วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เสน่ห์อินเดีย   พระมหาสมศักดิ์ ปุณณโชโต (ดร.)  อาจารย์ประจำวิชารัฐศาสตร์แนวพุทธ มมร. วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย ๑๑ ธันวาคม ๒๕๔๙             ไปกันกี่เที่ยวไม่มีการบ่น ไปกันกี่คน ไม่มีการเบื่อ พูดแล้วน่าเชื่อ เพราะไม่เบื่อซักคนไม่บ่นสักคราวไปแล้วกลับมาโอกาสหน้าไปใหม่ ทุกคนหลงไหล ใจบ่นหาเสน่ห์อินเดีย เทศกาลออกพรรษา หน้ากฐิน จวบจนสินมาฆบูชา คณะทัวร์ต่าง ๆ นำผู้แสวงบุญจากประเทศไทย ไปนมัสการ สังเวชนียสถานแดนพุทธภูมิมากต่อมาก เงินทองหมดไปไม่เคยเสียคายทุกท่านต่างมุ่งแสวงหาผลกำไรใส่ตนคงไม่พ้นเรื่องบุญ เรื่องทาน การบริจาค            ทำไมคนไทยส่วนมากต้องไปอินเดีย บางรูป บางท่าน ไปกันหลายครั้ง บางรูปไปมาแสัว ๙ ครั้ง ถามว่าจะไปอีกไหม?  หากสังขารยังไหวจะไปอีกแน่คือคำตอบ (ไม่สุดท้าย)    อยากเด่น  อยากดัง   ต้องไปอเมริกา  อยากศึกษา หาวิชา   ต้องไปอินเดีย  อยากเสียเงินทอง ต้องไปมาเก๊า ฮองกง.   คือ คติของนักเดินทางจะวางตนในรูปแบบใดประเทศไหน ถามตนก่อน ถามใจดูสักหนก็คงไม่พ้นอินเดีย เมื่อปลายฝนต้นหนาว ราวเดือนกุมภาพันธ์ วันที ๑๖ ศก พ.ศ. ๒๕๔๕ ผู้เขียนมีภารกิจเกี่ยวกับงานการศึกษา วิทยานิพนธ์ ต้องเดินทางไปมหาวิทยาลัยมคธ พุทธคยา ประเทศอินเดียได้มีโอกาสเป็นวิทยากรบรรยายบนรถทัวร์ใงคณะทัวร์ "สุทธิธรรมทัวร์” ตั้งแต่เมืองกัลกัตตาจนถึงเมืองกาฎมัณฑา เมืองหลวงของประเทศเนปาลให้ได้รับความรู้พื้นที่ในเขตอินเดีย บรรยาได้ชัดไม่ติดขัดประสบการณ์จากการศึกษาพุทธประวัติ น.ธ.ตรี น.ธ. โท น. เอก และการไปศึกษาต่อพอเข้าเขตลุมพินี ชายแดนของเนปาล ยังพอไหวเคยไปมาแล้วต่อจากลุมพินี ไปขอพักค้างแรม ณ.วัดญี่ปุ่น   พออุ่นใจเพราะมีเทียนแท่งน้อยใหญ่ให้ความสว่างไสวในยามค่ำคืน แทนแสงนีออน ตอนเช้าอรุณรุ่ง มุ่งหน้าไปประเทศเนปาลหัวใจสะงานเกิดสงครามกลางเมืองเนปาล ลัทธิเหม๋า เข้าโจมตีทหารเนปาล สาละวนอลหม่าน ไป หรือกลับกลับหรือไป ต่อพอสงบเสียงต่างนั่งสมาธิบนรถทัวร์ (แขก) ทุกท่าน ทุกรูป ลืมลงปลงตกพวกเราเป็นเหล่าสาวก อุบาสก อุบาสิกา ขององค์พระสัมมา เดินหน้าอย่างเดียว ผู้เขียนก็บรรยายต่อพอทราบใจความ มีไกด์บุ๊คเ ป็นคู่มือท่องเที่ยวประเทศเนปาลเป็นคู่ใจ ใช้ได้ยามคับขัน เป็นเพียง ไตเติ้ล ให้เกิดความเร้าใจในเสน่ห์อินเดีย    อดยาก ตรากตรำ ลำเค็ญ ยากแค้น แสนเข็ญขัดสน จนใจ เหม็นเบื่อ เหลือทน ทำไมทุกคนจึงสนใจ ไปอินเดีย ?  