วันพุธที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2560

ตอนขายลูกชิ้นทอด...วันละ4-5พัน ดีใจฉิบหาย ชื่นใจ ภูมิใจ เห็นเงินแล้วหายเหนื่อย ยิ่งขายดียิ่งขยัน จากเคยขาย บ่าย3ถึง4ทุ่ม เปลี่ยนเป็น 10:00-01:00 ยิ่งขายดีไปใหญ่ ตั้งอกตั้งใจขายทุกวัน เช้าไปตลาดซื้อลูกชิ้น สายๆมาตั้งร้านเสียบไปขายไป ตี1เก็บร้านกลับบ้านนับเงิน เป็นแบบนี้หลายเดือน....จนวันนึง ไปตลาดสายกว่าทุกวัน ไปถึงแผงขายลูกชิ้นเที่ยง! บังเอิญได้เจอคนขายลูกชิ้นเหมือนกันเจ้านึง ขายในสวนน้ำ เห็นเขาสั่งลูกชิ้นแล้วตกใจ!! เขาสั่งชนิดละ10กิโล รวมๆแล้วร้อยกว่ากิโล จ่ายเงินค่าลูกชิ้นเป็นหมื่น ทั้งแบงค์20ยันแบงค์พัน นับจ่ายให้แผงลูกชิ้นเป็นตับๆ ผมเหมือนถูกสกดจิต.... คิดถึงตัวเองและคนอื่นๆที่มาซื้อลูกชิ้น ทุกคน...ต่อแถวจ่ายเงินให้แผงลูกชิ้น หลักพันยันหลักหมื่น ใครที่ขายลูกชิ้นทอดในโคราช ต้องซื้อร้านนี้ไปขาย แปลว่า ยิ่งร้านลูกชิ้นมีมาก ยิ่งร้านลูกชิ้นขายดีเท่าไหร่ แผงลูกชิ้นยิ่งรวยขึ้นๆ ผมเริ่มคิดต่อคิดตาม....กว่าเราจะขายได้ร้อยนึง เรียกลูกค้าแล้วเรียกลูกค้าอีก กว่าจะได้ร้อยนึง แผงขายส่งลูกชิ้น นั่งรอรับเงินที่เป็นพันๆจากเรา ไม่ตัองเชียร์ ไม่ต้องตากแดดตากฝนขายของ มันจึงทำให้คิดได้.... เราทุกเจ้าที่ขายลูกชิ้น เราไม่ได้ต่างจากพนักงานขายให้แผงลูกชิ้นดีๆนี้เอง ยิ่งเราขายดี กำไรดี เรายิ่งดีใจยิ่งออกมาขาย ยิ่งขยัน สิบปีผ่านไปคนขายลูกชิ้นจยเหมือนเดิม แต่โรงงานลูกชิ้นขยายเอา ขยายเอา เราทำให้คนอื่นรวยนี่หว่า....ตัวเราไม่ได้รวยจริงๆ ทำยังไง....เราจะรวยจริงๆ? คำตอบคือต้องเป็นเจ้าของแบรนด์ ไม่มีปัญญาหรอก ขายลูกชิ้นทอดให้ได้วันละหมื่นยังยากเลย จะให้เป็นเจ้าของโรงงานลูกชิ้นจะเอาทุนที่ไหน? นั่นคือที่มาว่า ทำไมคนขายลูกชิ้นจนเหมือนเดิม และโรงงานลูกชิ้นแผงค้าส่งรวยเอารวยเอา นั่นเรื่องในอดีต...ที่ผ่านความคิดผิดๆถูกๆมา แต่มันช่างบังเอิญเหลือเกินกับการค้ายุคโซเชี่ยล ยุคแจกแหวนทอง แจกตำแหน่ง ผมเห็นเพื่อนๆหลายคนในเฟซ ดีใจ ที่ขายดี มียอดสั่ง มีส่งของ มีได้แหวนทอง อันนี้ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ แต่อย่าติดกับวงจร ตัวแทนไม่ต่างจากคนขายลูกชิ้นเลย ทำเลดี ขายดี ดีใจ ยิ่งขายดียิ่งสั่งของ โพสต์สลิปหลักหมื่น หลักแสน ถามว่า...เหลือถึงคุณจริงๆเท่าไหร่? ตัวแทนคนไหนเก่ง มีความสามรถ เจ้าของแบรนด์ยิ่งชอบ ยิ่งแจกยิ่งอัดทอง คนที่รวยขึ้นจริงๆ....เจ้าของแบรนด์ ไม่ใช่คุณ! เคยนั่งถามตัวเองบ้างมั้ย...ขายมากี่แบรนด์แล้วทำไมไม่รวยสักที? สบู่ล้างหน้ายันครีมทาจิ๋มขาว เห็นแต่เจ้าของแบรนด์ ขับBMเปิดประทุน ตัวแทน Jazz ยังผ่อนไม่หมด....จริงมั้ย? ผมไม่ได้โจมตีหรือออกมาโพสต์กวนทีนใคร แต่ละคน แต่ละอาชีพ มีวิธีหาเงินไม่เหมือนกัน ผมเพียงเปิดอีกมุมให้คิด ผิดหรือถูกไม่ว่ากัน ผมเองก็เคยเห็นตัวแทนสิ้นค้าร่ำรวยหลายล้านก็มี หนทางเดียวที่คุณจะรวยจริง...ต้องเป็นเจ้าของแบรนด์ ไม่ใช่เป็นตัวแทน ทำให้คนอื่นรวย อย่าเป็นเหมือนคนขายลูกชิ้นแบบผม สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอก และเป็นกำลังใจให้นักขายออนไลน์ทุกท่านว่า จริงอยู่ว่าเป็นตัวแทน...อาจรวยไม่เท่าเจ้าของแบรนด์ แต่เจ้าของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ "เคยเป็นตัวแทนมาก่อนทั้งนั้น" สู้ๆ สิริทัศน์ สมเสงี่ยม

