วันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2560

❉❉...หลังพ่อตาย แม่มีภาระใหญ่หลวง คือ ลูก 10 คน ยายจึงแบ่งผมกับพี่ชายอีก 2 คนมาเลี้ยง ยายก็ไม่ใช่เศรษฐีที่ไหน เราจึงได้เรียนรู้การ "หาเลี้ยงชีพ" มาตั้งแต่เล็ก .... ❉❉...ยายขายอาหารที่โรงเรียนประถมใกล้บ้าน เมนูหลักๆ ที่ขายคือ ข้าวต้มเครื่อง ขนมถ้วย ลอดช่องรวมมิตร มันเทศต้ม มันเทศเชื่อม พุทราเชื่อม .... ❉❉...แทบทุกอย่างเริ่มจาก "ไม่มีอะไร" รวมถึงชีวิตของพวกเราด้วย แต่ใน "ความไม่มี" เราทำให้มัน "มี" ขึ้นมาได้ .... ❉❉...ที่ดินแปลงเล็กมาก ถูกยกร่อง และปลูกมันเทศ เมื่อโตได้ที่ก็ทยอยขุด หัวเล็กต้ม เสียบไม้ขาย หัวใหญ่ หั่น แช่น้ำปูนใส แล้วเชื่อมขาย .... ❉❉...ขนมถ้วย ก็ต้องโม่แป้งเอง ปอกมะพร้าว ขูดมะพร้าว คั้นกะทิเอง, ลอดช่อง เม็ดทับทิม ก็ต้องนวดแป้ง คลึง แล้วตัดเป็นเส้นหรือเป็นเม็ดทับทิม จากนั้นลวกน้ำร้อน ใส่ลงในกะทิ น้ำเชื่อมก็เคี่ยวเอง ทั้งหมดทำให้เป็นเรื่องสนุก อย่าทำให้เป็นเรื่อง "ภาระ" .... ❉❉...เมื่อเราสนุกที่จะ "ทำกิน" เราก็จะ "มีกิน .... ❉❉...ปีนต้นพุทรา เก็บลูกมาเชื่อม เจออะไร คิด แล้วแปลงให้เป็นรายได้ให้เป็น ในวัยเด็ก เรื่องพวกนี้เป็น magic เป็นเรื่องสนุกสำหรับเราสามคนพี่น้อง .... ❉❉...ยายบอกชีวิตจริงกับเรา เพื่อให้เรา "สู้ชีวิต" การที่เรายอมรับความจริงของชีวิตแล้วกล้าที่จะสู้ เราจะไม่อาย ไม่เหนื่อย ไม่เอาแต่ "วาดวิมานในอากาศ" .... ❉❉...โตหน่อยมาอยู่กับแม่ ก็ต้องสอยมะพร้าว หาบมะพร้าว บางช่วงเปลี่ยนเป็น "ทำตาล" คือ ทำน้ำตาลมะพร้าว วิชาใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นกับเรา แม่ปลูกพริก เราก็ต้องเก็บพริก แถมไปรับจ้างไร่อื่นเก็บ เพื่อหารายได้เป็นเงินออมส่วนตัวด้วย ปลูกมะเขือ ปลูกฝ้าย ปลูกหอม ปลูกแตงโม ฯลฯ บางครั้งก็นึกอัศจรรย์ใจว่า ผู้หญิงที่จบแค่ ป.4 ทำไมทำมาหากินได้หลายอาชีพ โดยไม่เคยจำนนกับชีวิตเลย ... ❉❉...ไม่เหมือนคนสมัยนี้ รู้ไม่กี่เรื่อง หากินไม่เป็น ใจไม่สู้ อยู่ก็ท้อ เพราะ "ฝันไม่เป็นจริง" สักที .... ❉❉...