ไปอินเดียเพื่อประสบโชค ๖ ประการ    ๑. เพื่อไหว้พระ เป็นเมืองกำเนิดพระพุทธเจ้า  ๒. เพื่อพบปะสิ่งต่าง ๆ เป็นศูนย์รวมแห่งความหลากหลาย  ๓. เพื่อเปิดกว้างทางความคิด เป็นตะกร้าแห่งความคิด  ๔. เพื่อตั้งจิตปฏิบัติธรรม เป็นโรงเรียนเตรียมอริยะ  ๕. เพื่อน้อมนำสิ่งทีดีกลับมา เป็นที่ให้โอกาสแก่ผู้แสวงหา  ๖. เพื่อทำใจให้ถึงพระนิพพาน เป็นที่พบบรมธรรม               อินเดียมีอะไรทีน่าสนใจ น่าคิค พินิจพิจารณา เสนห์บางกอกก็พอทน ทำไปจึงหันไปสนเสน่ห์อินเดีย อย่าเสียความรู้สึกทุกประเทศเขตคามเหนือ ใต้ ออก ตก ต่างหยิบยกศิลปวัฒนธรรมจารีตประเพณี มาโปรโมทโชว์ ให้แขกบ้าน แขกเมืองชมกันทั่วหน้า อยุธุยามีอุทยานประวัติศาสตร์ไม่สิ้นคนดี ศรีอยุธยา เพชรบุรีไม่น้อยหน้าเขาวังคู่บ้านขนมหวานเมืองพระ เลิศล้ำศิลปะเดนธรรมะทะเลงามเอาแล้วเชียว เลี้ยวลดคดเคี้ยวเหมือนคลองโคกขามพูดถึงอินเดียอยู่ดีดีมาโผล่อยุธยากรุงเก่า เล่าขานถึงเมืองเพชร สิ่งที่เป็นเสน่ห์ของอินเดีย คือ    ๑. อินเดีย เป็นแหล่งกำเนิดของคนดี  ๒. อินเดีย เป็นแหลงมีเสรีภาพ  ๓. อินเดีย เป็นแหล่งแห่งปรัชญา  ๔. อินเดีย เป็นแหล่งรวมลัทธิต่าง า  ๕. อินเดีย เป็นแหล่งรวมศาสนา  ๖. อินดีย เป็นแหล่งรวมแห่งวัฒนธรรม  ๗. อินเดีย เป็นแหล่งเกิดแห่งนิยาย  ๘. อินเดียเป็นเหล่งแห่งพิพิธภัณฑ์โบราณ (โบราณสถาน -โบราณวัตถุ โบราณประเพณี)  ๙. อินเดียเป็นแหล่งรวมคำว่าทื่สุดของที่สุด    - อินเดียยากจนที่สุด  - อินเดียสกปรกที่สุด  - อินเดียเดินทางลำบากมากที่สุด  - อินเดียอดอยากยากเข็ญที่สุด  - อินเดียถ่ายทุกข์ ข้างถนนมากที่สุด  - อินเดียหาของกินยากที่สุด  - อินเดียเห็นแก่ตัวมากที่สุด  - อินเดียไฟดับบ่อยทีสุด              อินเดียเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุด บัดนี้มีประชากร ๑๐๐๘ สั้นคน ข้อมูลสำรวจเมื่อวันปี ๒๕๔๕ มีศาสนาหลายศาสนามีฮินดู ๘๒% มุสลิม ๑๑% คริสต์ ๒% ซิกซ์ ๒% พุทธ ๐.๗% เชน ๐.๕% และศาสนาอื่น ๆ อีก ๑.๘%  ผู้ที่จะเดินทางไปท่องเทียวอินเดียเพื่อบูชา สังเวชนียสถาน หรือเพื่อการศึกษา ต้องมีหัวใจนักเดินทาง ๘ ประการ         จึงจะต่อสู้สภาพดินฟ้าอากาศของแขกได้อย่างปลอดภัยไร้มลพิษภาวะทาง กายวาจา คือ   ๑. ไปอย่างฝรั่ง   รู้จักวางแผน ๒. ใช้สตางค์แบบญี่ปุ่น รู้จัก  การใช้จ่าย ๓. มีทุนแบบไทย ๆ ๔. ทำใจแบบธิเบต รุ้จัก ข่มใจให้ดี ๕. สังเกตเบบจีน รู้จัก การบันทึก ๖. กินแบบแขก รู้จัก ประมาณในการบริโภค ๗. บุกแหลกแบบพระธุดงค์ รู้จัก จัดสรรภาระให้น้อย ๘. มั่นคงดุจองค์อรหันต์ รู้จัก บากบั่นสู่เป้าหมาย    เมื่อสวมหัวใจเหล็ก ๘ ประการแล้วสามารถพิชิตยอดเขาคิชฌฏูฏ ได้อย่างสบาย ๆ  การเดินทางแบบTOURIST มีหลายแบบหลายอย่าง ตามสไตล์ของผู้นำเท่าทีสังเกตและประสบการณ์    ๑. จากกรุงเทพ  สู่ นครกัลกัตตาตาต่อรถไฟสถานี เฮาว์ร่าห์   สู่แบคเตียปู้ มุ่งไปคยา ราชคฤห์ นาลันทาและพุทธคยา เข้าเมืองพาราณสี เลยไปกุสินาราและพักโครักขปูร์ สาวัตถีดูลุมพินี เข้าเนปาลชมเจดีย์สยัมภูวนาถ จุดสุดท้ายกาฏมัณฑุ สู่กรุงเทพ แบบที่ ๑    ๒. จากกรุงเทพ  บินลงสู่นครกัลกัตตา เริ่มสตาท์จากสถานีรถไฟ เฮาว์ร่าห์ญ่แบคเตียปู้สู่คยา ราชคฤห์  นาลันทา พุทธคยา ต่อพาราณสีสู่กุสินารา พักโครักขปูร์ ลุมพินี ย้อนกลับสู่โครักขปูร์ มุ่งหน้าไปนครสาวัตถี      สุเมืองลัคเนาว์ อัครา สู่เคลลี เมืองหลวงอินเดีย ชมทัชมาฮาลสุสานรักบันลือโลก สิ่งมหัศจรรย์ ๑ ใน ๗ ของโลก จากเคลลีสู่สนามบินอินทิราคานธีอินเตอร์ เนชันแนล ฐ่กรุงเทพ แบบที่ ๒    ๓. จากกรุงเทพ สู่สนามบินบอมเบย์ ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นมุมใบ จากบอนเบย์สู่รัฐมหารัชตะ เลยไปชมเมือง ๆ หมอก บนยอดเขาอันสูงชื่อ ปัญูจกานี่ วกไปเมืองโอรังคบาด ชมถ้ำมีประมาณ ๖ ถ้ำ มีหลวงพ่อดำศักดิ์สิทธิ์ มุ่งหน้าชมถ้ำอะชันตาและถ้ำเเอลโลร่าวกมาพักโอรังคบาดกลับลงใต้สู่เมืองบังกาลอ ต่อไปรัฐไมซอ ภาคใต้ของอินเดีย ชมทะเลเมืองมัทราส มานากะปูร์มุ่งสู่บอมเบย์ กลับกรุงเทพ แบบที่  ๓  มักจะไม่ค่อยมีคนไปเพราะเพราะไมใช่สถานทีสังเวชนียสถาน             ขอแนะนำถ้ำอันสวยงามติดระดับโลกเป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งของอินเดียตอนใต้ ถ้ำอะชันตา เป็นถ้ำมหัศจรรย์อย่างยิ่ง ในฝีมือและความพยายามของสร้าง ที่สามารถเจาะเขาทั้งลูกให้ลึกเข้าไปเป็นถ้ำ ทำถ้ำนั้น ให้เป็นวัดมีห้องและระเบียงพร้อม บางถ้ำแกะเป็น ๒ ชั้นและ ๓ ชั้น ท่านที่ไม่เคยไปเมื่อไปแล้วจะทราบว่าอินเดียมีอะไร ๆ ที่ซ่อนเร้นมากเป็นเสน่ห์อินเดียอีกแห่งหนึ่ง น่าทึ่งจริง ๆ นอกจากจะมีความสามารถในการเจาะแล้วยังมีความสามารถในการแกะสลักหิน ให้เป็นลวดลายละเอียดลออ บางถ้ำยังเขียนภาพวิจิตรระบายสี ได้อย่างงดงามไม่ลอกจนบัคนี้ ใครที่ยังไม่เคยเห็นอะชันตาก็มีค่าควรแก่การเห็นส่วนถ้ำเอลโลร่า มีทั้งหมด ๓๔ ถ้ำ เป็นถ้ำพุทธฝ่ายมหายาน ๑๒ ถ้ำ  ถ้ำพราหมณ์๑๗ ถ้ำ ถ้ำเซน ๕ ถ้ำ ในบรรดาถ้ำเหล่านี้ ถ้ำที่สวยและมหัศจรรย์ที่สุด คือ ถ้ำเขาไกรลาศของพระอิศวร ซึ่งเป็นถ้ำพราหมณ์ หมายเลข ๑๖.              