วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สัญขาตญานแมงป่องมีอยู่วันหนึ่ง เจ้าแมงป่องตัวหนึ่งไต่ไปมาตามริมผั่งน้ำจน เซ็งชีวิตเลยเกิดความคิดขึ้นมาว่า ถ้าได้ข้ามน้ำไปยังฝั่งโน้น คงมีอะไรให้ทำมากกว่าการไต่ไปมาอยู่ที่เดิมอย่างซ้ำซากเป็นแน่มันมองหาวิธีที่จะข้ามน้ำไปยังฝั่งโน้นอยู่หลายวัน และในที่สุดโอกาสก็มาถึงจนได้ เมื่อมันพบกบตัวหนึ่งกำลังจะว่ายข้ามน้ำไปยังฝั่งตรงข้ามพอดี เจ้าแมงป่องเห็นเช่นนั้น จึงขอเป็นผู้โดยสารขี่หลังกบไปชมวิวฝั่งโน้นบ้าง กบนึกสังหรณ์ใจแปลกๆ จึงถามว่า “แมงป่องเพื่อนรัก เธอจะรับประกันได้อย่างไรล่ะว่า เมื่อฉันให้เธอขี่หลังข้ามไปฝั่งโน้นแล้ว เธอจะไม่แว้งมาต่อยฉัน”“กบเพื่อนรัก ทำไมจึงมองฉันในแง่ร้ายเช่นนั้น ถ้าคนอย่างฉันไม่มีคุณธรรมต่อเพื่อนเช่นเธอเสียแล้ว ในโลกนี้คงหาคนดีไม่ได้อีกแล้ว” “มั่นใจนะว่าเธอจะไม่ต่อยฉันกลางแม่น้ำแน่ๆ” กบคาดคั้น“โธ่เพื่อนเอ๋ย ถ้าฉันต่อยเธอ ฉันก็จมไปพร้อมๆ กับเธอน่ะสิ” แมงป่องอธิบายอย่างสมเหตุสมผล“เออ จริงของเธอสินะ มาสิ ถ้างั้นเธอขึ้นขี่หลังฉันได้เลย เราจะข้ามไปฝั่งโน้นด้วยกัน”ว่าแล้ว เจ้าแมงป่องก็ได้ขึ้นขี่หลังกบสมใจ กบน้อยพาเพื่อนร่วมทางลอยไปสักพักหนึ่งก็จะถึงฝั่ง พอเห็นฝั่งเคลื่อนตัวมาใกล้ทุกที เหลืออีกเพียงศอกเดียวเท่านั้น ตอนนั้นเองที่แมงป่องเผลอตัวต่อยหลังกบเข้าอย่างถนัดถนี่ กบร้องด้วยความเจ็บปวดขึ้นสุดเสียง พอรู้สึกตัว กบก็หันมาถามแมงป่องว่า“ไหนเธอรับปากว่าจะไม่ต่อยฉัน แล้วนี่เธอทำอะไรลงไป”“ไม่รู้สิ ฉันไมได้คิดจะต่อยเธอเลยนะ แต่มารู้สึกตัวอีกทีฉันก็ต่อยเธอไปแล้ว” แมงป่องตอบอย่างเสียไม่ได้ ไม่ยี่หระกับสิ่งที่ตนทำแม้สักนิดอนิจจา กบน้อยพอลอยแตะฝั่งก็ถึงแก่กรรมไป ส่วนแมงป่องก็ขึ้นฝั่งอย่างสบายใจ ดูไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรกับสิ่งที่ตนเป็นคนก่อแม้แต่น้อย...คำคำหนึ่งขึ้นมาทันที นั่นคือคำว่า “สันดาน” รู้สึกว่าในโลกนี้มีคนบางประเภทจริงๆ ที่เกิดมาแล้วทำตัวเป็น “อันธพาล” โดยสายเลือด โดยความเคยชินจนเป็นนิสัย เราไม่ทราบว่าคนที่รู้สึกมีความสุขเสมอกับการได้ทำร้ายคนอื่นทั้งโดยตรงและโดยอ้อมนั้น เขาเติบโตมาในสภาพแวดล้อมอย่างไร ได้รับการศึกษามาอย่างไร แต่พอมาเจอกับเรา เขาก็ได้กลายเป็นคนที่มีความสุขกับการเป็นคนเลวไปเสียแล้ว สำหรับคนประเภทนี้ คุณคงไม่ต้องไปทำร้ายหรือตอบโต้เขาอีกแล้ว การที่เขาเป็นคนเช่นนั้น นับว่าเป็นเคราะห์กรรมของเขามากพอแล้ว เพราะทั้งชีวิตนี้ คนเช่นนี้จะไม่ได้รับความรักจากใครเลย ลึกๆ แล้วคนที่มีความสุขกับการหาทุกข์ให้คนอื่นนั้น เขาเป็นคนน่าสงสาร คนอย่างนี้ควรได้รับความเห็นใจ มากกว่าจะซำ้เติมเขาการที่เขาเป็นคนเลว (โดยสันดาน) แล้วยังไม่รู้สึกตัวนั้น ก็ทำให้เขาสร้างกรรมหนักหนาสาหัสแก่ตัวเองมากพออยู่แล้ว เราไม่ควรจะเลวร่วมขบวนกับเขา ด้วยการหาวิธี “เอาคืน” แก่เขาเลยปล่อยเขาไปเถอะ ! การไม่ยุ่งกับคนประเภทนี้ คือวิธีรับมือที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งCr.นิทานเซน

