วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

นิทานสอนใจ ความจริงคือสิ่งที่เราต้องการจริงหรือ ตั้งแต่เด็กเรามักจะถูกสอนว่า ห้ามโกหก เดี๋ยวจะตกนรก หรือ เวลาที่ทำอะไรผิด ก็ขอให้บอกความจริงมา อย่าโกหก เพราะการยอมรับว่าตนเองผิดนั้น เป็นสิ่งที่ประเสริฐ หรือในอีกมุมหนึ่ง ตัวเราเองก็ไม่ชอบให้ใครมาพูดโกหกใส่เรา เพราะมันเหมือนกับว่าอีกฝ่ายไม่มีความจริงใจให้เรา แต่ถ้าทุกอย่างที่อยู่รอบข้างเรานั้น เข้ามาหาเราด้วยความจริงทั้งหมด คำถามก็คือ เราจะรับกับความเป็นจริงเหล่านั้นได้ทุกเรื่องหรือไม่ หรือถ้ารับได้ จะรับได้สักแค่ไหน ลองอ่านนิทานเหล่านี้ดูนะครับ เผื่อจะได้เห็นอะไรที่ซ่อนอยู่ในนิทาน และนำเอาไปสอนใจตนเองได้บ้างครับ เด็กคนหนึ่งเพิ่งถูกจับได้ว่าโกหก และพ่อของเด็กคนนี้ก็เป็นคนที่เข้าอกเข้าใจผู้อื่นดี มีหัวคิดทันสมัย พ่อรู้ดีกว่า ที่จริงเรื่องโกหกเรื่องนั้นมันไม่สำคัญหรอก แต่ที่สำคัญก็คือ การโกหกเท่ากับเป็นการทำผิดศีลธรรม ดังนั้น….. พ่อของเด็กคนนั้นจึงวางมือจากสิ่งที่ทำอยู่ และนั่งอธิบายให้ลูกฟัง โดยใช้ภาษาง่ายๆ ว่าทำไมลูกต้องพูดความจริงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม หรือกับใครก็ตาม….. ขณะนั้นเองเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ลูกก็อาสาจะไปรับโทรศัพท์ให้ พูดเสร็จก็วิ่งไปรับสายทันที “ใครโทรมาจ๊ะลูก” พ่อถาม “คุณลุง คนที่พ่อไปยืมเงินเขามาเมื่อวันก่อนจ๊ะพ่อ เขาอยากคุยกับพ่อหน่อย” ลูกวิ่งกลับมารายงาน “อ่อ งั้นลูกช่วยไปบอกลุงเขาทีว่า ตอนนี้พ่อไม่อยู่บ้าน” !!!! เพิ่งจะสอนลูกให้พูดความจริงๆไป หยกๆ แต่กลับให้ลูกโกหกเสียเอง หรืออีกเรื่องหนึ่ง ชายคนหนึ่งเดินผ่านร้านค้าแห่งหนึ่ง ร้านนี้มีชื่อว่า “ร้านขายความจริง” ด้วยความที่เขาเป็นคนที่ตรงไปตรงมา และต้องการความจริงในชีวิต เขาจึงเดินเข้าร้านไป และเดินเข้าไปถามพนักงานสาวในร้าน “ขอโทษนะครับ ร้านนี้ขายความจริงหรือครับ” เขาถามอย่างสนใจ “ใช่ค่ะ ร้านของเราขายแต่ความเป็นจริง และยังไม่ข้อมูลประกอบความเป็นจริงอีกมากมาย จะทำเป็นกราฟ แสดงให้เห็นก็ยังได้ถ้าคุณต้องการ” หญิงสาวตอบอย่างกระตือรือร้น “อืม… ผมเองก็เบื่อกับเรื่องของการโกหกหลอกลวงเต็มทนแล้ว งั้นผมขอซื้อความจริงล่ะกัน” ชายคนนั้นเสนอ หญิงสาวคนนั้นจึงพาชายหนุ่มคนนี้ไปหาพนักงานขายในร้านที่นั่งอยู่ในอีกแผนกหนึ่ง “นี่คือ พนักงานขาย เดี๋ยวเขาจะบริการคุณเอง เชิญนั่งค่ะ” หญิงสาวกล่าวจบก็เดินออกไปจากแผนก เมื่อเผชิญหน้ากับพนักงานขาย ชายหนุ่มก็เลยพูดขึ้นว่า “ผมมาซื้อความจริงครับ เอาแบบจริงแท้แน่นอนเลยนะครับ” พนักงานขายยิ้มพร้อมกับพูดว่า “คุณทราบราคาหรือยังครับ” “ยังเลยครับ แต่ผมพร้อมที่จะจ่ายไม่ว่าจะแพงแค่ไหนก็ตาม เพราะนี่คือสิ่งที่ผมต้องการ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างหนักแน่น “อืม. หากคุณซื้อความจริงนี้ไป คุณจะต้องแลกกับการที่จะไม่มีวันอยู่อย่างเป็นสุขอีกเลย คุณมั่นใจนะครับ” พนักงานขายถามย้ำ เมื่อได้ยินคำตอบจากพนักงานขาย ชายหนุ่มก็เริ่มอึ้งไป ไม่คิดว่า ราคามันจะแพงถึงเพียงนี้ “ข..ขอบคุณครับ งั้นผมขอคิดดูอีกทีก่อนนะครับ” พูดจบ พร้อมกับเดินออกจากร้านไป เดินไปคิดไปว่า จริงๆ แล้วเขาเองก็รู้สึกเศร้าอยู่เหมือนกันว่า ตนเองยังไม่พร้อมที่จะรับความจริงทุกเรื่องได้อย่างเต็มที่ เขายังอยากได้ยินคำโกหกเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้ตนเองมีความสุข และผ่อนคลายได้บ้าง เขายังต้องการฟังนิทานปรัมปรา และมีโอกาสได้เพ้อฝันถึงสิ่งที่ไม่ใช่ความเป็นจริง เพื่อให้ตนเองได้หลบพักจากโลกแห่งความเป็นจริงบ้าง เขายังต้องการคำแก้ตัวต่างๆ นานา เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับความจริงของตนเองในบางโอกาส……. แล้วท่านผู้อ่านล่ะครับ ยังคงต้องการในแบบที่ชายผู้ต้องการอยู่บ้างหรือเปล่าครับ **ขอขอบคุณนิทานจากหนังสือเรื่อง จะเล่าให้คุณฟัง ของ ฆอร์เฆ่ บูกาย แรงบันดาลใจในการเขียน ที่มา : https://prakal.wordpress.com/2016/07/22/นิทานสอนใจ-ความจริงคือส/ แชร์โดย #เคียวสุเกะ ภาพจากเน็ต

