"จิตใจดีงาม คือ เครื่องหมายตามรายทางที่ทำไว้ให้ตัวเอง
ไม่ว่าคุณจะช่วยเหลือใคร การณ์ไกลออกไปมันก็คือการช่วยเหลือตัวเอง
บางทีตอนนี้อาจไม่ได้รับรู้ แต่สุดท้ายมันก็วนกลับมาหา"
ทะเลทรายซาฮาร่า หรือที่เรียกว่า "ทะเลทรายมรณะ" ชะตาชีวิตของผู้ที่เข้าไป คือเข้าได้ออกไม่ได้ จนเมื่อปี 1814 คณะโบราณคดีคณะหนึ่งได้ทำลายคำสาปนี้
เวลานั้นทะเลทรายเต็มไปด้วยเศษซากกระดูก หัวหน้าคณะเลยให้ทุกคนหยุดตรงบริเวณนั้น หาเนินที่สูงหน่อย แล้วขุดหลุมฝังกระดูกเหล่านั้น ทั้งยังหากิ่งไม้หรือก้อนหินทำป้ายปักหลุมศพ
หากทว่า ในทะเลทราย กระดูกช่างมากมายเหลือเกิน งานของการฝังกระดูกก็ใช้เวลาไปมาก คนในคณะบ่น "พวกเรามาเพื่อสืบค้นโบราณวัตถุ ไม่ใช่มาช่วยเก็บซากคนตายนะ"
หัวหน้าคณะก็ยังคงดื้อดึงแล้วตอบว่า "กองกระดูกทุกๆ กอง ล้วนแต่เคยเป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพ จะทนเห็นพวกเขานอนกองในที่อ้างว้างเปล่าเปลี่ยวได้หรือ?"
หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ เหล่านักโบราณคดีก็ได้ค้นพบโบราณวัตถุที่เป็นซากและรอยเท้ามนุษย์โบราณซึ่งทำให้ชาวโลกตื่นตะลึง!
เมื่อเวลาที่กำลังจะกลับออกมา ปรากฎว่า เกิดพายุ หลายวันหลายคืน ไม่เห็นดวงอาทิตย์ เข็มทิศก็ใช้การไม่ได้ เหล่านักโบราณคดีถึงกับหลงทิศ อาหารกับน้ำดื่มเริ่มขาดแคลน พวกเขาเกิดความเข้าใจแล้วว่า ทำไมเพื่อนร่วมอาชีพเหล่านั้นถึงไม่อาจกลับออกไปได้
ในห้วงวิกฤตนั้น หัวหน้าได้พูดขึ้นว่า "ไม่ต้องสิ้นหวัง ตอนขามาพวกเราได้ทำเครื่องหมายตามรายทางทิ้งไว้" พวกเขาจึงได้เดินไปตามแนวป้ายหลุมศพ สุดท้ายก็สามารถเดินออกจากทะเลมรณะได้
ตอนให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของ The Times ทั้งหัวหน้าคณะและคนในคณะต่างทอดถอนใจ
"จิตใจดีงาม คือ เครื่องหมายตามรายทางที่ทำไว้ให้ตัวเอง ในทะเลทราย
จิตใจดีงาม คือ เครื่องหมายตามรายทางที่ทำให้เห็นหนทางกลับบ้าน
บนทางเดินชีวิต จิตใจดีงาม คือ เข็มทิศของจิตวิญญาณ
ทำให้พวกเราไม่หลงทางตลอดไป
ไม่ว่าคุณจะช่วยเหลือใคร การณ์ไกลออกไปมันก็คือการช่วยเหลือตัวเอง
บางทีตอนนี้อาจไม่ได้รับรู้ แต่สุดท้ายมันก็วนกลับมาหา
ทั้งหมดที่คุณทำให้คนอื่น นั่นก็คือได้ทำให้ตัวเองด้วย
แต่ไหนแต่ไรมามันเป็นคำสอนที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรให้คนอื่น คนที่จะได้รับผลจริงๆ ไม่ใช่คนอื่น...
แต่เป็นตัวคุณเอง!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น