่านมา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์มีรายการจดสิทธิบัตรมากเป็นอันดับ 2 ของโลกเมื่อเทียบต่อสัดส่วนประชากร (รองจากญี่ปุ่น) และมีชาวสวิสได้รับรางวัล Nobel Prize ถึง 26 คน ถือเป็นอันดับ 1 ของโลกเมื่อเทียบต่อสัดส่วนประชากร ปัจจุบัน มีนักเทนนิส Top 8 ของโลกเป็นชาวสวิสถึง 2 คน (Federer และ Wawrinka) เรียกได้ว่า คนสวิสนั้นเวลาทำอะไร จะทำสุดลิ่มทิ่มประตูจริงๆ . . . “การศึกษาสร้างคน คนสร้างชาติ”......ของแท้และแน่นอนครับ

Swiss Made คุณภาพคนสวิส

ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ถือเป็นประเทศขนาดค่อนข้างเล็ก ตั้งอยู่ในช่วงกลางของยุโรปฝั่งตะวันตก มีจำนวนประชากรประมาณ 8 ล้านคน (น้อยกว่าจำนวนประชากรในกรุงเทพอีก)

ภูมิศาสตร์ของประเทศก็มีแต่ภูเขาและหิมะปกคลุมเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีทรัพยากรทางธรรมชาติเท่าไหร่นัก

อีกทั้งยังเป็นประเทศแบบ Land Lock คือ ไม่มีทางออกทางทะเล ทำให้ยากลำบากต่อการส่งออกสินค้า พูดได้ว่ามีข้อจำกัดค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

แต่สิ่งที่ทำให้ประเทศสวิสเซอร์แลนด์น่าสนใจก็คือ

ทั้งๆที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์เพาะปลูกต้นกาแฟไม่ได้ แต่เป็นเจ้าของNestle แบรนด์กาแฟที่ดังที่สุดในโลก

ปลูกต้นโกโก้ก็ไม่ได้ แต่เป็นผู้ผลิตช็อคโกแล็ตอันดับ 1 ของโลก (Lindt, Tobleone, Frey)

คนในประเทศแทบจะไม่ทานซีอิ๊ว แต่เป็นเจ้าของแบรนด์แม๊กกี้ ที่ส่งซีอิ๊วขายไปทั่วโลก

อีกทั้งยังเป็นประเทศผู้ผลิตแบรนด์นาฬิกาหรูมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็น Rolex, Patek Philippe, Tag Heuer ฯลฯ

ทั้งหมดทั้งมวล มาจาก “คุณภาพของคน” ล้วนๆ

รัฐบาลของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ปลูกฝังทางด้านการศึกษามาก ทุกคนที่มีสัญชาติสวิสจะต้องจบปริญญาตรีเป็นเกณฑ์ต่ำที่สุด โดยรัฐบาลจะออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างทั้งตำราเรียนรวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆ เมื่อเด็กโตขึ้นมาจะได้เรียนอะไร รัฐบาลจะเลือกให้ โดยดูผลการเรียนเป็นสำคัญ ถ้าคะแนนไม่ดีก็ให้ไปเรียนสายอาชีพพื้นๆ จบปริญญาตรีก็ออกมาทำอาชีพเป็นพนักงานกวาดถนนหรือเก็บขยะไป

แต่หากเรียนหนังสือไม่เก่งแต่อยากเลือกวิชาเอง ก็ต้องออกทุนเองเพื่อไปเข้าโรงเรียนเอกชน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก

อีกทั้งคนสวิสยังมีจิตวิญญาณในการรักชาติที่เกินร้อย อย่างผลิตผลทางการเกษตรที่ขายอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต(ส่วนใหญ่จะเป็นผักผลไม้นำเข้า) ถึงแม้จะมีราคาถูกกว่าตลาดนัดอย่างมาก แต่คนสวิสก็ยังนิยมซื้อของในตลาดนัดมากกว่า เนื่องจากคนสวิสเขาต้องการให้เกษตรกรในประเทศอยู่ได้ เป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และอย่างน้อยๆ ควรจะมีรายได้พอๆ กับคนส่วนใหญ่ในสังคม ทั้งหมดนี้ถูกปลูกฝังกันมาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นค่านิยมของคนประเทศไปในที่สุด

ด้วยคุณภาพของคนในประเทศขนาดนี้ ถึงแม้จะประเทศทรัพยากรจะมีน้อยก็ไม่เป็นปัญหา

ธุรกิจของสวิสเซอร์แลนด์ส่วนใหญ่จะเป็น Service Center คือเป็นศูนย์กลางของภาคบริการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน การธนาคาร ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจ Trading ฯลฯ

หากเป็นบริษัททางด้านการผลิต ก็จะเน้นไปศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนา หรือไม่ก็ผลิตเฉพาะส่วนที่เป็นหัวใจหลักเท่านั้น ส่วนอุตสาหกรรมหนักก็ Outsource ออกไปทำในต่างประเทศ ทำให้เกิดมลภาวะในประเทศน้อยมากๆ

ที่ผ่านมา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์มีรายการจดสิทธิบัตรมากเป็นอันดับ 2 ของโลกเมื่อเทียบต่อสัดส่วนประชากร (รองจากญี่ปุ่น)

และมีชาวสวิสได้รับรางวัล Nobel Prize ถึง 26 คน ถือเป็นอันดับ 1 ของโลกเมื่อเทียบต่อสัดส่วนประชากร

ปัจจุบัน มีนักเทนนิส Top 8 ของโลกเป็นชาวสวิสถึง 2 คน (Federer และ Wawrinka)

เรียกได้ว่า คนสวิสนั้นเวลาทำอะไร จะทำสุดลิ่มทิ่มประตูจริงๆ
.
.
.
“การศึกษาสร้างคน คนสร้างชาติ”......ของแท้และแน่นอนครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น