สัญขาตญานแมงป่อง
มีอยู่วันหนึ่ง เจ้าแมงป่องตัวหนึ่งไต่ไปมาตามริมผั่งน้ำจน เซ็งชีวิตเลยเกิดความคิดขึ้นมาว่า ถ้าได้ข้ามน้ำไปยังฝั่งโน้น คงมีอะไรให้ทำมากกว่าการไต่ไปมาอยู่ที่เดิมอย่างซ้ำซากเป็นแน่
มันมองหาวิธีที่จะข้ามน้ำไปยังฝั่งโน้นอยู่หลายวัน และในที่สุดโอกาสก็มาถึงจนได้ เมื่อมันพบกบตัวหนึ่งกำลังจะว่ายข้ามน้ำไปยังฝั่งตรงข้ามพอดี เจ้าแมงป่องเห็นเช่นนั้น จึงขอเป็นผู้โดยสารขี่หลังกบไปชมวิวฝั่งโน้นบ้าง
กบนึกสังหรณ์ใจแปลกๆ จึงถามว่า
“แมงป่องเพื่อนรัก เธอจะรับประกันได้อย่างไรล่ะว่า เมื่อฉันให้เธอขี่หลังข้ามไปฝั่งโน้นแล้ว เธอจะไม่แว้งมาต่อยฉัน”
“กบเพื่อนรัก ทำไมจึงมองฉันในแง่ร้ายเช่นนั้น ถ้าคนอย่างฉันไม่มีคุณธรรมต่อเพื่อนเช่นเธอเสียแล้ว ในโลกนี้คงหาคนดีไม่ได้อีกแล้ว”
“มั่นใจนะว่าเธอจะไม่ต่อยฉันกลางแม่น้ำแน่ๆ” กบคาดคั้น
“โธ่เพื่อนเอ๋ย ถ้าฉันต่อยเธอ ฉันก็จมไปพร้อมๆ กับเธอน่ะสิ” แมงป่องอธิบายอย่างสมเหตุสมผล
“เออ จริงของเธอสินะ มาสิ ถ้างั้นเธอขึ้นขี่หลังฉันได้เลย เราจะข้ามไปฝั่งโน้นด้วยกัน”
ว่าแล้ว เจ้าแมงป่องก็ได้ขึ้นขี่หลังกบสมใจ กบน้อยพาเพื่อนร่วมทางลอยไปสักพักหนึ่งก็จะถึงฝั่ง พอเห็นฝั่งเคลื่อนตัวมาใกล้ทุกที เหลืออีกเพียงศอกเดียวเท่านั้น ตอนนั้นเองที่แมงป่องเผลอตัวต่อยหลังกบเข้าอย่างถนัดถนี่ กบร้องด้วยความเจ็บปวดขึ้นสุดเสียง พอรู้สึกตัว กบก็หันมาถามแมงป่องว่า
“ไหนเธอรับปากว่าจะไม่ต่อยฉัน แล้วนี่เธอทำอะไรลงไป”
“ไม่รู้สิ ฉันไมได้คิดจะต่อยเธอเลยนะ แต่มารู้สึกตัวอีกทีฉันก็ต่อยเธอไปแล้ว” แมงป่องตอบอย่างเสียไม่ได้ ไม่ยี่หระกับสิ่งที่ตนทำแม้สักนิด
อนิจจา กบน้อยพอลอยแตะฝั่งก็ถึงแก่กรรมไป ส่วนแมงป่องก็ขึ้นฝั่งอย่างสบายใจ ดูไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรกับสิ่งที่ตนเป็นคนก่อแม้แต่น้อย...
คำคำหนึ่งขึ้นมาทันที นั่นคือคำว่า “สันดาน” รู้สึกว่าในโลกนี้มีคนบางประเภทจริงๆ ที่เกิดมาแล้วทำตัวเป็น “อันธพาล” โดยสายเลือด โดยความเคยชินจนเป็นนิสัย เราไม่ทราบว่าคนที่รู้สึกมีความสุขเสมอกับการได้ทำร้ายคนอื่นทั้งโดยตรงและโดยอ้อมนั้น เขาเติบโตมาในสภาพแวดล้อมอย่างไร ได้รับการศึกษามาอย่างไร แต่พอมาเจอกับเรา เขาก็ได้กลายเป็นคนที่มีความสุขกับการเป็นคนเลวไปเสียแล้ว
สำหรับคนประเภทนี้ คุณคงไม่ต้องไปทำร้ายหรือตอบโต้เขาอีกแล้ว การที่เขาเป็นคนเช่นนั้น นับว่าเป็นเคราะห์กรรมของเขามากพอแล้ว เพราะทั้งชีวิตนี้ คนเช่นนี้จะไม่ได้รับความรักจากใครเลย ลึกๆ แล้วคนที่มีความสุขกับการหาทุกข์ให้คนอื่นนั้น เขาเป็นคนน่าสงสาร คนอย่างนี้ควรได้รับความเห็นใจ มากกว่าจะซำ้เติมเขา
การที่เขาเป็นคนเลว (โดยสันดาน) แล้วยังไม่รู้สึกตัวนั้น ก็ทำให้เขาสร้างกรรมหนักหนาสาหัสแก่ตัวเองมากพออยู่แล้ว เราไม่ควรจะเลวร่วมขบวนกับเขา ด้วยการหาวิธี “เอาคืน” แก่เขาเลย
ปล่อยเขาไปเถอะ !
การไม่ยุ่งกับคนประเภทนี้ คือวิธีรับมือที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง
Cr.นิทานเซน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น