วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ความสำคัญของเป้าหมาย ♡♡♡♡♡ 《 การใช้ชีวิตใหม่ เริ่มจากทิศทางที่เราเลือก 》 เคยมีคนทำการทดลอง รวบรวมผู้คนแล้วแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม จากนั้นให้พวกเขาออกเดินทางไปหมู่บ้านด้วยการเดินด้วยเท้า กลุ่มละหนึ่งหมู่บ้าน ระยะทางจากจุดเริ่มต้นถึงหมู่บ้านสิบกิโลเมตรเท่าๆ กัน คนในกลุ่มที่หนึ่ง ไม่รู้ว่าหมู่บ้านชื่ออะไร อีกทั้งไม่รู้ระยะทางเท่าไหร่ บอกเพียงแต่ให้พวกเขาเดินตามผู้นำทาง เพิ่งจะเดินไปได้สองสามกิโลเมตร ก็มีคนร้องว่าเหนื่อยแล้ว เมื่อเดินไปได้ครึ่งทาง บางคนเริ่มจะโมโหแล้ว พวกเขาบ่นว่า ทำไมต้องเดินไกลเช่นนี้ เมื่อไหร่จะถึงเป้าหมาย มีบางคนนั่งลงข้างทาง ไม่ยอมที่จะเดินต่อไป ผู้ที่เดินต่อยิ่งเดินไป อารมณ์ยิ่งย่ำแย่ คนในกลุ่มที่สอง รู้ชื่อหมู่บ้านและระยะทาง แต่ข้างทางไม่มีหลักบอกกิโลเมตร พวกเขาได้แต่อาศัยประสบการณ์ประมาณการจากเวลาที่เดินและระยะห่าง เมื่อเดินไปได้ครึ่งทาง ผู้คนส่วนใหญ่ก็ใคร่อยากจะรู้ว่า ตนเองเดินได้ระยะทางเท่าไหร่แล้ว ผู้มีประสบการณ์มากหน่อยพูดว่า " ประมาณครึ่งทางแล้ว " ทั้งหมดจึงเริ่มเดินทางต่อ เมื่อเดินไปได้สามในสี่ส่วน ของระยะทางทั้งหมด สภาพจิตใจและอารมณ์ของทุกคนเริ่มย่ำแย่ รู้สึกเหนื่อยล้ามากมาย และคล้ายดั่งระยะทางเหลืออีกยาวไกล มีคนผู้หนึ่งพูดขึ้นมาว่า " ใกล้ถึงแล้ว " ทุกคนล้วนรวบรวมพละกำลังออกเดินทางด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น คนในกลุ่มที่สาม พวกเขารู้ทั้งชื่อหมู่บ้าน ระยะทาง อีกทั้งทุกๆหนึ่งกิโลเมตร มีเสาหลักบอกกิโลเมตร ผู้คนเดินไปดูเสาหลักไป ทุกๆระยะทางที่สั้นลงหนึ่งกิโลเมตร พวกเขาก็จะเกิดความ ร่าเริงเบิกบานใจ ระหว่างที่เดิน พวกเขาร้องเพลง และใช้เสียงหัวเราะในการลดทอนความเหน็ดเหนื่อย สภาพจิตใจและอารมณ์ดีตลอดทาง ดังนั้น จึงถึงที่หมายรวดเร็วยิ่ง ยามที่คนเรามีการกระทำ และมีเป้าหมายที่แน่ชัด อีกทั้งนำการกระทำและเป้าหมายของตนเองมาตรวจสอบบ่อยๆ รู้รายละเอียดในความคืบหน้าว่าถึงระดับใด ระยะห่างจากเป้าหมายยังคงเหลือเท่าไหร่ ในการปฏิบัติก็จะมีแรงจูงใจ ทำให้ยืนหยัดและเพิ่มความมุ่งมั่น ความแข็งแกร่งให้แก่ตนเอง ไปขจัดอุปสรรค พยายามมุ่งสู่เป้าหมายจนสำเร็จ Cr : Niwat Rungvicha

