กฎพื้นฐาน 6 ประการที่ทำให้ชีวิตมีความสุข (ตอนต้น) เรามักแสวงหาความสุข แต่มักจะมองข้ามความสุขที่มีอยู่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาได้สรุปกฎพื้นฐาน 6 ประการที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เพื่อช่วยให้ผู้คนทั้งหลายมีชีวิตที่เปี่ยมสุขจริงๆ ประการแรกก็คือ รัก ศูนย์ให้คำปรึกษาจิตวิทยาเมืองซูโจวพบว่า คนชราที่มีอายุยืนล้วนเป็นคนที่รู้จักรัก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของญี่ปุ่นประกาศผลการวิจัยว่า เมื่ออยู่ในช่วงที่มีความรัก ร่างกายจะหลั่งสารที่เป็นผลดีต่อร่างกาย ซึ่งสารเหล่านี้มีบทบาทคล้ายมอร์ฟิน แต่ไม่มีผลข้างเคียงเหมือนมอร์ฟิน สามารถทำให้รู้สึกใจสงบ ซึ่งมีผลในการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ และรักก็สามารถลดการทะเลาะเบาะแว้ง หลีกเลี่ยงการเกิดอารมณ์รุนแรง หลุดจากอารมณ์ทางลบต่างๆ เช่น โกรธ อิจฉา กระวนกระวาย กระสับกระส่าย ซึ่งสามารถลดความดันโลหิจสูง เพิ่มความสุขให้ชีวิต สุภาษิตจากตะวันตกว่า "ยาที่ดีที่สุดของใจคือจิตที่เปี่ยนไปด้วยความรัก จิตที่ระทมทุกข์ จะทำให้กระดูกแห้ง" ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความรักมีอิทธิพลต่อสุขภาพของเราอย่างมาก ประการที่สองคือ ยิ้มบ่อยๆ จะทำให้อายุยืน 7 ปี เมื่อเรายังเป็นทารกอยู่ในครรภ์ก็สามารถยิ้มได้แล้ว แต่พออายุมากขึ้น รอยยิ้มของเราลดลงทุกที เมื่อเราไม่ตั้งใจไม่เต็มใจยิ้ม รอยยิ้มของเราก็จะไม่เป็นธรรมชาติและดูไม่จริงใจแสร้งยิ้มนั่นเอง นิตยสาร "จิตศาสตร์"ของสหรัฐฯ ได้ตีพิมพ์รายงานเปรียบเทียบฉบับหนึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ยิ้มจากใจจะมีอายุยืนกว่าคนที่หน้าเครียด 7 ปี ยิ้มสามารถลดความดันโลหิตสูง ป้องกันโรคหัวใจ และผ่อนคลายความเจ็บ ทั้งหมดเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ยิ้มเป็นการบำรุงสุขภาพที่มีประสิทธิผลมากที่สุด นักจิตวิทยาพบว่า ความกลัดกลุ้มที่เป็นกันอยู่ทุกวันนั้น มี 40% กลุ้มเกี่ยวกับเรื่องที่ผ่านไปแล้ว 50% ทุกข์กับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น มีเพียง 10% ที่กลุ้มจากเหตุปัจจุบัน อันที่จริง เรื่องที่กลุ้ม 92% ไม่เคยเกิดขึ้น ส่วนที่หลือ 8% นั้นส่วนใหญ่จะแก้ได้อย่างง่ายดาย ฉะนั้น อย่าไปกลุ้มจนเกินเหตุ แล้วอย่ากลุ้มล่วงหน้า อย่าทุกข์ล่วงหน้า

กฎพื้นฐาน 6 ประการที่ทำให้ชีวิตมีความสุข (ตอนต้น)

เรามักแสวงหาความสุข แต่มักจะมองข้ามความสุขที่มีอยู่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาได้สรุปกฎพื้นฐาน 6 ประการที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เพื่อช่วยให้ผู้คนทั้งหลายมีชีวิตที่เปี่ยมสุขจริงๆ

ประการแรกก็คือ รัก ศูนย์ให้คำปรึกษาจิตวิทยาเมืองซูโจวพบว่า คนชราที่มีอายุยืนล้วนเป็นคนที่รู้จักรัก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของญี่ปุ่นประกาศผลการวิจัยว่า เมื่ออยู่ในช่วงที่มีความรัก ร่างกายจะหลั่งสารที่เป็นผลดีต่อร่างกาย ซึ่งสารเหล่านี้มีบทบาทคล้ายมอร์ฟิน แต่ไม่มีผลข้างเคียงเหมือนมอร์ฟิน สามารถทำให้รู้สึกใจสงบ ซึ่งมีผลในการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ และรักก็สามารถลดการทะเลาะเบาะแว้ง หลีกเลี่ยงการเกิดอารมณ์รุนแรง หลุดจากอารมณ์ทางลบต่างๆ เช่น โกรธ อิจฉา กระวนกระวาย กระสับกระส่าย ซึ่งสามารถลดความดันโลหิจสูง เพิ่มความสุขให้ชีวิต

สุภาษิตจากตะวันตกว่า "ยาที่ดีที่สุดของใจคือจิตที่เปี่ยนไปด้วยความรัก จิตที่ระทมทุกข์ จะทำให้กระดูกแห้ง" ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความรักมีอิทธิพลต่อสุขภาพของเราอย่างมาก

ประการที่สองคือ ยิ้มบ่อยๆ จะทำให้อายุยืน 7 ปี เมื่อเรายังเป็นทารกอยู่ในครรภ์ก็สามารถยิ้มได้แล้ว แต่พออายุมากขึ้น รอยยิ้มของเราลดลงทุกที เมื่อเราไม่ตั้งใจไม่เต็มใจยิ้ม รอยยิ้มของเราก็จะไม่เป็นธรรมชาติและดูไม่จริงใจแสร้งยิ้มนั่นเอง นิตยสาร "จิตศาสตร์"ของสหรัฐฯ ได้ตีพิมพ์รายงานเปรียบเทียบฉบับหนึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ยิ้มจากใจจะมีอายุยืนกว่าคนที่หน้าเครียด 7 ปี ยิ้มสามารถลดความดันโลหิตสูง ป้องกันโรคหัวใจ และผ่อนคลายความเจ็บ ทั้งหมดเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ยิ้มเป็นการบำรุงสุขภาพที่มีประสิทธิผลมากที่สุด

นักจิตวิทยาพบว่า ความกลัดกลุ้มที่เป็นกันอยู่ทุกวันนั้น มี 40% กลุ้มเกี่ยวกับเรื่องที่ผ่านไปแล้ว 50% ทุกข์กับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น มีเพียง 10% ที่กลุ้มจากเหตุปัจจุบัน อันที่จริง เรื่องที่กลุ้ม 92% ไม่เคยเกิดขึ้น ส่วนที่หลือ 8% นั้นส่วนใหญ่จะแก้ได้อย่างง่ายดาย ฉะนั้น อย่าไปกลุ้มจนเกินเหตุ แล้วอย่ากลุ้มล่วงหน้า อย่าทุกข์ล่วงหน้า