วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

คำสอนของพ่อ “ท่านสุเมธ เคยขายเศษเหล็กไหม เศษเหล็กเหล่านั้นเวลาขาย ราคามันต่ำ คงได้เงินมาไม่กี่บาท แต่ถ้าเราเอาเศษเหล็กเหล่านั้นมาหลอมรวมกันเป็นแท่ง เวลาหลอมนี่เหล็กมันคงรู้สึกร้อนมาก พอหลอมเสร็จเรานำมาทำเป็นดาบ คงต้องตีให้แบนอีก เวลาตีก็ต้องคอยเอาไฟเผาให้ร้อน ตีไป เผาไปอยู่หลายรอบกว่าจะเป็นรูป เป็นร่างดาบตามที่ต้องการ ต้องผ่านความเจ็บปวด ความร้อนอยู่นาน แถมเมื่อเสร็จแล้ว จะให้สวยงามดังใจ ก็ต้องนำไปแกะสลักลวดลาย เวลาแกะลวดลายก็ต้องใช้ของแข็งมีคมมาตีให้เป็นลวดลายอีก แต่เมื่อเสร็จเป็นดาบที่งดงาม ก็จะมีคุณค่าที่สูงมาก เทียบกับเศษเหล็กคงต่างกันลิบลับ ..จะเห็นว่า กว่าที่เศษเหล็กไม่มีคุณค่ามากนัก จะกลายมาเป็นดาบที่งดงามนั้น ..ต้องผ่านอุปสรรคมามากมาย ทั้งความเจ็บปวดต่างๆ กว่าจะประสบความสำเร็จ ดังนั้นขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า “ใครที่ไม่เคยถูกตี ถูกทุบ เจอเรื่องเลวร้ายในชีวิตมาเลยนั้น จงอย่าได้หาญคิดทำการใหญ่”……. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงรับสั่งให้กำลังใจ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ในคราวหนึ่ง ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

คำสอนของพ่อ

“ท่านสุเมธ เคยขายเศษเหล็กไหม เศษเหล็กเหล่านั้นเวลาขาย ราคามันต่ำ คงได้เงินมาไม่กี่บาท
แต่ถ้าเราเอาเศษเหล็กเหล่านั้นมาหลอมรวมกันเป็นแท่ง เวลาหลอมนี่เหล็กมันคงรู้สึกร้อนมาก
พอหลอมเสร็จเรานำมาทำเป็นดาบ คงต้องตีให้แบนอีก
เวลาตีก็ต้องคอยเอาไฟเผาให้ร้อน ตีไป เผาไปอยู่หลายรอบกว่าจะเป็นรูป เป็นร่างดาบตามที่ต้องการ
ต้องผ่านความเจ็บปวด ความร้อนอยู่นาน แถมเมื่อเสร็จแล้ว จะให้สวยงามดังใจ ก็ต้องนำไปแกะสลักลวดลาย
เวลาแกะลวดลายก็ต้องใช้ของแข็งมีคมมาตีให้เป็นลวดลายอีก
แต่เมื่อเสร็จเป็นดาบที่งดงาม ก็จะมีคุณค่าที่สูงมาก เทียบกับเศษเหล็กคงต่างกันลิบลับ
..จะเห็นว่า กว่าที่เศษเหล็กไม่มีคุณค่ามากนัก จะกลายมาเป็นดาบที่งดงามนั้น
..ต้องผ่านอุปสรรคมามากมาย ทั้งความเจ็บปวดต่างๆ กว่าจะประสบความสำเร็จ
ดังนั้นขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า “ใครที่ไม่เคยถูกตี ถูกทุบ เจอเรื่องเลวร้ายในชีวิตมาเลยนั้น จงอย่าได้หาญคิดทำการใหญ่”…….

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงรับสั่งให้กำลังใจ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ในคราวหนึ่ง

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น