นิทานสอนใจ ความจริงคือสิ่งที่เราต้องการจริงหรือ

ตั้งแต่เด็กเรามักจะถูกสอนว่า ห้ามโกหก เดี๋ยวจะตกนรก หรือ เวลาที่ทำอะไรผิด ก็ขอให้บอกความจริงมา อย่าโกหก เพราะการยอมรับว่าตนเองผิดนั้น เป็นสิ่งที่ประเสริฐ หรือในอีกมุมหนึ่ง ตัวเราเองก็ไม่ชอบให้ใครมาพูดโกหกใส่เรา เพราะมันเหมือนกับว่าอีกฝ่ายไม่มีความจริงใจให้เรา แต่ถ้าทุกอย่างที่อยู่รอบข้างเรานั้น เข้ามาหาเราด้วยความจริงทั้งหมด คำถามก็คือ เราจะรับกับความเป็นจริงเหล่านั้นได้ทุกเรื่องหรือไม่ หรือถ้ารับได้ จะรับได้สักแค่ไหน

ลองอ่านนิทานเหล่านี้ดูนะครับ เผื่อจะได้เห็นอะไรที่ซ่อนอยู่ในนิทาน และนำเอาไปสอนใจตนเองได้บ้างครับ

เด็กคนหนึ่งเพิ่งถูกจับได้ว่าโกหก

และพ่อของเด็กคนนี้ก็เป็นคนที่เข้าอกเข้าใจผู้อื่นดี มีหัวคิดทันสมัย พ่อรู้ดีกว่า ที่จริงเรื่องโกหกเรื่องนั้นมันไม่สำคัญหรอก แต่ที่สำคัญก็คือ การโกหกเท่ากับเป็นการทำผิดศีลธรรม ดังนั้น…..

พ่อของเด็กคนนั้นจึงวางมือจากสิ่งที่ทำอยู่ และนั่งอธิบายให้ลูกฟัง โดยใช้ภาษาง่ายๆ ว่าทำไมลูกต้องพูดความจริงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม หรือกับใครก็ตาม….. ขณะนั้นเองเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

ลูกก็อาสาจะไปรับโทรศัพท์ให้ พูดเสร็จก็วิ่งไปรับสายทันที

“ใครโทรมาจ๊ะลูก” พ่อถาม

“คุณลุง คนที่พ่อไปยืมเงินเขามาเมื่อวันก่อนจ๊ะพ่อ เขาอยากคุยกับพ่อหน่อย” ลูกวิ่งกลับมารายงาน

“อ่อ งั้นลูกช่วยไปบอกลุงเขาทีว่า ตอนนี้พ่อไม่อยู่บ้าน” !!!!

