วันพุธที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2560

จงอย่าทอดทิ้งความดี ผู้ทรงศีลนั่งสมาธิอยู่ริมน้ำ ได้ยินเสียงดิ้นรนในน้ำ จึงลืมตาขึ้น เห็นแมงป่องตกอยู่ในน้ำ ท่านจึงใช้มือช้อนมันขึ้นมา ขณะเดียวกันแมงป่องก็ชูหางขึ้น แล้วต่อยไปที่มือท่าน ท่านปล่อยแมงป่องลงที่ฝั่ง แล้วหลับตาทำสมาธิต่อ ผ่านไปสักครู่ ก็ได้ยินเสียงดิ้นรนในน้ำอีก ท่านลืมตาขึ้น เห็นแมงป่องตกลงไปในน้ำอีก ท่านก็เอามือช้อนมันขึ้นมาอีก แน่นอนแมงป่องก็ต่อยไปที่มือท่านอีก ท่านก็หลับตาทำสมาธิต่อ ผ่านไปสักครู่ เหตุการณ์ก็ได้เกิดขึ้นซ้ำอีก ชาวประมงที่อยู่ข้างๆจึงพูดขึ้นว่า "ท่านทำไมช่างโง่จัง ไม่รู้หรือว่าแมงป่องมันต่อยคน" ผู้ทรงศีลตอบว่า "รู้ โดนมันต่อยสองครั้งแล้ว" ชาวประมงพูดว่า "แล้วทำไม ท่านยังจะช่วยมันอีก" ผู้ทรงศีลตอบว่า... "การต่อยคนเป็นสัญชาตญาณของมัน แต่ความเมตตาเป็นสัญชาตญาณของเรา สัญชาตญาณของมันไม่สามารถที่จะ มาเปลี่ยนสัญชาตญาณของเรา" ขณะนั้นเองก็ได้ยินเสียงดิ้นรนในน้ำอีก แมงป่องตัวเดิมนั่นแหละ ท่านไม่รีรอ เตรียมที่จะเอื้อมมือที่บวมไปช่วยมันอีก ชาวประมงจึงยื่นกิ่งไม้ให้กับผู้ทรงศีล ท่านก็นำกิ่งไม้ช้อนแมงป่องขึ้นมา ชาวประมงยิ้มและพูดว่า "ความเมตตานั้นดี แต่ในเมื่อจะมีความเมตตาต่อแมงป่อง ก็ต้องมีความเมตตาต่อตัวเองด้วย ฉะนั้นความเมตตาก็ต้องมีวิธีการของความเมตตา" เราต้องดูแลตัวเองให้ดีเสียก่อน ถึงจะมีสิทธิไปช่วยผู้อื่น .................................... นิทานเรื่องนี้ผมชอบมาก ทำให้ได้คิดถึงประโยคหนึ่ง ที่ผู้คนชอบพูดกันว่า "เดี๋ยวนี้จะทำตัวเป็นคนดีนั้นยาก" ใช่แล้ว สัญชาตญาณของคนดีคือทำความดี แต่ผู้ถูกช่วยอาจจะไม่ใช่คนดี และผลของการช่วยคนก็อาจจะไม่เกิดผลที่ดี แล้วทำไมจึงเป็นเช่นนี้ ? เหมือนกับชาวประมงพูดไว้ "เมตตาต้องมีวิธีการของความเมตตา" "ความเมตตานั้นดี ในเมื่อจะเมตตาต่อแมงป่อง ก็ต้องเมตตาต่อตัวเองด้วย" ในความเป็นจริงกำลังเตือนเรา ให้ต้องรู้จักรับผิดชอบต่อตัวเองก่อน ถึงจะสามารถไปรับผิดชอบต่อผู้อื่นได้อย่างแท้จริง คนที่ไม่สามารถรับผิดชอบต่อตัวเองได้ จะไปรับผิดชอบต่อผู้อื่น จะเป็นไปได้ไหม ? ดูแลตัวเองให้ดี ถึงจะมีสิทธิ์ไปดูแลผู้อื่น อีกประโยคที่ชอบมาก "สัญชาตญาณของแมงป่องนั้นต่อยคน แต่สัญชาตญาณของเราคือความเมตตา สัญชาตญาณของมันไม่สามรถที่จะ มาเปลี่ยนสัญชาตญาณของเรา" ดังนั้น อย่าให้ความเลวของผู้อื่น มามีอิทธิพลกับความดีของเรา อย่าให้การกระทำและวาจาของผู้อื่น มามีผลต่อจิตใจและการกระทำของเรา ผู้ที่มีปัญญา ย่อมสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ ส่วนผู้ไร้ปัญญา อารมณ์ของตนจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรม และวาจาของผู้อื่น จงอย่าทอดที้งความดีของเรา เพราะความเลวของผู้อื่น นำเสนอโดย เรื่องดีๆมีข้อคิด > http://bit.ly/2iFE1x4 Line : ts2502 Instagram : th.thamma ที่มา Forward Line คัดลอกจากเฟส : อาจารย์แพะ สงขลา ภาพ : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/750139

