วันอังคารที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2560

#เรื่องเล่าดีๆ #บุคคล กว่าจะมาเป็นพี่หนึ่งจักรวาลในวันนี้ 👉“ทุกคนอยากเป็นผมตอนนี้ มีใครอยากเป็นผมตอนเด็กไหม”👈 เด็กคนหนึ่งเกิดมาพร้อมกับสีผิวที่เข้มจัด จนคุณพ่อต้องตกใจว่าลูกชั้นดำอะไรขนาดนี้ บ้านของเค้าอยู่ในสลัมคลองเตย เผาไล่ที่เป็นเรื่องปกติ บ้านอยู่ในเขตที่มีใครก็ได้โดนจับคดียาเสพติดได้ทุกวัน คนเดียวกันที่ถูกจับไปพอพ้นโทษกลับมาก็ถูกจับไปอีก และเป็นเรื่องธรรมดาถ้าจะมีใครเสียชีวิต คุณแม่ดุอย่างตรงไปตรงมา ตีด้วยมือ ไม้ไผ่ ไม้หน้าสาม หรือแม้กระทั่งเหวี่ยงลูกใส่ผนังบ้าน คือ การลงโทษที่เค้าผ่านมาแล้วทั้งสิ้น แม้ชีวิตจะดูไม่มีความมั่นคง แต่ชีวิตเด็ก ๆ ก็ยังมีสีสัน คลองที่ไหลผ่านมักจะมีของเล่นลอยน้ำมาเสมอ เป็นเหมือนแหล่งความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้ชีวิตวัยเด็กมีจินตนาการ คุณพ่อเป็นคนรักเสียงดนตรี ชวนเค้าให้ตั้งวงดนตรีเล่นงานวัด งานโกนจุก งานบวช เป็นงานประจำของวงนี้ คุณพ่อสอนเค้าว่า “ฟังที่เสียงนักร้อง แล้วใช้ความรู้สึกว่าเราควรจะเล่นอย่างไรให้เข้ากับเสียงร้อง” อ่านโน้ตไม่ออก แต่จำเอา ฟังเอา เล่นตามที่ผู้ใหญ่เล่น เค้ามีนามสกุลที่สอนให้ ทำอะไรตรงไปตรงมา แม้ครอบครัวเราจะไม่ได้เป็นข้าราชการ แต่เราต้องมีความยุติธรรม ม.1 ตัดสินใจเรียนดนตรี อยากเรียนเปียโน แต่ไม่ได้เรียน แอบไปดูครูเล่น แล้วแอบมาซ้อมตอนตี 5 จนถึงเข้าเรียน อีกที 4 โมงเย็น ไปเลิก 2 ทุ่ม เพราะต้องเล่นตอนที่คนไม่ใช้เครื่อง อยากหาเงินช่วยที่บ้าน ตัดสินใจไปเล่นตามคาเฟ่ เริ่มจากแลกข้าวไข่เจียว พัฒนามาเป็น 50 บาท กิจวัตรของเค้ากลายเป็น เล่นคาเฟ่เสร็จตี 4 มาโรงเรียนตี 5 อาศัยหลับ ๆ ตื่น ๆ ในห้องเรียน เลิกเรียนซ้อมยาวถึง 2 ทุ่ม กลับบ้านอาบน้ำไปเล่นที่คาเฟ่ต่อ เรื่องราวความขยันของเขาเริ่มเดินทางผ่านปากต่อปาก ปากต่อปาก ไปในวงการดนตรี จนทำให้ใคร ๆ ชี้มาทางเดียวกันว่า ถ้าหามือคีย์บอร์ด ต้องหาเขา จากการอ่านโน้ตไม่ออก เค้าใช้วิธีแกะเพลงจากการฟัง ใช้ความรู้สึกตามที่คุณพ่อสอน ดังนั้นเพลงไหนที่เขาเคยแกะเค้าเล่นได้ เพลงไหนที่เขาไม่เคยแกะ เขาจะกลายเป็นแกะดำของวง ครั้งหนึ่งเขาโดนไล่ออกจากโรงแรมใหญ่ เพราะเจอกับเพลงที่เล่นไม่ได้ ที่นั้นเป็นโรงแรมที่นักร้องได้รางวัลทุกคนต้องมาร้อง ก่อนที่เขาจะออกจากโรงแรม เขาถือสมุดจดของเขา เข้าไปหานักร้องที่ร้องเป็นคนสุดท้ายในคืนนั้น “พี่ครับ เขาเชิญผมออกแล้ว เขาไม่จ้างผมแล้ว ผมขอลายเซ็นพี่หน่อย ของถ่ายรูปกับพี่เป็นที่ระลึกได้ไหมครับ” ในสมุดบันทึกของเค้ามันเขียนว่า “ให้น้องประสบความสำเร็จนะคะ วันหนึ่งถ้ามีชื่อเสียงโด่งดัง ดังแล้วอย่าลืมพี่นะ มาเล่นคอนเสิร์ตให้พี่ด้วย” ในวันนั้นมันเป็นประสบการณ์ที่สอนเขาว่า “ไม่มีใครเจ๊ง ไม่มีใครเก่งกว่าใคร ชีวิตต้องเรียนรู้ตลอด” เขาใช้เวลา 20 กว่าปีจากวันนั้น มีชื่อเสียงในวงการดนตรี และกลับไปเล่นคอนเสิร์ตให้กับพี่ที่เซ็นในสมุดให้เค้า เพลงที่เค้าเล่นจบลง เค้าคว้าไมค์เล่าเรื่องข้อความในสมุด เวทีเปลี่ยนจากการแสดงดนตรี เป็นทะเลน้ำตาของนักร้อง นักดนตรี และผู้ชม ทั้งหมดนี้ คือ ชีวิตของ คุณหนึ่ง จักวาร เสาธงยุติธรรม Producer ผู้อยู่เบื้องหลังนักร้องชื่อดังมากมาย “ทุกคนอยากเป็นผมตอนนี้ มีใครอยากเป็นผมตอนเด็กไหม” ***เบื้องหลังความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ มักมีความพยายามอันสูงส่ง #สู้ๆนะครับ Cr.พี่หนึ่ง จักรวาล