ถ้าเป็นนักโบราณคดีหรือผู้สนใจในด้านศิลปะ โบราณวัตถุ โบราณสถาน ชมเฉพาะ ๒ ถ้ำนี้คงต้องใช้เวลาชมประมาณ ๒ วัน เท่านั้น           การไปเที่ยวอินเดียก็ดี  จะไปอยู่ศึกษาต่อที่อินเดียก็ดี ต้องศึกษาเรื่องแขก แขกให้เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งเสียก่อน จะได้ไม่โดนแขกหลอก ขอบอก ขอบอก เทคนิคของการอยู่กับแขกว่า   ๑. อย่าเข้าใกล้ จนเกินการ ๒. อย่าห่าง จนเกินควร ๓. อย่าด่วน จนเกินจริง ๔. อย่าสุงสิง จนเกินไป ๕. อย่าใช้ จนเกินจำ ๖. อย่าแนะนำจนเกินตาม ๗. อย่าไถ่ถาม จนเกินมี ๘. อย่าดี จนเสียคน ๙. อย่าขน จนหมดตัว ๑๐. อย่ากลัว จนหมดกล้า              นี่แหละหนา จะอยู่กับแขกได้อย่างสบาย ใครหนอ? จะขออยู่กับแขก? ขอแถมอีกหน่อยสำหรับนักแสวงบุญทั้งหลาย ที่มีจุดมุ่งหมายหมายคืออินเดีย เดนพุทธภูมิ  การไปบูชาสังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่ง จะได้รับอานิสงส์ ต่าง ๆ  กัน บูชาสถานที่ประสูติ - ได้ชีวิตที่ดีงาม - ได้ความเป็นหนึ่ง - ได้ความก้าวหน้า บูชาสถานที่ตรัสรู้ - ได้ปัญญาความรู้แจ้ง - ได้แสงสว่างทางชีวิต - ได้พิชิตความชนะไม่กลับแพ้ บูชาสถานที่ปฐมเทศนา - ได้บริวาร - ไว้ความไม่วุ่นวาย - ได้ดวงตาเห็นธรรม บูชาสถานที่ปรินิพพาน - ได้อายุ - ได้ทรัพย์มรดก - ได้พ้นเครื่องเสียดแทง              ก่อนจบเสน่ห์อินเดีย ขอฝากคำกลอนของวิทยากรประจำรถทัวร์ที่พานักแสวงบุญทัศนาจรบวกกับทัศนศึกษา พร้อมนมัสการ อธิษฐาน ขอพรจากสังเวชนียสถานว่า    อินเดีย   คือแดนดิน  ถิ่นพระเจ้า  อินเดีย   มีหลายเผ่า  หลายศาสนา  อินเดีย   มีแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ ชื่อคงคา  อินเดีย  แดนภูผา หิมาลัย  อินเดีย   เมืองที่สุด ของที่สุด  อินเดีย   เป็นเมืองพุทธ อันยิ่งใหญ่ อินเดีย  มีสาวสวย กว่าประเทศใด อินเดีย  แล้งน้ำใจ ชอบขอทาน อินเดีย  เมืองที่สุด ของปัญหา อินเดีย  บ่อเกินปัญญา มหาศาล อินเดีย  เป็นบ่อเกิด ศรัทธาธาร อินเดีย  คือสุสาน สู่อารยชน             ท่านที่เคยไปมาแล้ว ถือว่าเป็นบุญ  ส่วนท่านที่ยังไม่เคยไป อย่าช้าอยู่ใย เตรียมตัวไปได้ตามใจหวัง แล้วจะพบกับ เสน่ห์อินเดีย อย่างแท้จริง เดี๋ยวจะหาว่าไมบอก?  ไม่ได้โม้.จบแล้วจ้า เสน่ห์อินเดีย