ความสำคัญของเป้าหมาย ♡♡♡♡♡

《 การใช้ชีวิตใหม่ เริ่มจากทิศทางที่เราเลือก 》

เคยมีคนทำการทดลอง รวบรวมผู้คนแล้วแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม จากนั้นให้พวกเขาออกเดินทางไปหมู่บ้านด้วยการเดินด้วยเท้า กลุ่มละหนึ่งหมู่บ้าน ระยะทางจากจุดเริ่มต้นถึงหมู่บ้านสิบกิโลเมตรเท่าๆ กัน

คนในกลุ่มที่หนึ่ง ไม่รู้ว่าหมู่บ้านชื่ออะไร อีกทั้งไม่รู้ระยะทางเท่าไหร่ บอกเพียงแต่ให้พวกเขาเดินตามผู้นำทาง เพิ่งจะเดินไปได้สองสามกิโลเมตร ก็มีคนร้องว่าเหนื่อยแล้ว

เมื่อเดินไปได้ครึ่งทาง บางคนเริ่มจะโมโหแล้ว พวกเขาบ่นว่า ทำไมต้องเดินไกลเช่นนี้ เมื่อไหร่จะถึงเป้าหมาย มีบางคนนั่งลงข้างทาง ไม่ยอมที่จะเดินต่อไป ผู้ที่เดินต่อยิ่งเดินไป อารมณ์ยิ่งย่ำแย่

คนในกลุ่มที่สอง รู้ชื่อหมู่บ้านและระยะทาง แต่ข้างทางไม่มีหลักบอกกิโลเมตร พวกเขาได้แต่อาศัยประสบการณ์ประมาณการจากเวลาที่เดินและระยะห่าง เมื่อเดินไปได้ครึ่งทาง ผู้คนส่วนใหญ่ก็ใคร่อยากจะรู้ว่า ตนเองเดินได้ระยะทางเท่าไหร่แล้ว ผู้มีประสบการณ์มากหน่อยพูดว่า
" ประมาณครึ่งทางแล้ว "

ทั้งหมดจึงเริ่มเดินทางต่อ เมื่อเดินไปได้สามในสี่ส่วน ของระยะทางทั้งหมด สภาพจิตใจและอารมณ์ของทุกคนเริ่มย่ำแย่ รู้สึกเหนื่อยล้ามากมาย และคล้ายดั่งระยะทางเหลืออีกยาวไกล มีคนผู้หนึ่งพูดขึ้นมาว่า " ใกล้ถึงแล้ว " ทุกคนล้วนรวบรวมพละกำลังออกเดินทางด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น

คนในกลุ่มที่สาม พวกเขารู้ทั้งชื่อหมู่บ้าน ระยะทาง อีกทั้งทุกๆหนึ่งกิโลเมตร มีเสาหลักบอกกิโลเมตร ผู้คนเดินไปดูเสาหลักไป ทุกๆระยะทางที่สั้นลงหนึ่งกิโลเมตร พวกเขาก็จะเกิดความ ร่าเริงเบิกบานใจ

ระหว่างที่เดิน พวกเขาร้องเพลง และใช้เสียงหัวเราะในการลดทอนความเหน็ดเหนื่อย สภาพจิตใจและอารมณ์ดีตลอดทาง ดังนั้น จึงถึงที่หมายรวดเร็วยิ่ง

ยามที่คนเรามีการกระทำ และมีเป้าหมายที่แน่ชัด อีกทั้งนำการกระทำและเป้าหมายของตนเองมาตรวจสอบบ่อยๆ รู้รายละเอียดในความคืบหน้าว่าถึงระดับใด ระยะห่างจากเป้าหมายยังคงเหลือเท่าไหร่

ในการปฏิบัติก็จะมีแรงจูงใจ ทำให้ยืนหยัดและเพิ่มความมุ่งมั่น ความแข็งแกร่งให้แก่ตนเอง ไปขจัดอุปสรรค พยายามมุ่งสู่เป้าหมายจนสำเร็จ

Cr : Niwat Rungvicha

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น