เพิ่งจะสอนลูกให้พูดความจริงๆไป หยกๆ แต่กลับให้ลูกโกหกเสียเอง

หรืออีกเรื่องหนึ่ง

ชายคนหนึ่งเดินผ่านร้านค้าแห่งหนึ่ง ร้านนี้มีชื่อว่า “ร้านขายความจริง” ด้วยความที่เขาเป็นคนที่ตรงไปตรงมา และต้องการความจริงในชีวิต เขาจึงเดินเข้าร้านไป และเดินเข้าไปถามพนักงานสาวในร้าน

“ขอโทษนะครับ ร้านนี้ขายความจริงหรือครับ” เขาถามอย่างสนใจ

“ใช่ค่ะ ร้านของเราขายแต่ความเป็นจริง และยังไม่ข้อมูลประกอบความเป็นจริงอีกมากมาย จะทำเป็นกราฟ แสดงให้เห็นก็ยังได้ถ้าคุณต้องการ” หญิงสาวตอบอย่างกระตือรือร้น

“อืม… ผมเองก็เบื่อกับเรื่องของการโกหกหลอกลวงเต็มทนแล้ว งั้นผมขอซื้อความจริงล่ะกัน” ชายคนนั้นเสนอ

หญิงสาวคนนั้นจึงพาชายหนุ่มคนนี้ไปหาพนักงานขายในร้านที่นั่งอยู่ในอีกแผนกหนึ่ง

“นี่คือ พนักงานขาย เดี๋ยวเขาจะบริการคุณเอง เชิญนั่งค่ะ” หญิงสาวกล่าวจบก็เดินออกไปจากแผนก

เมื่อเผชิญหน้ากับพนักงานขาย ชายหนุ่มก็เลยพูดขึ้นว่า “ผมมาซื้อความจริงครับ เอาแบบจริงแท้แน่นอนเลยนะครับ”

พนักงานขายยิ้มพร้อมกับพูดว่า “คุณทราบราคาหรือยังครับ”

“ยังเลยครับ แต่ผมพร้อมที่จะจ่ายไม่ว่าจะแพงแค่ไหนก็ตาม เพราะนี่คือสิ่งที่ผมต้องการ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างหนักแน่น

“อืม. หากคุณซื้อความจริงนี้ไป คุณจะต้องแลกกับการที่จะไม่มีวันอยู่อย่างเป็นสุขอีกเลย คุณมั่นใจนะครับ” พนักงานขายถามย้ำ

เมื่อได้ยินคำตอบจากพนักงานขาย ชายหนุ่มก็เริ่มอึ้งไป ไม่คิดว่า ราคามันจะแพงถึงเพียงนี้

“ข..ขอบคุณครับ งั้นผมขอคิดดูอีกทีก่อนนะครับ” พูดจบ พร้อมกับเดินออกจากร้านไป

เดินไปคิดไปว่า จริงๆ แล้วเขาเองก็รู้สึกเศร้าอยู่เหมือนกันว่า ตนเองยังไม่พร้อมที่จะรับความจริงทุกเรื่องได้อย่างเต็มที่ เขายังอยากได้ยินคำโกหกเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้ตนเองมีความสุข และผ่อนคลายได้บ้าง เขายังต้องการฟังนิทานปรัมปรา และมีโอกาสได้เพ้อฝันถึงสิ่งที่ไม่ใช่ความเป็นจริง เพื่อให้ตนเองได้หลบพักจากโลกแห่งความเป็นจริงบ้าง เขายังต้องการคำแก้ตัวต่างๆ นานา เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับความจริงของตนเองในบางโอกาส…….

แล้วท่านผู้อ่านล่ะครับ ยังคงต้องการในแบบที่ชายผู้ต้องการอยู่บ้างหรือเปล่าครับ

**ขอขอบคุณนิทานจากหนังสือเรื่อง จะเล่าให้คุณฟัง ของ ฆอร์เฆ่ บูกาย แรงบันดาลใจในการเขียน

ที่มา : https://prakal.wordpress.com/2016/07/22/นิทานสอนใจ-ความจริงคือส/

แชร์โดย #เคียวสุเกะ

ภาพจากเน็ต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น