เสน่ห์อินเดีย

 

พระมหาสมศักดิ์ ปุณณโชโต (ดร.)

 อาจารย์ประจำวิชารัฐศาสตร์แนวพุทธ

มมร. วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย

๑๑ ธันวาคม ๒๕๔๙

 

          ไปกันกี่เที่ยวไม่มีการบ่น ไปกันกี่คน ไม่มีการเบื่อ พูดแล้วน่าเชื่อ เพราะไม่เบื่อซักคนไม่บ่นสักคราวไปแล้วกลับมาโอกาสหน้าไปใหม่ ทุกคนหลงไหล ใจบ่นหาเสน่ห์อินเดีย เทศกาลออกพรรษา หน้ากฐิน จวบจนสินมาฆบูชา คณะทัวร์ต่าง ๆ นำผู้แสวงบุญจากประเทศไทย ไปนมัสการ สังเวชนียสถานแดนพุทธภูมิมากต่อมาก เงินทองหมดไปไม่เคยเสียคายทุกท่านต่างมุ่งแสวงหาผลกำไรใส่ตนคงไม่พ้นเรื่องบุญ เรื่องทาน การบริจาค

           ทำไมคนไทยส่วนมากต้องไปอินเดีย บางรูป บางท่าน ไปกันหลายครั้ง บางรูปไปมาแสัว ๙ ครั้ง ถามว่าจะไปอีกไหม?  หากสังขารยังไหวจะไปอีกแน่คือคำตอบ (ไม่สุดท้าย)

 

 อยากเด่น  อยากดัง   ต้องไปอเมริกา

 อยากศึกษา หาวิชา   ต้องไปอินเดีย

 อยากเสียเงินทอง ต้องไปมาเก๊า ฮองกง.

 

คือ คติของนักเดินทางจะวางตนในรูปแบบใดประเทศไหน ถามตนก่อน ถามใจดูสักหนก็คงไม่พ้นอินเดีย เมื่อปลายฝนต้นหนาว ราวเดือนกุมภาพันธ์ วันที ๑๖ ศก พ.ศ. ๒๕๔๕ ผู้เขียนมีภารกิจเกี่ยวกับงานการศึกษา วิทยานิพนธ์ ต้องเดินทางไปมหาวิทยาลัยมคธ พุทธคยา ประเทศอินเดียได้มีโอกาสเป็นวิทยากรบรรยายบนรถทัวร์ใงคณะทัวร์ "สุทธิธรรมทัวร์” ตั้งแต่เมืองกัลกัตตาจนถึงเมืองกาฎมัณฑา เมืองหลวงของประเทศเนปาลให้ได้รับความรู้พื้นที่ในเขตอินเดีย บรรยาได้ชัดไม่ติดขัดประสบการณ์จากการศึกษาพุทธประวัติ น.ธ.ตรี น.ธ. โท น. เอก และการไปศึกษาต่อพอเข้าเขตลุมพินี ชายแดนของเนปาล ยังพอไหวเคยไปมาแล้วต่อจากลุมพินี ไปขอพักค้างแรม ณ.วัดญี่ปุ่น   พออุ่นใจเพราะมีเทียนแท่งน้อยใหญ่ให้ความสว่างไสวในยามค่ำคืน แทนแสงนีออน ตอนเช้าอรุณรุ่ง มุ่งหน้าไปประเทศเนปาลหัวใจสะงานเกิดสงครามกลางเมืองเนปาล ลัทธิเหม๋า เข้าโจมตีทหารเนปาล สาละวนอลหม่าน ไป หรือกลับกลับหรือไป ต่อพอสงบเสียงต่างนั่งสมาธิบนรถทัวร์ (แขก) ทุกท่าน ทุกรูป ลืมลงปลงตกพวกเราเป็นเหล่าสาวก อุบาสก อุบาสิกา ขององค์พระสัมมา เดินหน้าอย่างเดียว ผู้เขียนก็บรรยายต่อพอทราบใจความ มีไกด์บุ๊คเ ป็นคู่มือท่องเที่ยวประเทศเนปาลเป็นคู่ใจ ใช้ได้ยามคับขัน เป็นเพียง

ไตเติ้ล ให้เกิดความเร้าใจในเสน่ห์อินเดีย

 

 อดยาก ตรากตรำ ลำเค็ญ ยากแค้น แสนเข็ญขัดสน จนใจ เหม็นเบื่อ เหลือทน ทำไมทุกคนจึงสนใจ ไปอินเดีย ?

