เรื่อง แม่-ลูก
นิทานเรื่องสั้นของท่านพุทธทาส
นิทานเรื่องสั้นของท่านพุทธทาส
ิ กระบวนแห่สิงโตผ่านมาในถนน ประชาชนแตกตื่นพากันอุ้มลูกจูงหลานออกมาดูเด็กอายุ ๓-๔ ขวบ คนหนึ่งร้องไห้เพราะความกลัวสิงโตก็ดิ้นอย่างจะสิ้นชีวิตลงไปแม่ต้องอุ้มพาหนีเข้าไปในสวนข้างถนนแห่งหนึ่งพลางบ่นว่าน่าสงสารลูกโง่ๆคนนี้เหลือเกินแม่จะได้ดูอะไรสักนิดก็ไม่ได้ดู
ทันใดนั้นเองแม่ก็ดิ้นและร้องวิ๊ดว๊าดขึ้นเพราะกิ้งกือตัวหนึ่งเผอิญหล่นลงมาจากต้นไม้ ตกลงไปในเสื้อลูกเล็กๆคนนั้นเองหัวเราะชอบใจเมื่อเขาบอกแม่ว่าเขาจะช่วยหยิบออกให้แล้วก็ช่วยหยิบทิ้งให้จริงๆ
ทันใดนั้นเองแม่ก็ดิ้นและร้องวิ๊ดว๊าดขึ้นเพราะกิ้งกือตัวหนึ่งเผอิญหล่นลงมาจากต้นไม้ ตกลงไปในเสื้อลูกเล็กๆคนนั้นเองหัวเราะชอบใจเมื่อเขาบอกแม่ว่าเขาจะช่วยหยิบออกให้แล้วก็ช่วยหยิบทิ้งให้จริงๆ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า:
มันเป็นการสุดวิสัยที่จะไม่ให้ลูก ๆ กลัวสิ่งที่มีลักษณะและอาการอย่างภูตผีปีศาจกระโดดโลดเต้น เข้ามาราวกะจะจับเอาตัวไปกินเสียฉะนั้น แต่ทีแม่เองกลับกลัวกิ้งกือตัวนิดเดียว! ทั้งเลื้อยด้วยท่าทางอันนิ่มนวลอ่อนโยน ราวกะเข้ามาแสดงความเคารพหรือขอความช่วยเหลืออะไรสักอย่างหนึ่ง ความกลัวของแม่ก็กลัวอย่างจะขาดใจตายเช่นเดียวกับลูกเหมือนกัน!
เมื่อประกอบด้วยอวิชชาอยู่อย่างเต็มที่แล้วไม่ว่าจะเป็นภูตผีปีศาจหรือเป็นสัตว์ตัวนิดๆเช่นกิ้งกือไส้เดือนก็ตามย่อมสามารถปลุกปั่นความกลัว (วิภวตัณหา) ได้โดยทำนองเดียวกันในฐานะเป็นที่ตั้งแห่งความขลาดและวิ่งหนีได้โดยเสมอกัน
ในที่สุดก็เหลือแต่สิ่งที่ต้องคำนวณดูว่าลูกอายุเพียง ๒-๓ ขวบ ส่วนแม่อยู่ในฐานะที่เป็นแม่หรือผู้ปกครองสั่งสอนลูกแล้วในกรณีนี้ ใครเล่าที่โง่เขลาน่าสมเพชกว่าใครในระหว่าง แม่-ลูก รายนี้
เมื่อประกอบด้วยอวิชชาอยู่อย่างเต็มที่แล้วไม่ว่าจะเป็นภูตผีปีศาจหรือเป็นสัตว์ตัวนิดๆเช่นกิ้งกือไส้เดือนก็ตามย่อมสามารถปลุกปั่นความกลัว (วิภวตัณหา) ได้โดยทำนองเดียวกันในฐานะเป็นที่ตั้งแห่งความขลาดและวิ่งหนีได้โดยเสมอกัน
ในที่สุดก็เหลือแต่สิ่งที่ต้องคำนวณดูว่าลูกอายุเพียง ๒-๓ ขวบ ส่วนแม่อยู่ในฐานะที่เป็นแม่หรือผู้ปกครองสั่งสอนลูกแล้วในกรณีนี้ ใครเล่าที่โง่เขลาน่าสมเพชกว่าใครในระหว่าง แม่-ลูก รายนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น