หากคุณเป็นพ่อคนแม่คน จงให้ลูก "รู้จักชีวิต" ตามความเป็นจริง คุณไม่สามารถปั้นแต่งชีวิต เพียงเพราะว่าคุณรักลูก อยากให้ลูกสุขสบาย ไปได้ทั้งชีวิตของคุณหรอก วิชาที่ดีที่สุดที่พ่อแม่พึงให้แก่ลูก นอกเหนือจากวิชา "รู้จักลำบาก" แล้ว ต้องให้เขา "รู้จักชีวิต-ยอมรับชีวิต" และ "สู้ชีวิต" ให้เป็นด้วย .... ❉❉...แม่ไม่เคยจำนน ไม่เคยยอมแพ้ และไม่เคยทำตัวเป็นวีรสตรี ให้ลูกๆ อยู่สบาย โดยที่แม่จะแบกรับทุกอย่างไว้เอง .... ❉❉...แต่แม่ให้เราเห็นชีวิต และเข้ามามีส่วนสู้ชีวิต เพื่อทำชีวิตให้ "ดีกว่าเดิม" ไปด้วยกัน ไม่ใช่ว่าเราจะชนะมันได้ทุกครั้ง แต่เมื่อยามแพ้ เราก็มีกันและกัน เดินหน้าต่อไปด้วยกัน ... ❉❉...ปลูกไอ้นี่ ขายไม่ได้ ก็เปลี่ยนใหม่ไปทำอย่างอื่น ไอ้นี่ขายไม่ได้ ก็เปลี่ยนไปขายห่อหมก ฯลฯ ... ❉❉...คนทำกิน ไม่มีวันอดกิน ทั้งแม่และยายบอกกับเรา .... ❉❉...ผ่านชีวิตล้มลุกคลุกคลานมาตั้งแต่เล็ก แต่เราถูกหล่อหลอมให้เป็น "นักสู้" เราจึงเรียนรู้ที่จะสู้ต่อได้เสมอ ไม่จำนน ไม่พ่ายแพ้ ไม่ท้อแท้ ไม่คิดทำลายชีวิตของตัวเอง ... ❉❉...ไม่เอาจมูกพ่อแม่มาหายใจ แต่หายใจและเหนื่อยหอบไปด้วยกัน มันทำให้ลูกๆ รู้ค่าและซึ้งในคำว่า "พระคุณ" และมันทำให้พ่อแม่ "เคารพในชีวิตของลูกๆ" ไม่พันผูกเสมือนว่า ฉันสร้างพวกแกมา พวกแกเป็นของฉัน จนพ่อแม่หลายคน "ฝันแทนลูก" ลูกจึงไม่ต่างจาก "สัตว์เลี้ยงที่น่าเอ็นดู" .... ❉❉...เรียนรู้จะเป็น "พรหมของลูก" ด้วยการทำให้ลูก "เห็นโลก" พระพรหมไม่เพียงแต่สร้างโลก แต่ทำให้คนเห็นโลก เข้าใจโลก และจรรโลงโลกต่อไป ไม่งั้นท่านก็เป็นได้แค่ "พรมของลูก" เท่านั้นเอง แล้วท่านจะเป็นพรมปูทางให้ลูกเหยียบเดินไปได้ไกลสักแค่ไหน วันหนึ่งคุณก็ต้องแก่ เจ็บ และตายจากไป ถึงเวลานั้น พวกเขาจะเดินต่อเองได้อย่างไรกันล่ะคุณ? .... ❉❉...คลอดเขาออกมาครบ 32 ก็ให้เขาใช้ทั้ง 32 นั้นให้ครบ อย่าเลี้ยงลูกให้งอมืองอเท้าหรือไม่รู้จักใช้มือใช้เท้า เพราะพ่อแม่เป็นมือเป็นเท้าให้ตลอด .... ❉❉...รักลูก อย่าทำร้ายลูก สอนให้ลูก "รักชีวิตและสู้ชีวิต" ให้เป็น ^^ --ปู จิตกร บุษบา--

❉❉...หลังพ่อตาย แม่มีภาระใหญ่หลวง คือ ลูก 10 คน ยายจึงแบ่งผมกับพี่ชายอีก 2 คนมาเลี้ยง ยายก็ไม่ใช่เศรษฐีที่ไหน เราจึงได้เรียนรู้การ "หาเลี้ยงชีพ" มาตั้งแต่เล็ก
....