 ไปอินเดียเพื่อประสบโชค ๖ ประการ

 

 ๑. เพื่อไหว้พระ เป็นเมืองกำเนิดพระพุทธเจ้า

 ๒. เพื่อพบปะสิ่งต่าง ๆ เป็นศูนย์รวมแห่งความหลากหลาย

 ๓. เพื่อเปิดกว้างทางความคิด เป็นตะกร้าแห่งความคิด

 ๔. เพื่อตั้งจิตปฏิบัติธรรม เป็นโรงเรียนเตรียมอริยะ

 ๕. เพื่อน้อมนำสิ่งทีดีกลับมา เป็นที่ให้โอกาสแก่ผู้แสวงหา

 ๖. เพื่อทำใจให้ถึงพระนิพพาน เป็นที่พบบรมธรรม

 

            อินเดียมีอะไรทีน่าสนใจ น่าคิค พินิจพิจารณา เสนห์บางกอกก็พอทน ทำไปจึงหันไปสนเสน่ห์อินเดีย อย่าเสียความรู้สึกทุกประเทศเขตคามเหนือ ใต้ ออก ตก ต่างหยิบยกศิลปวัฒนธรรมจารีตประเพณี มาโปรโมทโชว์ ให้แขกบ้าน แขกเมืองชมกันทั่วหน้า อยุธุยามีอุทยานประวัติศาสตร์ไม่สิ้นคนดี ศรีอยุธยา เพชรบุรีไม่น้อยหน้าเขาวังคู่บ้านขนมหวานเมืองพระ เลิศล้ำศิลปะเดนธรรมะทะเลงามเอาแล้วเชียว เลี้ยวลดคดเคี้ยวเหมือนคลองโคกขามพูดถึงอินเดียอยู่ดีดีมาโผล่อยุธยากรุงเก่า เล่าขานถึงเมืองเพชร สิ่งที่เป็นเสน่ห์ของอินเดีย คือ

 

 ๑. อินเดีย เป็นแหล่งกำเนิดของคนดี

 ๒. อินเดีย เป็นแหลงมีเสรีภาพ

 ๓. อินเดีย เป็นแหล่งแห่งปรัชญา

 ๔. อินเดีย เป็นแหล่งรวมลัทธิต่าง า

 ๕. อินเดีย เป็นแหล่งรวมศาสนา
 ๖. อินดีย เป็นแหล่งรวมแห่งวัฒนธรรม

 ๗. อินเดีย เป็นแหล่งเกิดแห่งนิยาย

 ๘. อินเดียเป็นเหล่งแห่งพิพิธภัณฑ์โบราณ (โบราณสถาน -โบราณวัตถุ โบราณประเพณี)

 ๙. อินเดียเป็นแหล่งรวมคำว่าทื่สุดของที่สุด

 

 - อินเดียยากจนที่สุด

 - อินเดียสกปรกที่สุด

 - อินเดียเดินทางลำบากมากที่สุด

 - อินเดียอดอยากยากเข็ญที่สุด

 - อินเดียถ่ายทุกข์ ข้างถนนมากที่สุด

 - อินเดียหาของกินยากที่สุด

 - อินเดียเห็นแก่ตัวมากที่สุด

 - อินเดียไฟดับบ่อยทีสุด

 

           อินเดียเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุด บัดนี้มีประชากร ๑๐๐๘ สั้นคน ข้อมูลสำรวจเมื่อวันปี ๒๕๔๕ มีศาสนาหลายศาสนามีฮินดู ๘๒% มุสลิม ๑๑% คริสต์ ๒% ซิกซ์ ๒% พุทธ ๐.๗% เชน ๐.๕% และศาสนาอื่น ๆ อีก ๑.๘%

 ผู้ที่จะเดินทางไปท่องเทียวอินเดียเพื่อบูชา สังเวชนียสถาน หรือเพื่อการศึกษา ต้องมีหัวใจนักเดินทาง ๘ ประการ         จึงจะต่อสู้สภาพดินฟ้าอากาศของแขกได้อย่างปลอดภัยไร้มลพิษภาวะทาง กายวาจา คือ

 

