วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. ขอนอบน้อม แด่พระผู้มีพระภาค สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น. พระธรรมบท ยมกวรรคที่ ๑ ๒. เรื่องมัฏฐกุณฑลี พระบรมศาสดา ทรงปรารภมัฏฐกุณฑลี เป็นบุตรผู้เดียวของพราหมณ์ตระหนี่ผู้หนึ่ง พราหมณ์ผู้เป็นบิดา ได้กระทำกุณฑลเกลี้ยง ๆ เองให้ประดับ ด้วยความกลัวจะต้องเสียค่าบำเหน็จ เวลา บุตรเจ็บก็ไม่หาหมอรักษา ด้วยความกลัวจะต้องเสียค่าขวัญข้าว ครั้นเวลาใกล้จะแตกดับ พระศาสดาได้เสด็จไป ทรงเปล่งพระโอภาสรัศมีให้มัฏฐกุณฑลีเห็น เธอก็เกิดปสาทะความเลื่อมใส กระทำกาลกิริยาลงในขณะนั้น ไปเกิดในดาวดึงสเทวโลก เห็นพราหมณ์ผู้บิดาเศร้าโศกนัก จึงลงมากระทำพราหมณ์นั้น ให้คลายจากความเศร้าโศก ได้ความเลื่อมในในพระพุทธศาสนา แล้วกลับไปเทวโลกในวันรุ่งขึ้นพราหมณ์ได้เชิญเสด็จพระศาสดากับพระภิกษุสงฆ์ มากระทำภัตกิจที่เรือนตน แล้วทูลถามถึงการทำใจให้เลื่อมใสในพระองค์เท่านั้น ไม่ได้ทำกุศลอย่างอื่น ๆ อาจให้เกิดในสวรรค์ได้หรือ ในขณะนั้น พระองค์จึงทรงอธิษฐานให้มัฏฐกุณฑลีเทวบุตรมาแสดงเหตุผลให้ปรากฏเป็นพยานแก่ประชาชนในที่นั้น แล้วจึงตรัสพระคาถานี้ มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, ............ ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มโนเสฏฺฐา มโนมยา,................ มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วด้วยใจ มนสา เจ ปสนฺเนน, ................ ถ้าบุคคลมีใจผ่องใสแล้ว ภาสติ วา กโรติ วา,.......... พูดอยู่ก็ตาม ทำอยู่ก็ตาม( ก็ผ่องใส ) ตโต นํ สุขมเนฺวติ,...............เพราะความผ่องใสนั้น สุขย่อมตามผู้นั้นไป ฉายา ว อนุปายินี. ............ ดุจเงาตามตนไป ฉะนั้น.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
ขอนอบน้อม แด่พระผู้มีพระภาค สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น.
พระธรรมบท
ยมกวรรคที่ ๑
๒. เรื่องมัฏฐกุณฑลี
พระบรมศาสดา ทรงปรารภมัฏฐกุณฑลี เป็นบุตรผู้เดียวของพราหมณ์ตระหนี่ผู้หนึ่ง พราหมณ์ผู้เป็นบิดา ได้กระทำกุณฑลเกลี้ยง ๆ เองให้ประดับ ด้วยความกลัวจะต้องเสียค่าบำเหน็จ เวลา
บุตรเจ็บก็ไม่หาหมอรักษา ด้วยความกลัวจะต้องเสียค่าขวัญข้าว ครั้นเวลาใกล้จะแตกดับ พระศาสดาได้เสด็จไป ทรงเปล่งพระโอภาสรัศมีให้มัฏฐกุณฑลีเห็น เธอก็เกิดปสาทะความเลื่อมใส กระทำกาลกิริยาลงในขณะนั้น ไปเกิดในดาวดึงสเทวโลก เห็นพราหมณ์ผู้บิดาเศร้าโศกนัก จึงลงมากระทำพราหมณ์นั้น ให้คลายจากความเศร้าโศก ได้ความเลื่อมในในพระพุทธศาสนา แล้วกลับไปเทวโลกในวันรุ่งขึ้นพราหมณ์ได้เชิญเสด็จพระศาสดากับพระภิกษุสงฆ์ มากระทำภัตกิจที่เรือนตน แล้วทูลถามถึงการทำใจให้เลื่อมใสในพระองค์เท่านั้น ไม่ได้ทำกุศลอย่างอื่น ๆ อาจให้เกิดในสวรรค์ได้หรือ ในขณะนั้น พระองค์จึงทรงอธิษฐานให้มัฏฐกุณฑลีเทวบุตรมาแสดงเหตุผลให้ปรากฏเป็นพยานแก่ประชาชนในที่นั้น แล้วจึงตรัสพระคาถานี้
มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, ............ ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า
มโนเสฏฺฐา มโนมยา,................ มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วด้วยใจ
มนสา เจ ปสนฺเนน, ................ ถ้าบุคคลมีใจผ่องใสแล้ว
ภาสติ วา กโรติ วา,.......... พูดอยู่ก็ตาม ทำอยู่ก็ตาม( ก็ผ่องใส )
ตโต นํ สุขมเนฺวติ,...............เพราะความผ่องใสนั้น สุขย่อมตามผู้นั้นไป
ฉายา ว อนุปายินี. ............ ดุจเงาตามตนไป ฉะนั้น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น