ตอนขายลูกชิ้นทอด...วันละ4-5พัน
ดีใจฉิบหาย ชื่นใจ ภูมิใจ เห็นเงินแล้วหายเหนื่อย

ยิ่งขายดียิ่งขยัน จากเคยขาย บ่าย3ถึง4ทุ่ม
เปลี่ยนเป็น 10:00-01:00 ยิ่งขายดีไปใหญ่

ตั้งอกตั้งใจขายทุกวัน
เช้าไปตลาดซื้อลูกชิ้น สายๆมาตั้งร้านเสียบไปขายไป
ตี1เก็บร้านกลับบ้านนับเงิน

เป็นแบบนี้หลายเดือน....จนวันนึง
ไปตลาดสายกว่าทุกวัน ไปถึงแผงขายลูกชิ้นเที่ยง!

บังเอิญได้เจอคนขายลูกชิ้นเหมือนกันเจ้านึง
ขายในสวนน้ำ เห็นเขาสั่งลูกชิ้นแล้วตกใจ!!

เขาสั่งชนิดละ10กิโล รวมๆแล้วร้อยกว่ากิโล
จ่ายเงินค่าลูกชิ้นเป็นหมื่น ทั้งแบงค์20ยันแบงค์พัน
นับจ่ายให้แผงลูกชิ้นเป็นตับๆ

ผมเหมือนถูกสกดจิต....
คิดถึงตัวเองและคนอื่นๆที่มาซื้อลูกชิ้น
ทุกคน...ต่อแถวจ่ายเงินให้แผงลูกชิ้น หลักพันยันหลักหมื่น

ใครที่ขายลูกชิ้นทอดในโคราช ต้องซื้อร้านนี้ไปขาย
แปลว่า ยิ่งร้านลูกชิ้นมีมาก ยิ่งร้านลูกชิ้นขายดีเท่าไหร่

แผงลูกชิ้นยิ่งรวยขึ้นๆ

ผมเริ่มคิดต่อคิดตาม....กว่าเราจะขายได้ร้อยนึง
เรียกลูกค้าแล้วเรียกลูกค้าอีก กว่าจะได้ร้อยนึง

แผงขายส่งลูกชิ้น นั่งรอรับเงินที่เป็นพันๆจากเรา
ไม่ตัองเชียร์ ไม่ต้องตากแดดตากฝนขายของ

มันจึงทำให้คิดได้....

