วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ธรรมะกับอธรรมนั้น ให้ผลไม่เสมอกัน ธรรมะให้ผลเป็นความสุขความเจริญ อธรรมนั้นให้ผลเป็นความทุกข์ ความเดือดร้อน แต่บุคคลที่ไม่ได้รับการศึกษา ไม่เข้าใจถึงผลแตกต่างของสองสิ่งนี้ ก็มัวเมาอยู่ในความสุข ประเภทที่เกิดขึ้นจากความไม่เป็นธรรม เช่น ความสุขด้วยความเพลิดเพลิน ด้วยการดื่มการกินการเล่น การเฮฮาสนุกสนานด้วยประการต่างๆ เขาเข้าใจว่า นั่นเป็นยอดของชีวิต เป็นความสุขที่เขาปรารถนา คนประเภทนั้นเป็นคนที่หลงผิด ชีวิตก็ตกต่ำลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งต้องสูญเสียสิ่งที่มีค่าของตนไป น่าสงสารน่าเห็นใจบุคคลประเภทอย่างนี้ เป็นหน้าที่ของเราทั้งหลายที่จะต้องช่วยกัน เพื่อจูงคนเหล่านั้น ให้พบกับสิ่งที่เป็นความหมายอันแท้จริงของชีวิต ถ้าเราจะสามารถไปจูงเขาเหล่านั้น ให้เกิดความรู้สึกนึกคิดในทางที่ถูกที่ชอบ ให้ดำเนินชีวิตในชีวิตใน ทางที่ตรงตามคำสอนในทางพระศาสนา การกระทำของเรานั้น เรียกว่าเป็นมหากุศล เป็นกิจที่ควรแก่การสรรเสริญ เป็นเรื่องที่เราจะต้องทำกันบ่อยๆ เรื่องการชักจูงช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ให้เข้าทางธรรมะเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องที่เราจะต้องช่วยกัน เรามีเพื่อนมีมิตร ถ้าเรารักเขาเราก็ต้องชักจูงเขา เข้าสู่แนวแห่งธรรมะ ถ้าเราไม่ชักจูงเพื่อนฝูงมิตรสหายเข้าสูธรรมะ ความเป็นเพื่อน มันก็ไม่มีราคาอะไร ความเป็นเพื่อนเป็นมิตรนั้น จะมีค่าตรงที่คอยแนะนำ ชักจูงเข้าหาทางดีทางชอบ เพื่อนคนใด มาแนะนำชักจูงเราให้เดินไปในทางหายนะ นั่นมิใช่เพื่อนแท้ของเรา เป็นพญามารที่ปลอมเข้ามาในสภาพของเพื่อน มาเพื่อจะทำลายเรา ให้เสียหายตกต่ำ เราควรจะหลีกจากคนเช่นนั้นให้ห่างไกล ไม่ควรเข้าใกล้เป็นอันขาด แต่ว่าเพื่อคนใด ที่คอยชี้คอยแนะ คอยบอกทางถูกทางชอบให้แก่เรา เป็นคนที่เรียกว่า คอยเตือนอยู่ตลอดเวลา เราควรดีใจ ที่ได้พบเพื่อนเช่นนั้น เพราะเพื่อนเช่นนั้นเป็นเพื่อนแท้ของเรา เป็นเพื่อนที่คอยให้สติให้ปัญญาแก่เรา เราควรจะคบเพื่อนคนนั้นไว้ให้ยืดยาวต่อไป การคบคนเช่นนั้นเป็นประโยชน์ฝ่ายเดียว ไม่มีความเสื่อมเลยเป็นอันขาด ปัญญานันทภิกขุ

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ธรรมะกับอธรรมนั้น ให้ผลไม่เสมอกัน ธรรมะให้ผลเป็นความสุขความเจริญ อธรรมนั้นให้ผลเป็นความทุกข์ ความเดือดร้อน

แต่บุคคลที่ไม่ได้รับการศึกษา ไม่เข้าใจถึงผลแตกต่างของสองสิ่งนี้ ก็มัวเมาอยู่ในความสุข ประเภทที่เกิดขึ้นจากความไม่เป็นธรรม เช่น ความสุขด้วยความเพลิดเพลิน ด้วยการดื่มการกินการเล่น การเฮฮาสนุกสนานด้วยประการต่างๆ เขาเข้าใจว่า นั่นเป็นยอดของชีวิต เป็นความสุขที่เขาปรารถนา

คนประเภทนั้นเป็นคนที่หลงผิด ชีวิตก็ตกต่ำลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งต้องสูญเสียสิ่งที่มีค่าของตนไป น่าสงสารน่าเห็นใจบุคคลประเภทอย่างนี้ เป็นหน้าที่ของเราทั้งหลายที่จะต้องช่วยกัน เพื่อจูงคนเหล่านั้น ให้พบกับสิ่งที่เป็นความหมายอันแท้จริงของชีวิต

ถ้าเราจะสามารถไปจูงเขาเหล่านั้น ให้เกิดความรู้สึกนึกคิดในทางที่ถูกที่ชอบ ให้ดำเนินชีวิตในชีวิตใน ทางที่ตรงตามคำสอนในทางพระศาสนา การกระทำของเรานั้น เรียกว่าเป็นมหากุศล เป็นกิจที่ควรแก่การสรรเสริญ เป็นเรื่องที่เราจะต้องทำกันบ่อยๆ

เรื่องการชักจูงช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ให้เข้าทางธรรมะเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องที่เราจะต้องช่วยกัน เรามีเพื่อนมีมิตร ถ้าเรารักเขาเราก็ต้องชักจูงเขา เข้าสู่แนวแห่งธรรมะ

ถ้าเราไม่ชักจูงเพื่อนฝูงมิตรสหายเข้าสูธรรมะ ความเป็นเพื่อน มันก็ไม่มีราคาอะไร ความเป็นเพื่อนเป็นมิตรนั้น จะมีค่าตรงที่คอยแนะนำ ชักจูงเข้าหาทางดีทางชอบ

เพื่อนคนใด มาแนะนำชักจูงเราให้เดินไปในทางหายนะ นั่นมิใช่เพื่อนแท้ของเรา เป็นพญามารที่ปลอมเข้ามาในสภาพของเพื่อน มาเพื่อจะทำลายเรา ให้เสียหายตกต่ำ เราควรจะหลีกจากคนเช่นนั้นให้ห่างไกล ไม่ควรเข้าใกล้เป็นอันขาด แต่ว่าเพื่อคนใด ที่คอยชี้คอยแนะ คอยบอกทางถูกทางชอบให้แก่เรา เป็นคนที่เรียกว่า คอยเตือนอยู่ตลอดเวลา เราควรดีใจ ที่ได้พบเพื่อนเช่นนั้น เพราะเพื่อนเช่นนั้นเป็นเพื่อนแท้ของเรา เป็นเพื่อนที่คอยให้สติให้ปัญญาแก่เรา เราควรจะคบเพื่อนคนนั้นไว้ให้ยืดยาวต่อไป การคบคนเช่นนั้นเป็นประโยชน์ฝ่ายเดียว ไม่มีความเสื่อมเลยเป็นอันขาด

ปัญญานันทภิกขุ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น