วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

กุญแจ 5 ดอก ของการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว 1. Positioning your identity ต้องเข้าใจว่า ตัวตนที่แท้จริงของเราเป็นอย่างไร การค้นหาตัวตน ถือเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จที่มีค่าที่สุด เพราะไม่มีใครที่อยากประสบความสำเร็จ โดยการยืมจมูกคนอื่นหายใจ 2. Finding Competitive Advantage ต้องเข้าใจอย่างชัดเจนได้ว่า ข้อได้เปรียบของเรา เจ๋งกว่าคู่แข่งอย่างไร สินค้าและบริการของเรา ได้เพิ่มมูลค่าอะไรลงไปอย่างมีนัยยะ ใส่แง่คิด มุมมองอะไร ที่จะทำให้สินค้า หรือบริการของเรา มีคุณค่าที่แตกต่างทั้งทางการใช้งานจริงและความรู้สึก 3. Generate STP-Communication Plan ต้องเข้าใจวิธีการสื่อสาร ว่าเราจะสื่อกับกลุ่มเป้าหมายอย่างไรให้เข้าใจ ว่าของเราเจ๋งแค่ไหนในใจลูกค้า โดยการสร้างสรรวิธีการนำเสนอ แล้วจะบอกโฆษณาและประชาสัมพันธ์อย่างไรให้กลุ่มเป้าหมายตระหนัก รู้จัก เข้าใจ เห็นประโยชน์ อยากทดลองใช้ และช่วยบอกต่อ สินค้าและบริการของเรา 4. Anchoring & Conditioning ต้องใช้ชีวิต ใช้ลมหายใจอยู่กับมัน ทดลอง ทำซ้ำ จนมั่นใจ ในความหมายคือ เป็นการลงมือทำ กำหนดจุดจดจำ สื่อสาร ซ้ำๆ จนเมื่อคนเห็นเรา ได้ยินเสียง หรืออะไรก็ตาม ที่สามารถทำให้จดจำเราได้ เมื่อคิดถึงสิ่งนั้น เช่น เมื่อนึกถึง ธนาคารสีเขียว สีม่วง สีเหลือง ส้ม ชมพู เราคงไม่ต้องคิดว่าธนาคารชื่ออะไร 5. Influence your target ต้องเข้ากับชุมชน พูดตรงๆ ก็คือ คุณต้องเป็นนักขายความจริงปนกับความฝัน เอาเอกลักษณ์ของเรา เข้าไปผูกกับสินค้าและบริการ คนที่เป็นตัวแทนของสินค้าของเรา ไม่จำเป็นต้องเป็นดารา แต่ขอให้เป็นสาวก คนใช้จริงๆ จากนั้น จงทำการสื่อสารตลาดแบบสร้างอิทธิพลกับกระแสซะ เช่น ผู้ผลิตครีมกันแดด เอาไปให้คนที่ทำงานหรือออกกำลังกายกลางแจ้งใช้ ผู้ผลิตรองเท้ากีฬา เอาไปให้นักกีฬา/นักวิ่งใส่ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ความอยากเป็น อยากได้ อยากมี เหมือนนักกีฬา คนมากมาย ก็จะวิ่งเข้าหาสินค้านั้นเอง Thammasak Orachoonwong

กุญแจ 5 ดอก ของการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว

1. Positioning your identity
ต้องเข้าใจว่า ตัวตนที่แท้จริงของเราเป็นอย่างไร การค้นหาตัวตน ถือเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จที่มีค่าที่สุด เพราะไม่มีใครที่อยากประสบความสำเร็จ โดยการยืมจมูกคนอื่นหายใจ

2. Finding Competitive Advantage
ต้องเข้าใจอย่างชัดเจนได้ว่า ข้อได้เปรียบของเรา เจ๋งกว่าคู่แข่งอย่างไร สินค้าและบริการของเรา ได้เพิ่มมูลค่าอะไรลงไปอย่างมีนัยยะ ใส่แง่คิด มุมมองอะไร ที่จะทำให้สินค้า หรือบริการของเรา มีคุณค่าที่แตกต่างทั้งทางการใช้งานจริงและความรู้สึก

3. Generate STP-Communication Plan
ต้องเข้าใจวิธีการสื่อสาร ว่าเราจะสื่อกับกลุ่มเป้าหมายอย่างไรให้เข้าใจ ว่าของเราเจ๋งแค่ไหนในใจลูกค้า โดยการสร้างสรรวิธีการนำเสนอ แล้วจะบอกโฆษณาและประชาสัมพันธ์อย่างไรให้กลุ่มเป้าหมายตระหนัก รู้จัก เข้าใจ เห็นประโยชน์ อยากทดลองใช้ และช่วยบอกต่อ สินค้าและบริการของเรา

4. Anchoring & Conditioning
ต้องใช้ชีวิต ใช้ลมหายใจอยู่กับมัน ทดลอง ทำซ้ำ จนมั่นใจ ในความหมายคือ เป็นการลงมือทำ กำหนดจุดจดจำ สื่อสาร ซ้ำๆ จนเมื่อคนเห็นเรา ได้ยินเสียง หรืออะไรก็ตาม ที่สามารถทำให้จดจำเราได้ เมื่อคิดถึงสิ่งนั้น เช่น เมื่อนึกถึง ธนาคารสีเขียว สีม่วง สีเหลือง ส้ม ชมพู เราคงไม่ต้องคิดว่าธนาคารชื่ออะไร

5. Influence your target
ต้องเข้ากับชุมชน พูดตรงๆ ก็คือ คุณต้องเป็นนักขายความจริงปนกับความฝัน

เอาเอกลักษณ์ของเรา เข้าไปผูกกับสินค้าและบริการ คนที่เป็นตัวแทนของสินค้าของเรา ไม่จำเป็นต้องเป็นดารา แต่ขอให้เป็นสาวก คนใช้จริงๆ จากนั้น จงทำการสื่อสารตลาดแบบสร้างอิทธิพลกับกระแสซะ เช่น ผู้ผลิตครีมกันแดด เอาไปให้คนที่ทำงานหรือออกกำลังกายกลางแจ้งใช้ ผู้ผลิตรองเท้ากีฬา เอาไปให้นักกีฬา/นักวิ่งใส่ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ความอยากเป็น อยากได้ อยากมี เหมือนนักกีฬา คนมากมาย ก็จะวิ่งเข้าหาสินค้านั้นเอง

Thammasak Orachoonwong

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น