ลูกค้าคนที่ 100
เวลาเที่ยงวันผ่านพ้นไป ร้านอาหารก่อนหน้าที่เบียดเสียดแน่นเอี้ยดด้วยลูกค้า ตอนนี้ล้วนแยก
ย้ายกันจากไปแล้ว เจ้าของร้านกำลังจะพักเหนื่อย หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมา ก็มีลูกค้าเดินเข้ามา
เป็นคุณยายท่านหนึ่งกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
" ข้าวราดซุปเนื้อชามละเท่าไหร่ ?" คุณยายนั่งลงแล้วหยิบกระเป๋าเงินออกมานับเงิน สั่งข้าวราด
ซุปเนื้อร้อนๆมาหนึ่งชาม คุณยายเลื่อนชามข้าวไปตรงหน้าของหลานชาย เด็กผู้ชายกลืนน้ำลาย
แล้วมองคุณยาย จากนั้นพูดว่า " คุณยาย ท่านกินข้าวเที่ยงมาแล้วจริงๆหรือ ?"
"จริงซิ "คุณยายปากอมหัวผักกาดดอง ค่อยๆเคี้ยว เพียงชั่วพริบตา เด็กผู้ชายก็กินข้าวในชามจน
เกลี้ยง เจ้าของร้านเห็นสภาพการณ์เช่นนี้ จึงเดินเข้าไปตรงหน้าทั้งสองแล้วพูดว่า " คุณยาย ยิน-
ดีด้วย วันนี้ท่านโชคดีจริงๆ เป็นลูกค้าคนที่หนึ่งร้อยของทางร้านเรา ดังนั้น มื้อนี้กินฟรี ไม่คิดเงิน"
หลังจากนั้น..ผ่านไปหนึ่งเดือนกว่า มีวันหนึ่ง เด็กผู้ชายนั่งยองๆอยู่ตรงข้ามร้านอาหาร คล้ายนับ
อะไรอยู่ ทำให้เจ้าของร้านอาหารซึ่งพบเห็นโดยบังเอิญตกใจอย่างยิ่ง ที่แท้ ทุกครั้งที่มีลูกค้าเดิน
เข้ามาในร้านอาหาร เด็กผู้ชายก็จะนำก้อนหินก้อนเล็กๆ วางเข้าไปในวงกลมที่เขาวาดไว้ แต่-
เวลามื้อเที่ยงได้ผ่านพ้นไปแล้ว ก้อนหินกลับห้าสิบก้อนก็ไม่ถึง
หัวใจที่กระวนกระวายดั่งไฟแผดเผาของเจ้าของร้าน เขารีบทำการโทรศัพท์ถึงลูกค้าเก่า " ยุ่ง-
มากไหม? ไม่มีเรื่องอะไร ผมแค่อยากให้คุณมากินข้าว วันนี้ผมเลี้ยงฟรี " หลังจากที่โทรศัพท์พูด
คุยด้วยคำพูดเหล่านี้ให้ลูกค้าเก่ามากมาย ลูกค้าเริ่มทยอยมาทีละคน ทีละคน....
" 81...82...83..." เด็กผู้ชายนับเร็วขึ้น เร็วขึ้น สุดท้ายเมื่อก้อนหินก้อนที่99ถูกปล่อยวางเข้าไป
ในวงกลม วินาทีนั้น เด็กผู้ชายรีบเร่งจูงมือคุณยายเข้าไปในร้านอาหาร " คุณยาย..ครั้งนี้เปลี่ยน
เป็นผมเลี้ยงแล้ว " เด็กผู้ชายพูดด้วยความภาคภูมิใจ
คุณยายซึ่งเป็นลูกค้าคนที่หนึ่งร้อยที่แท้จริง ได้รับการต้อนรับด้วยข้าวราดซุปเนื้อร้อนๆหนึ่งชาม
ส่วนเด็กผู้ชายก็ทำเหมือนดั่งคุณยายที่ทำครั้งก่อน ปากอมหัวผักกาดดองแล้วค่อยๆเคี้ยว ภรรยา
เจ้าของร้านทนดูไม่ไหวเลยพูดว่า " ให้ข้าวชามหนึ่งแก่เด็กด้วยเถิด "
เจ้าของร้านตอบว่า " เด็กผู้ชายกำลังฝึกหัดเรียนรู้หลักการ ไม่กินอะไรก็อิ่มได้ " คุณยายที่กำลัง
กินอย่างเอร็ดอร่อยถามหลานชายว่า " ต้องเหลือไว้ให้เธอหรือไม่ ?" ไม่คาดคิด เด็กผู้ชายกลับชี้
ไปที่ท้องเล็กๆของเขา แล้วพูดกับคุณยายว่า " ไม่ต้องแล้ว ผมอิ่มมาก คุณยายดูซิ...."
*** นำความเมตตากรุณา แสดงออกด้วยวิธีการที่นุ่มนวล
ไม่ว่าเป็นผู้ที่ช่วยเหลือคนอื่นหรือผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือ
ล้วนจะทำให้ภายในจิตใจรู้สึกพึงพอใจมากยิ่งขึ้น
หนึ่งจิตใจที่ดีงาม ช่วยต้นกล้าต้นหนึ่งเติบใหญ่
ต้นกล้าหลายๆต้นรวมกัน สามารถกลายเป็นป่า
Niwat Rungvicha
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น