❉❉...ยายขายอาหารที่โรงเรียนประถมใกล้บ้าน เมนูหลักๆ ที่ขายคือ ข้าวต้มเครื่อง ขนมถ้วย ลอดช่องรวมมิตร มันเทศต้ม มันเทศเชื่อม พุทราเชื่อม
....
❉❉...แทบทุกอย่างเริ่มจาก "ไม่มีอะไร" รวมถึงชีวิตของพวกเราด้วย แต่ใน "ความไม่มี" เราทำให้มัน "มี" ขึ้นมาได้
....
❉❉...ที่ดินแปลงเล็กมาก ถูกยกร่อง และปลูกมันเทศ เมื่อโตได้ที่ก็ทยอยขุด หัวเล็กต้ม เสียบไม้ขาย หัวใหญ่ หั่น แช่น้ำปูนใส แล้วเชื่อมขาย
....
❉❉...ขนมถ้วย ก็ต้องโม่แป้งเอง ปอกมะพร้าว ขูดมะพร้าว คั้นกะทิเอง, ลอดช่อง เม็ดทับทิม ก็ต้องนวดแป้ง คลึง แล้วตัดเป็นเส้นหรือเป็นเม็ดทับทิม จากนั้นลวกน้ำร้อน ใส่ลงในกะทิ น้ำเชื่อมก็เคี่ยวเอง ทั้งหมดทำให้เป็นเรื่องสนุก อย่าทำให้เป็นเรื่อง "ภาระ"
....
❉❉...เมื่อเราสนุกที่จะ "ทำกิน" เราก็จะ "มีกิน
....
❉❉...ปีนต้นพุทรา เก็บลูกมาเชื่อม เจออะไร คิด แล้วแปลงให้เป็นรายได้ให้เป็น ในวัยเด็ก เรื่องพวกนี้เป็น magic เป็นเรื่องสนุกสำหรับเราสามคนพี่น้อง
....
❉❉...ยายบอกชีวิตจริงกับเรา เพื่อให้เรา "สู้ชีวิต"
การที่เรายอมรับความจริงของชีวิตแล้วกล้าที่จะสู้ เราจะไม่อาย ไม่เหนื่อย ไม่เอาแต่ "วาดวิมานในอากาศ"
....
❉❉...โตหน่อยมาอยู่กับแม่ ก็ต้องสอยมะพร้าว หาบมะพร้าว บางช่วงเปลี่ยนเป็น "ทำตาล" คือ ทำน้ำตาลมะพร้าว วิชาใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นกับเรา แม่ปลูกพริก เราก็ต้องเก็บพริก แถมไปรับจ้างไร่อื่นเก็บ เพื่อหารายได้เป็นเงินออมส่วนตัวด้วย ปลูกมะเขือ ปลูกฝ้าย ปลูกหอม ปลูกแตงโม ฯลฯ บางครั้งก็นึกอัศจรรย์ใจว่า ผู้หญิงที่จบแค่ ป.4 ทำไมทำมาหากินได้หลายอาชีพ โดยไม่เคยจำนนกับชีวิตเลย
...
❉❉...ไม่เหมือนคนสมัยนี้ รู้ไม่กี่เรื่อง หากินไม่เป็น ใจไม่สู้ อยู่ก็ท้อ เพราะ "ฝันไม่เป็นจริง" สักที
....