๑. ไปอย่างฝรั่ง   รู้จักวางแผน

๒. ใช้สตางค์แบบญี่ปุ่น รู้จัก  การใช้จ่าย

๓. มีทุนแบบไทย ๆ

๔. ทำใจแบบธิเบต รุ้จัก ข่มใจให้ดี

๕. สังเกตเบบจีน รู้จัก การบันทึก

๖. กินแบบแขก รู้จัก ประมาณในการบริโภค

๗. บุกแหลกแบบพระธุดงค์ รู้จัก จัดสรรภาระให้น้อย

๘. มั่นคงดุจองค์อรหันต์ รู้จัก บากบั่นสู่เป้าหมาย

 

 เมื่อสวมหัวใจเหล็ก ๘ ประการแล้วสามารถพิชิตยอดเขาคิชฌฏูฏ ได้อย่างสบาย ๆ  การเดินทางแบบTOURIST มีหลายแบบหลายอย่าง ตามสไตล์ของผู้นำเท่าทีสังเกตและประสบการณ์

 

 ๑. จากกรุงเทพ  สู่ นครกัลกัตตาตาต่อรถไฟสถานี เฮาว์ร่าห์   สู่แบคเตียปู้ มุ่งไปคยา ราชคฤห์ นาลันทาและพุทธคยา เข้าเมืองพาราณสี เลยไปกุสินาราและพักโครักขปูร์ สาวัตถีดูลุมพินี เข้าเนปาลชมเจดีย์สยัมภูวนาถ จุดสุดท้ายกาฏมัณฑุ สู่กรุงเทพ แบบที่ ๑

 

 ๒. จากกรุงเทพ  บินลงสู่นครกัลกัตตา เริ่มสตาท์จากสถานีรถไฟ เฮาว์ร่าห์ญ่แบคเตียปู้สู่คยา ราชคฤห์  นาลันทา พุทธคยา ต่อพาราณสีสู่กุสินารา พักโครักขปูร์ ลุมพินี ย้อนกลับสู่โครักขปูร์ มุ่งหน้าไปนครสาวัตถี      สุเมืองลัคเนาว์ อัครา สู่เคลลี เมืองหลวงอินเดีย ชมทัชมาฮาลสุสานรักบันลือโลก สิ่งมหัศจรรย์ ๑ ใน ๗ ของโลก จากเคลลีสู่สนามบินอินทิราคานธีอินเตอร์ เนชันแนล ฐ่กรุงเทพ แบบที่ ๒

 

 ๓. จากกรุงเทพ สู่สนามบินบอมเบย์ ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นมุมใบ จากบอนเบย์สู่รัฐมหารัชตะ เลยไปชมเมือง ๆ หมอก บนยอดเขาอันสูงชื่อ ปัญูจกานี่ วกไปเมืองโอรังคบาด ชมถ้ำมีประมาณ ๖ ถ้ำ มีหลวงพ่อดำศักดิ์สิทธิ์ มุ่งหน้าชมถ้ำอะชันตาและถ้ำเเอลโลร่าวกมาพักโอรังคบาดกลับลงใต้สู่เมืองบังกาลอ ต่อไปรัฐไมซอ ภาคใต้ของอินเดีย ชมทะเลเมืองมัทราส มานากะปูร์มุ่งสู่บอมเบย์ กลับกรุงเทพ แบบที่    มักจะไม่ค่อยมีคนไปเพราะเพราะไมใช่สถานทีสังเวชนียสถาน

 

          ขอแนะนำถ้ำอันสวยงามติดระดับโลกเป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งของอินเดียตอนใต้

ถ้ำอะชันตา เป็นถ้ำมหัศจรรย์อย่างยิ่ง ในฝีมือและความพยายามของสร้าง ที่สามารถเจาะเขาทั้งลูกให้ลึกเข้าไปเป็นถ้ำ ทำถ้ำนั้น ให้เป็นวัดมีห้องและระเบียงพร้อม บางถ้ำแกะเป็น ๒ ชั้นและ ๓ ชั้น ท่านที่ไม่เคยไปเมื่อไปแล้วจะทราบว่าอินเดียมีอะไร ๆ ที่ซ่อนเร้นมากเป็นเสน่ห์อินเดียอีกแห่งหนึ่ง น่าทึ่งจริง ๆ นอกจากจะมีความสามารถในการเจาะแล้วยังมีความสามารถในการแกะสลักหิน ให้เป็นลวดลายละเอียดลออ บางถ้ำยังเขียนภาพวิจิตรระบายสี ได้อย่างงดงามไม่ลอกจนบัคนี้ ใครที่ยังไม่เคยเห็นอะชันตาก็มีค่าควรแก่การเห็นส่วนถ้ำเอลโลร่า มีทั้งหมด ๓๔ ถ้ำ เป็นถ้ำพุทธฝ่ายมหายาน ๑๒ ถ้ำ  ถ้ำพราหมณ์๑๗ ถ้ำ ถ้ำเซน ๕ ถ้ำ ในบรรดาถ้ำเหล่านี้ ถ้ำที่สวยและมหัศจรรย์ที่สุด คือ ถ้ำเขาไกรลาศของพระอิศวร ซึ่งเป็นถ้ำพราหมณ์ หมายเลข ๑๖.