#เรื่องเล่าดีๆ #บุคคล กว่าจะมาเป็นพี่หนึ่งจักรวาลในวันนี้

👉“ทุกคนอยากเป็นผมตอนนี้ มีใครอยากเป็นผมตอนเด็กไหม”👈

เด็กคนหนึ่งเกิดมาพร้อมกับสีผิวที่เข้มจัด
จนคุณพ่อต้องตกใจว่าลูกชั้นดำอะไรขนาดนี้

บ้านของเค้าอยู่ในสลัมคลองเตย เผาไล่ที่เป็นเรื่องปกติ
บ้านอยู่ในเขตที่มีใครก็ได้โดนจับคดียาเสพติดได้ทุกวัน
คนเดียวกันที่ถูกจับไปพอพ้นโทษกลับมาก็ถูกจับไปอีก
และเป็นเรื่องธรรมดาถ้าจะมีใครเสียชีวิต

คุณแม่ดุอย่างตรงไปตรงมา ตีด้วยมือ ไม้ไผ่ ไม้หน้าสาม
หรือแม้กระทั่งเหวี่ยงลูกใส่ผนังบ้าน
คือ การลงโทษที่เค้าผ่านมาแล้วทั้งสิ้น

แม้ชีวิตจะดูไม่มีความมั่นคง แต่ชีวิตเด็ก ๆ ก็ยังมีสีสัน

คลองที่ไหลผ่านมักจะมีของเล่นลอยน้ำมาเสมอ
เป็นเหมือนแหล่งความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้ชีวิตวัยเด็กมีจินตนาการ

คุณพ่อเป็นคนรักเสียงดนตรี ชวนเค้าให้ตั้งวงดนตรีเล่นงานวัด งานโกนจุก งานบวช เป็นงานประจำของวงนี้

คุณพ่อสอนเค้าว่า
“ฟังที่เสียงนักร้อง แล้วใช้ความรู้สึกว่าเราควรจะเล่นอย่างไรให้เข้ากับเสียงร้อง”

