วันศุกร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2560

มิกกี้ เม้าส์ ที่มาของการมี 4 นิ้วในตัวการ์ตูน #อึ้งเลย ไม่มีใครไม่รู้จัก มิกกี้ เม้าส์ แต่เรื่องราวอันเป็นที่มาของตัวละครที่ครองใจคนทั่วโลกนี้หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน เช่น วอลท์ ดิสนีย์ ได้แรงบันดาลใจในการสร้างมิกกี้ เม้าส์ มาจากหนูเชื่องๆ ตัวหนึ่ง ที่วิ่งไปมาบนโต๊ะของเขาที่ลาฟ โอ แกรม เมืองแคนซัส รัฐมิซซูรี ก่อนจะมาเป็นมิกกี้ เม้าส์ ตัวละครหนูตัวนี้เดิมมีชื่อว่า “มอร์ติเมอร์” ทว่า ลิเลียน ดิสนีย์ ภรรยาของวอลท์ ดิสนีย์ คิดว่าชื่อมิกกี้น่าจะฟังรื่นหูกว่า ตั้งแต่นั้นมา “มอร์ติเมอร์” ก็กลายเป็นชื่อตัวละครตัวอื่นแทน ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่า มิกกี้ เม้าส์ มีนิ้วแค่สี่นิ้วเท่านั้น ดิสนีย์ให้เหตุผลว่ามันเป็นเรื่องของศิลปะ และเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจทางด้านการเงินด้วย โดยเขาอธิบายว่า “นิ้วห้านิ้วดูเหมือนจะมากเกินไปสำหรับหนู แถมมันจะดูคล้ายหวีกล้วย ส่วนเรื่องเงินนั้น ถ้าหักลบนิ้วออกไปข้างละนิ้วสำหรับภาพวาดมิกกี้ เม้าส์ 45,000 ภาพ ก็จะประหยัดเวลาไปได้ 6 นาทีครึ่ง ซึ่งจะทำให้ประหยัดเงินที่ใช้ในสตูดิโอไปได้เป็นล้านเลยทีเดียว” ส่วนหูของมิกกี้นั้น ไม่ว่าจะหันไปทางไหน มองจากมุมไหน ก็จะเห็นเป็นรูปวงกลมเสมอ ซึ่งทำให้มิกกี้เป็นที่จดจำ หูของมิกกี้ เม้าส์ กลายเป็นเครื่องหมายการค้าประจำตัวเขาไปลย และยังเป็นไอคอนที่ดิสนีย์ใช้แทนตัวมิกกี้ เม้าส์มาจนถึงทุกวันนี้ ถ้าถามถึงบุคลิกส่วนตัวแล้ว มิกกี้เป็นหนูที่มองโลกในแง่ดี มีความกระตือรือร้น อารมณ์ดี และมีคำอุทานที่มักจะพูดติดปากเสมอว่า “คุณพระช่วย” หรือบางทีก็ “โอ๊ย ตายล่ะ” “โอ้ ไม่” และ “โอ๊ะ โอ” ที่สำคัญเขามีรสนิยมในการอ่านค่อนข้างดีทีเดียว เขาชอบอ่านหนังสือ ไทม์ จีโอกราฟฟิค และนิวส์วีค สำหรับเสียงแหลมเล็กที่ฟังดูเหมือนเขินอาย ในบทพูดตอนแรกของเขาที่ออกฉายช่วงปี 2472 ที่มีชื่อว่า “เดอะ คาร์นิวัล คิดส์” ดิสนีย์เป็นผู้พากย์เสียงด้วยตัวเอง ถือเป็นความภูมิใจส่วนตัวของเขาเลยก็ว่าได้ โดยคำแรกที่มิกกี้พูดคือ "ฮอทด็อกจ้า! ฮอทด็อกมั้ยจ้ะ!" เขาพูดขณะเดินขายฮอทด็อกในเทศกาลคาร์นิวัล