จงอย่าทอดทิ้งความดี

ผู้ทรงศีลนั่งสมาธิอยู่ริมน้ำ ได้ยินเสียงดิ้นรนในน้ำ
จึงลืมตาขึ้น เห็นแมงป่องตกอยู่ในน้ำ

ท่านจึงใช้มือช้อนมันขึ้นมา
ขณะเดียวกันแมงป่องก็ชูหางขึ้น แล้วต่อยไปที่มือท่าน
ท่านปล่อยแมงป่องลงที่ฝั่ง แล้วหลับตาทำสมาธิต่อ

ผ่านไปสักครู่  ก็ได้ยินเสียงดิ้นรนในน้ำอีก
ท่านลืมตาขึ้น เห็นแมงป่องตกลงไปในน้ำอีก
ท่านก็เอามือช้อนมันขึ้นมาอีก
แน่นอนแมงป่องก็ต่อยไปที่มือท่านอีก
ท่านก็หลับตาทำสมาธิต่อ

ผ่านไปสักครู่  เหตุการณ์ก็ได้เกิดขึ้นซ้ำอีก
ชาวประมงที่อยู่ข้างๆจึงพูดขึ้นว่า
"ท่านทำไมช่างโง่จัง ไม่รู้หรือว่าแมงป่องมันต่อยคน"

ผู้ทรงศีลตอบว่า
"รู้ โดนมันต่อยสองครั้งแล้ว"
ชาวประมงพูดว่า
"แล้วทำไม ท่านยังจะช่วยมันอีก"

ผู้ทรงศีลตอบว่า...
"การต่อยคนเป็นสัญชาตญาณของมัน
แต่ความเมตตาเป็นสัญชาตญาณของเรา
สัญชาตญาณของมันไม่สามารถที่จะ
มาเปลี่ยนสัญชาตญาณของเรา"

ขณะนั้นเองก็ได้ยินเสียงดิ้นรนในน้ำอีก
แมงป่องตัวเดิมนั่นแหละ

ท่านไม่รีรอ เตรียมที่จะเอื้อมมือที่บวมไปช่วยมันอีก
ชาวประมงจึงยื่นกิ่งไม้ให้กับผู้ทรงศีล
ท่านก็นำกิ่งไม้ช้อนแมงป่องขึ้นมา

ชาวประมงยิ้มและพูดว่า
"ความเมตตานั้นดี แต่ในเมื่อจะมีความเมตตาต่อแมงป่อง
ก็ต้องมีความเมตตาต่อตัวเองด้วย
ฉะนั้นความเมตตาก็ต้องมีวิธีการของความเมตตา"

เราต้องดูแลตัวเองให้ดีเสียก่อน
ถึงจะมีสิทธิไปช่วยผู้อื่น
....................................

นิทานเรื่องนี้ผมชอบมาก
ทำให้ได้คิดถึงประโยคหนึ่ง ที่ผู้คนชอบพูดกันว่า

"เดี๋ยวนี้จะทำตัวเป็นคนดีนั้นยาก"

ใช่แล้ว สัญชาตญาณของคนดีคือทำความดี
แต่ผู้ถูกช่วยอาจจะไม่ใช่คนดี
และผลของการช่วยคนก็อาจจะไม่เกิดผลที่ดี

แล้วทำไมจึงเป็นเช่นนี้ ?

เหมือนกับชาวประมงพูดไว้
"เมตตาต้องมีวิธีการของความเมตตา"

"ความเมตตานั้นดี
ในเมื่อจะเมตตาต่อแมงป่อง
ก็ต้องเมตตาต่อตัวเองด้วย"

ในความเป็นจริงกำลังเตือนเรา
ให้ต้องรู้จักรับผิดชอบต่อตัวเองก่อน
ถึงจะสามารถไปรับผิดชอบต่อผู้อื่นได้อย่างแท้จริง

คนที่ไม่สามารถรับผิดชอบต่อตัวเองได้
จะไปรับผิดชอบต่อผู้อื่น จะเป็นไปได้ไหม ?
ดูแลตัวเองให้ดี ถึงจะมีสิทธิ์ไปดูแลผู้อื่น

อีกประโยคที่ชอบมาก

"สัญชาตญาณของแมงป่องนั้นต่อยคน
แต่สัญชาตญาณของเราคือความเมตตา
สัญชาตญาณของมันไม่สามรถที่จะ
มาเปลี่ยนสัญชาตญาณของเรา"

ดังนั้น
อย่าให้ความเลวของผู้อื่น มามีอิทธิพลกับความดีของเรา
อย่าให้การกระทำและวาจาของผู้อื่น
มามีผลต่อจิตใจและการกระทำของเรา

ผู้ที่มีปัญญา ย่อมสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้
ส่วนผู้ไร้ปัญญา อารมณ์ของตนจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรม
และวาจาของผู้อื่น

จงอย่าทอดที้งความดีของเรา เพราะความเลวของผู้อื่น

นำเสนอโดย
เรื่องดีๆมีข้อคิด > http://bit.ly/2iFE1x4
Line : ts2502
Instagram : th.thamma

ที่มา Forward Line
คัดลอกจากเฟส : อาจารย์แพะ สงขลา
ภาพ : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/750139

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น