"พูดธรรมะจนชิน"
พระอาจารย์ได้สอนคนที่ศึกษาธรรมะมานานว่า
ทุกวันนี้เราพูดธรรมะจนชิน พูดจนเคยปาก แต่ไม่ทำในสิ่งที่ตนพูด หรือไม่รู้สึกกระดากอายในสิ่งที่ตนพูด ตนสอนคนอื่น แต่ตนทำไม่ได้ หรือไม่ได้คิดจะทำ จนกลายเป็น “คนมือถือสากปากถือศีล” ในสายตาคนอื่นไปแล้ว
- พูดธรรมะยันนิพพาน แต่สันดานเอาแต่ใจ
- ชอบโกหกตอแหล ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง
- ใครว่ากล่าวตักเตือนไม่ได้ เราโกรธ
- ยังบ้าหาเงิน บ้าแต่งตัว บ้าเล่นเน็ต เล่นเฟส อยู่ว่างๆไม่ได้
- เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ก็แสดงอารมณ์ต่างๆนานาออกมา
- อยากทำอะไรก็ทำ อยากพูดอะไรก็พูด อยากกินอะไรก็กิน อยากไปไหนก็ไป สนองกิเลส หรือทำตามความคิดอยู่ตลอดเวลา
ยิ่งศึกษาธรรมะมามาก ก็ยิ่งมีอีโก้มาก ชอบทำตัวเป็นผู้รู้ ชอบมองคนอื่นว่าด้อยกว่าเรา หลงว่าตนรู้ ทั้งที่ตนเองยังทิ้ง ยังวางสิ่งที่ตนยึดไม่ได้เลย
คนที่มีธรรมะที่แท้จริง เขาดูตรงที่ใครทิ้งสิ่งที่ตนยึด ตนหลงได้มาก ใครละกิเลสได้มาก ไม่ได้ดูว่า ใครอ่านมา ฟังมา จำมา หรือพูดธรรมะได้มาก
หยุดทำตัวแสนรู้ได้แล้ว!
ชีวิตหลังความตาย มันอันตราย นรกไม่ใช่เรื่องโกหก ยังไม่สาย ที่จะเริ่มต้นใหม่ แค่อ่านมา ฟังมา จำมา มันไม่สามารถทำให้เราพ้นนรกได้
--------------------------
ธรรมะ! ขี้เมาก็พูดได้
แต่สอนตน ฝึกตน ดัดสันดานตน
ทิ้งสิ่งที่ตนยึด และหยุดแสวงหา
เราทำได้ไหม?
--------------------------
เครดิต ไม่คิด ไม่มี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น