 

           ถ้าเป็นนักโบราณคดีหรือผู้สนใจในด้านศิลปะ โบราณวัตถุ โบราณสถาน ชมเฉพาะ ๒ ถ้ำนี้คงต้องใช้เวลาชมประมาณ ๒ วัน เท่านั้น

          การไปเที่ยวอินเดียก็ดี  จะไปอยู่ศึกษาต่อที่อินเดียก็ดี ต้องศึกษาเรื่องแขก แขกให้เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งเสียก่อน จะได้ไม่โดนแขกหลอก ขอบอก ขอบอก เทคนิคของการอยู่กับแขกว่า

 

๑. อย่าเข้าใกล้ จนเกินการ

๒. อย่าห่าง จนเกินควร

๓. อย่าด่วน จนเกินจริง

๔. อย่าสุงสิง จนเกินไป

๕. อย่าใช้ จนเกินจำ

๖. อย่าแนะนำจนเกินตาม

๗. อย่าไถ่ถาม จนเกินมี

๘. อย่าดี จนเสียคน

๙. อย่าขน จนหมดตัว

๑๐. อย่ากลัว จนหมดกล้า

 

           นี่แหละหนา จะอยู่กับแขกได้อย่างสบาย ใครหนอจะขออยู่กับแขกขอแถมอีกหน่อยสำหรับนักแสวงบุญทั้งหลาย ที่มีจุดมุ่งหมายหมายคืออินเดีย เดนพุทธภูมิ  การไปบูชาสังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่ง จะได้รับอานิสงส์ ต่าง ๆ  กัน

บูชาสถานที่ประสูติ

ได้ชีวิตที่ดีงาม

ได้ความเป็นหนึ่ง

ได้ความก้าวหน้า

บูชาสถานที่ตรัสรู้

ได้ปัญญาความรู้แจ้ง

ได้แสงสว่างทางชีวิต

ได้พิชิตความชนะไม่กลับแพ้

บูชาสถานที่ปฐมเทศนา

ได้บริวาร

ไว้ความไม่วุ่นวาย

ได้ดวงตาเห็นธรรม

บูชาสถานที่ปรินิพพาน

ได้อายุ

ได้ทรัพย์มรดก

ได้พ้นเครื่องเสียดแทง

 

           ก่อนจบเสน่ห์อินเดีย ขอฝากคำกลอนของวิทยากรประจำรถทัวร์ที่พานักแสวงบุญทัศนาจรบวกกับทัศนศึกษา พร้อมนมัสการ อธิษฐาน ขอพรจากสังเวชนียสถานว่า

 

 อินเดีย   คือแดนดิน  ถิ่นพระเจ้า

 อินเดีย   มีหลายเผ่า  หลายศาสนา

 อินเดีย   มีแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ ชื่อคงคา

 อินเดีย  แดนภูผา หิมาลัย

 อินเดีย   เมืองที่สุด ของที่สุด

 อินเดีย   เป็นเมืองพุทธ อันยิ่งใหญ่

อินเดีย  มีสาวสวย กว่าประเทศใด

อินเดีย  แล้งน้ำใจ ชอบขอทาน

อินเดีย  เมืองที่สุด ของปัญหา

อินเดีย  บ่อเกินปัญญา มหาศาล

อินเดีย  เป็นบ่อเกิด ศรัทธาธาร

อินเดีย  คือสุสาน สู่อารยชน

 

          ท่านที่เคยไปมาแล้ว ถือว่าเป็นบุญ  ส่วนท่านที่ยังไม่เคยไป อย่าช้าอยู่ใย เตรียมตัวไปได้ตามใจหวัง แล้วจะพบกับ เสน่ห์อินเดีย อย่างแท้จริง เดี๋ยวจะหาว่าไมบอก?  ไม่ได้โม้.จบแล้วจ้า เสน่ห์อินเดีย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น