มิกกี้ เม้าส์ ที่มาของการมี 4  นิ้วในตัวการ์ตูน #อึ้งเลย

ไม่มีใครไม่รู้จัก มิกกี้ เม้าส์ แต่เรื่องราวอันเป็นที่มาของตัวละครที่ครองใจคนทั่วโลกนี้หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน เช่น วอลท์ ดิสนีย์ ได้แรงบันดาลใจในการสร้างมิกกี้ เม้าส์ มาจากหนูเชื่องๆ ตัวหนึ่ง ที่วิ่งไปมาบนโต๊ะของเขาที่ลาฟ โอ แกรม เมืองแคนซัส รัฐมิซซูรี

ก่อนจะมาเป็นมิกกี้ เม้าส์ ตัวละครหนูตัวนี้เดิมมีชื่อว่า “มอร์ติเมอร์” ทว่า ลิเลียน ดิสนีย์ ภรรยาของวอลท์ ดิสนีย์ คิดว่าชื่อมิกกี้น่าจะฟังรื่นหูกว่า ตั้งแต่นั้นมา “มอร์ติเมอร์” ก็กลายเป็นชื่อตัวละครตัวอื่นแทน

ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่า มิกกี้ เม้าส์ มีนิ้วแค่สี่นิ้วเท่านั้น ดิสนีย์ให้เหตุผลว่ามันเป็นเรื่องของศิลปะ และเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจทางด้านการเงินด้วย โดยเขาอธิบายว่า “นิ้วห้านิ้วดูเหมือนจะมากเกินไปสำหรับหนู แถมมันจะดูคล้ายหวีกล้วย ส่วนเรื่องเงินนั้น ถ้าหักลบนิ้วออกไปข้างละนิ้วสำหรับภาพวาดมิกกี้ เม้าส์ 45,000 ภาพ ก็จะประหยัดเวลาไปได้ 6 นาทีครึ่ง ซึ่งจะทำให้ประหยัดเงินที่ใช้ในสตูดิโอไปได้เป็นล้านเลยทีเดียว”

ส่วนหูของมิกกี้นั้น ไม่ว่าจะหันไปทางไหน มองจากมุมไหน ก็จะเห็นเป็นรูปวงกลมเสมอ ซึ่งทำให้มิกกี้เป็นที่จดจำ หูของมิกกี้ เม้าส์ กลายเป็นเครื่องหมายการค้าประจำตัวเขาไปลย และยังเป็นไอคอนที่ดิสนีย์ใช้แทนตัวมิกกี้ เม้าส์มาจนถึงทุกวันนี้

ถ้าถามถึงบุคลิกส่วนตัวแล้ว มิกกี้เป็นหนูที่มองโลกในแง่ดี มีความกระตือรือร้น อารมณ์ดี และมีคำอุทานที่มักจะพูดติดปากเสมอว่า “คุณพระช่วย” หรือบางทีก็ “โอ๊ย ตายล่ะ” “โอ้ ไม่” และ “โอ๊ะ โอ” ที่สำคัญเขามีรสนิยมในการอ่านค่อนข้างดีทีเดียว เขาชอบอ่านหนังสือ ไทม์ จีโอกราฟฟิค และนิวส์วีค

สำหรับเสียงแหลมเล็กที่ฟังดูเหมือนเขินอาย ในบทพูดตอนแรกของเขาที่ออกฉายช่วงปี 2472 ที่มีชื่อว่า “เดอะ คาร์นิวัล คิดส์” ดิสนีย์เป็นผู้พากย์เสียงด้วยตัวเอง ถือเป็นความภูมิใจส่วนตัวของเขาเลยก็ว่าได้ โดยคำแรกที่มิกกี้พูดคือ "ฮอทด็อกจ้า! ฮอทด็อกมั้ยจ้ะ!" เขาพูดขณะเดินขายฮอทด็อกในเทศกาลคาร์นิวัล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น