อ่านโน้ตไม่ออก แต่จำเอา ฟังเอา เล่นตามที่ผู้ใหญ่เล่น
เค้ามีนามสกุลที่สอนให้ ทำอะไรตรงไปตรงมา แม้ครอบครัวเราจะไม่ได้เป็นข้าราชการ แต่เราต้องมีความยุติธรรม
ม.1 ตัดสินใจเรียนดนตรี อยากเรียนเปียโน
แต่ไม่ได้เรียน แอบไปดูครูเล่น แล้วแอบมาซ้อมตอนตี 5 จนถึงเข้าเรียน อีกที 4 โมงเย็น ไปเลิก 2 ทุ่ม เพราะต้องเล่นตอนที่คนไม่ใช้เครื่อง

อยากหาเงินช่วยที่บ้าน ตัดสินใจไปเล่นตามคาเฟ่ เริ่มจากแลกข้าวไข่เจียว พัฒนามาเป็น 50 บาท กิจวัตรของเค้ากลายเป็น เล่นคาเฟ่เสร็จตี 4 มาโรงเรียนตี 5 อาศัยหลับ ๆ ตื่น ๆ ในห้องเรียน เลิกเรียนซ้อมยาวถึง 2 ทุ่ม กลับบ้านอาบน้ำไปเล่นที่คาเฟ่ต่อ

เรื่องราวความขยันของเขาเริ่มเดินทางผ่านปากต่อปาก ปากต่อปาก ไปในวงการดนตรี จนทำให้ใคร ๆ ชี้มาทางเดียวกันว่า ถ้าหามือคีย์บอร์ด ต้องหาเขา
จากการอ่านโน้ตไม่ออก เค้าใช้วิธีแกะเพลงจากการฟัง ใช้ความรู้สึกตามที่คุณพ่อสอน ดังนั้นเพลงไหนที่เขาเคยแกะเค้าเล่นได้ เพลงไหนที่เขาไม่เคยแกะ เขาจะกลายเป็นแกะดำของวง

ครั้งหนึ่งเขาโดนไล่ออกจากโรงแรมใหญ่ เพราะเจอกับเพลงที่เล่นไม่ได้ ที่นั้นเป็นโรงแรมที่นักร้องได้รางวัลทุกคนต้องมาร้อง ก่อนที่เขาจะออกจากโรงแรม เขาถือสมุดจดของเขา เข้าไปหานักร้องที่ร้องเป็นคนสุดท้ายในคืนนั้น

“พี่ครับ เขาเชิญผมออกแล้ว เขาไม่จ้างผมแล้ว ผมขอลายเซ็นพี่หน่อย ของถ่ายรูปกับพี่เป็นที่ระลึกได้ไหมครับ”

ในสมุดบันทึกของเค้ามันเขียนว่า
“ให้น้องประสบความสำเร็จนะคะ วันหนึ่งถ้ามีชื่อเสียงโด่งดัง ดังแล้วอย่าลืมพี่นะ มาเล่นคอนเสิร์ตให้พี่ด้วย”

ในวันนั้นมันเป็นประสบการณ์ที่สอนเขาว่า
“ไม่มีใครเจ๊ง ไม่มีใครเก่งกว่าใคร ชีวิตต้องเรียนรู้ตลอด”

เขาใช้เวลา 20 กว่าปีจากวันนั้น มีชื่อเสียงในวงการดนตรี และกลับไปเล่นคอนเสิร์ตให้กับพี่ที่เซ็นในสมุดให้เค้า

เพลงที่เค้าเล่นจบลง เค้าคว้าไมค์เล่าเรื่องข้อความในสมุด

เวทีเปลี่ยนจากการแสดงดนตรี เป็นทะเลน้ำตาของนักร้อง นักดนตรี และผู้ชม
ทั้งหมดนี้ คือ ชีวิตของ คุณหนึ่ง จักวาร เสาธงยุติธรรม Producer ผู้อยู่เบื้องหลังนักร้องชื่อดังมากมาย

“ทุกคนอยากเป็นผมตอนนี้ มีใครอยากเป็นผมตอนเด็กไหม”

***เบื้องหลังความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ มักมีความพยายามอันสูงส่ง
#สู้ๆนะครับ
Cr.พี่หนึ่ง จักรวาล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น