เราทุกเจ้าที่ขายลูกชิ้น
เราไม่ได้ต่างจากพนักงานขายให้แผงลูกชิ้นดีๆนี้เอง

ยิ่งเราขายดี กำไรดี เรายิ่งดีใจยิ่งออกมาขาย ยิ่งขยัน
สิบปีผ่านไปคนขายลูกชิ้นจยเหมือนเดิม
แต่โรงงานลูกชิ้นขยายเอา ขยายเอา

เราทำให้คนอื่นรวยนี่หว่า....ตัวเราไม่ได้รวยจริงๆ
ทำยังไง....เราจะรวยจริงๆ? คำตอบคือต้องเป็นเจ้าของแบรนด์

ไม่มีปัญญาหรอก ขายลูกชิ้นทอดให้ได้วันละหมื่นยังยากเลย
จะให้เป็นเจ้าของโรงงานลูกชิ้นจะเอาทุนที่ไหน?

นั่นคือที่มาว่า ทำไมคนขายลูกชิ้นจนเหมือนเดิม
และโรงงานลูกชิ้นแผงค้าส่งรวยเอารวยเอา

นั่นเรื่องในอดีต...ที่ผ่านความคิดผิดๆถูกๆมา

แต่มันช่างบังเอิญเหลือเกินกับการค้ายุคโซเชี่ยล
ยุคแจกแหวนทอง แจกตำแหน่ง

ผมเห็นเพื่อนๆหลายคนในเฟซ
ดีใจ ที่ขายดี มียอดสั่ง มีส่งของ มีได้แหวนทอง
อันนี้ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้

แต่อย่าติดกับวงจร

ตัวแทนไม่ต่างจากคนขายลูกชิ้นเลย
ทำเลดี ขายดี ดีใจ ยิ่งขายดียิ่งสั่งของ
โพสต์สลิปหลักหมื่น หลักแสน

ถามว่า...เหลือถึงคุณจริงๆเท่าไหร่?

ตัวแทนคนไหนเก่ง มีความสามรถ
เจ้าของแบรนด์ยิ่งชอบ ยิ่งแจกยิ่งอัดทอง

คนที่รวยขึ้นจริงๆ....เจ้าของแบรนด์ ไม่ใช่คุณ!

เคยนั่งถามตัวเองบ้างมั้ย...ขายมากี่แบรนด์แล้วทำไมไม่รวยสักที?

สบู่ล้างหน้ายันครีมทาจิ๋มขาว
เห็นแต่เจ้าของแบรนด์ ขับBMเปิดประทุน
ตัวแทน Jazz ยังผ่อนไม่หมด....จริงมั้ย?

ผมไม่ได้โจมตีหรือออกมาโพสต์กวนทีนใคร
แต่ละคน แต่ละอาชีพ มีวิธีหาเงินไม่เหมือนกัน

ผมเพียงเปิดอีกมุมให้คิด ผิดหรือถูกไม่ว่ากัน
ผมเองก็เคยเห็นตัวแทนสิ้นค้าร่ำรวยหลายล้านก็มี

หนทางเดียวที่คุณจะรวยจริง...ต้องเป็นเจ้าของแบรนด์
ไม่ใช่เป็นตัวแทน ทำให้คนอื่นรวย

อย่าเป็นเหมือนคนขายลูกชิ้นแบบผม

สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอก
และเป็นกำลังใจให้นักขายออนไลน์ทุกท่านว่า

จริงอยู่ว่าเป็นตัวแทน...อาจรวยไม่เท่าเจ้าของแบรนด์
แต่เจ้าของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่
"เคยเป็นตัวแทนมาก่อนทั้งนั้น"

สู้ๆ

สิริทัศน์ สมเสงี่ยม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น