❉❉...หากคุณเป็นพ่อคนแม่คน จงให้ลูก "รู้จักชีวิต" ตามความเป็นจริง คุณไม่สามารถปั้นแต่งชีวิต เพียงเพราะว่าคุณรักลูก อยากให้ลูกสุขสบาย ไปได้ทั้งชีวิตของคุณหรอก วิชาที่ดีที่สุดที่พ่อแม่พึงให้แก่ลูก นอกเหนือจากวิชา "รู้จักลำบาก" แล้ว ต้องให้เขา "รู้จักชีวิต-ยอมรับชีวิต" และ "สู้ชีวิต" ให้เป็นด้วย
....
❉❉...แม่ไม่เคยจำนน ไม่เคยยอมแพ้ และไม่เคยทำตัวเป็นวีรสตรี ให้ลูกๆ อยู่สบาย โดยที่แม่จะแบกรับทุกอย่างไว้เอง
....
❉❉...แต่แม่ให้เราเห็นชีวิต และเข้ามามีส่วนสู้ชีวิต เพื่อทำชีวิตให้ "ดีกว่าเดิม" ไปด้วยกัน ไม่ใช่ว่าเราจะชนะมันได้ทุกครั้ง แต่เมื่อยามแพ้ เราก็มีกันและกัน เดินหน้าต่อไปด้วยกัน
...
❉❉...ปลูกไอ้นี่ ขายไม่ได้ ก็เปลี่ยนใหม่ไปทำอย่างอื่น ไอ้นี่ขายไม่ได้ ก็เปลี่ยนไปขายห่อหมก ฯลฯ
...
❉❉...คนทำกิน ไม่มีวันอดกิน ทั้งแม่และยายบอกกับเรา
....
❉❉...ผ่านชีวิตล้มลุกคลุกคลานมาตั้งแต่เล็ก แต่เราถูกหล่อหลอมให้เป็น "นักสู้" เราจึงเรียนรู้ที่จะสู้ต่อได้เสมอ ไม่จำนน ไม่พ่ายแพ้ ไม่ท้อแท้ ไม่คิดทำลายชีวิตของตัวเอง
...
❉❉...ไม่เอาจมูกพ่อแม่มาหายใจ แต่หายใจและเหนื่อยหอบไปด้วยกัน มันทำให้ลูกๆ รู้ค่าและซึ้งในคำว่า "พระคุณ" และมันทำให้พ่อแม่ "เคารพในชีวิตของลูกๆ" ไม่พันผูกเสมือนว่า ฉันสร้างพวกแกมา พวกแกเป็นของฉัน จนพ่อแม่หลายคน "ฝันแทนลูก" ลูกจึงไม่ต่างจาก "สัตว์เลี้ยงที่น่าเอ็นดู"
....
❉❉...เรียนรู้จะเป็น "พรหมของลูก" ด้วยการทำให้ลูก "เห็นโลก" พระพรหมไม่เพียงแต่สร้างโลก แต่ทำให้คนเห็นโลก เข้าใจโลก และจรรโลงโลกต่อไป ไม่งั้นท่านก็เป็นได้แค่ "พรมของลูก" เท่านั้นเอง แล้วท่านจะเป็นพรมปูทางให้ลูกเหยียบเดินไปได้ไกลสักแค่ไหน วันหนึ่งคุณก็ต้องแก่ เจ็บ และตายจากไป ถึงเวลานั้น พวกเขาจะเดินต่อเองได้อย่างไรกันล่ะคุณ?
....
❉❉...คลอดเขาออกมาครบ 32 ก็ให้เขาใช้ทั้ง 32 นั้นให้ครบ อย่าเลี้ยงลูกให้งอมืองอเท้าหรือไม่รู้จักใช้มือใช้เท้า เพราะพ่อแม่เป็นมือเป็นเท้าให้ตลอด
....
❉❉...รักลูก อย่าทำร้ายลูก สอนให้ลูก "รักชีวิตและสู้ชีวิต" ให้เป็น ^^

--ปู จิตกร บุษบา--

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น