7 ขั้นตอนสร้างสุข
ออกอาการเบื่อโลก ดีไม่ดีอาจออกอาการวีนแตกกับคนรอบข้างยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ว่าแล้ว 24/7 ก็มีวิธีเด็ดมาช่วยให้หลายคนผ่อนคลาย ใจเย็นลง และช่วยลดดีกรีความร้อนแรงด้วยการสะกดจิตบำบัด (Hypnotherapy)
สงสัยกันอยู่ละสิว่ามันจะเวิร์กได้อย่างไร วิธีการสะกดจิตจะเหมือนกับที่เราเคย ๆ เห็นกันอยู่ตามภาพยนตร์หรือละครต่าง ๆ ที่มีคนถูกสะกดจิตนอนลงและมีผู้สะกดจิต (อาจจะเป็นแพทย์หรือนักจิตวิทยา) นั่งอยู่ข้าง ๆ เพื่อทำการสะกดจิต พอเสร็จปุ๊บก็ดีดนิ้วดังเป๊าะ ! คนที่ถูกสะกดจิตก็จะตื่นขึ้นมาปั๊บ
วิธีการนี้นอกจากจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาพฤติกรรมบางอย่างที่แก้ไขไม่หายอันเกิดจากจิตใต้สำนึกสั่งให้ทำแล้ว ยังสามารถช่วยในการบรรเทาโรคต่าง ๆ อย่างเช่น โรคผิวหนัง ไมเกรน หรือแผลในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย
นอกจากนี้คุณยังสามารถที่จะใช้วิธีนี้มาช่วยขจัดความเครียด เสริมสร้างความมั่นใจ ทำให้อารมณ์ดี หรืออาจจะใช้เพื่อให้เลิกพฤติกรรมแย่ ๆ ที่ตัวเองอยากจะเลิกซะเหลือเกิน อย่างเช่นการสะกดจิตเพื่อให้ตัวเองคิดบวก หรืออารมณ์ดีก็ได้นะ เรามาเริ่มต้นด้วย…
หาที่ที่สงบ ไร้เสียงรบกวน เอาไว้ใช้สำหรับทำการสะกดจิต
หายใจเข้าช้า ๆ และลึก (จะนั่งหรือนอนก็ได้นะคะ) กลั้นไว้สัก 2-3 วินาที แล้วค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออก พร้อมบอกกับตัวเองว่า "จงผ่อนคลาย" ทำอย่างนี้ซ้ำสัก 3-4 ครั้ง
รวบรวมสมาธิเพ่งไปที่จุดใดจุดหนึ่ง อาจเป็นรูปภาพบนฝาผนัง โต๊ะหรือเก้าอี้ก็ได้
แบ่งลมหายใจออกเป็น 3 ครั้ง โดยให้ครั้งที่หนึ่งออกมาเพื่อการผ่อนคลาย ครั้งที่สองเพื่อเตรียมเข้าสู่ภาวะสะกดจิต และครั้งที่สามเพื่อเข้าสู่ภาวะสะกดจิต
ควรทำตัวให้สบาย ปลดปล่อยความเครียดออกไป พร้อมกับหายใจอย่างเป็นระบบ
หลับตาจินตนาการว่ามีบันไดอยู่ 10 ขั้น ที่จะช่วยให้คุณก้าวไปสู่ในดินแดนที่วิเศษ อย่างเช่น บนก้อนเมฆ ภูเขาหรือท้องทะเล แล้วนับถอยหลังจาก 10 ไปถึง 1 ในจินตนาการขอให้นึกว่าคุณสามารถจะรับรู้ถึงกลิ่น เสียง และรสสัมผัสได้
สุดท้ายนึกถึงแต่สิ่งที่ดี ๆ รวมทั้งเป้าหมายที่กำหนดไว้ในใจ เช่น ฉันจะรู้สึกสดใส ไร้ทุกข์ เสร็จแล้วก็ให้นับ 1 ถึง 10 อย่างช้า ๆ พร้อมบอกกับตัวเองว่า "ฉันจะมีความสุขกับการผ่อนคลายนี้" แล้วลืมตาขึ้นมา
วิธีนี้อาจหาเวลาทำทุก ๆ เช้าหลังตื่นนอนก็ได้ ใช้เวลาเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น ง่าย ๆ แค่นี้ ก็ทำให้ตัวคุณเองรู้สึกสุข สดใส และสบาย พร้อมสำหรับเช้าวันใหม่ที่ไม่ใช่เช้าเดิม ๆ แบบวันเก่า ๆ อีกแล้วล่ะ
รู้ไหมว่า...?
ในการดำเนินชีวิตประจำวัน เราใช้จิตสำนึกเพียง 5-7% เท่านั้น อีกประมาณ 93% เป็นแรงผลักดันให้สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้โดยที่ไม่รู้ตัว อาจก่อเกิดพฤติกรรมทั้งด้านบวกและด้านลบ
ข้อควรระวังในการสะกดจิตตัวเอง คือ ไม่ควรสั่งจิตด้วยคำพูดที่ขึ้นต้นว่า "อย่า" หรือ "ไม่" เพราะจิตใต้สำนึกของคนเราจะไม่เข้าใจในคำสั่งนี้ อาจเปลี่ยนไปใช้คำว่า "ควรจะ…" หรือ "จง…" จะดีกว่า นอกจากนี้การนั่งสมาธิก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้การสะกดจิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก 247citymagazine
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น