ภิกษุกับผ้าคาดเอว
ในอินเดียมีนิทานอยู่เรื่องหนึ่ง กล่าวว่า
พระภิกษุรูปหนึ่งได้เข้าไปกราบลาพระอาจารย์เพื่อลงเขาไปบำเพ็ญตนเอง เมื่อเดินทางมาถึงที่ๆตั้งใจไว้ ก็ได้สร้างกระท่อมหลังเล็กๆพอกันลมกันฝน
หลังจากสรงน้ำเสร็จ ภิกษุหนุ่มมักจะนำจีวรและที่คาดเอว(ผ้าประคด) ผึ่งไว้บนหลังกระท่อม
เช้าวันหนึ่ง ก่อนที่ภิกษุหนุ่มจะเดินทางไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน ก็เห็นว่าผ้าคาดเอวของตนเองถูกหนูกัดจนเกือบขาดวิ่น เช้านั้นภิกษุหนุ่มจึงขอบิณฑบาตผ้าคาดเอวจากชาวบ้านมาหนึ่งผืน
เช้าวันรุ่งขึ้น ผ้าคาดเอวที่ซักตากไว้บนหลังคาก็ถูกหนูกัดเกือบขาดเหมือนเดิม ท่านจึงขอบิณฑบาตจากชาวบ้านอีกครั้ง แต่คราวนี้ชาวบ้านก็บอกแก่ภิกษุหนุ่มว่า
“แค่ผืนสองผืนนี่ก็ให้ได้อยู่นะ แต่ใครจะให้ผ้าคาดเอวแก่ท่านได้ทุกวันเล่า วิธีแก้ไขง่ายๆ แค่ท่านหาแมวมาเลี้ยงไว้สักตัว เชื่อว่าจะไม่มีหนูตัวไหนมาทำให้ผ้าคาดเอวของท่านขาดได้อีก”
ได้ฟังดังนั้น ภิกษุหนุ่มจึงขอแมวจากชาวบ้านตัวหนึ่งไปเลี้ยง
จากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีเหตุการณ์ของหนูกัดผ้าคาดเอวอีกต่อไป ภิกษุหนุ่มรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง
แต่แมวต้องดื่มนม ภิกษุหนุ่มนอกจากจะขอบิณฑบาตอาหารแล้ว ยังขอบิณฑบาตนมเพื่อไปเลี้ยงแมวอีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้อยู่หลายวัน ชาวบ้านก็บอกแก่ภิกษุหนุ่มว่า
“ครั้งสองครั้งก็ไม่เป็นไรหรอกนะ แต่ใครจะยินดีให้น้ำนมแก่ท่านไปเลี้ยงแมวทั้งปีเล่า วิธีแก้ไขง่ายๆ แค่ท่านหาวัวมาเลี้ยงด้วยสักตัว แค่นี้ก็หมดปัญหาแล้ว”
ภิกษุหนุ่มเก็บหอมรอมริบจนมีเงินพอที่จะซื้อวัวได้ ท่านจึงนำเงินไปขอซื้อวัวจากชาวบ้านมาตัวหนึ่ง
อยู่มาวันหนึ่ง ภิกษุหนุ่มรู้สึกว่าหญ้าฟางที่ให้วัวกินนั้นก็เริ่มร่อยหรอ ท่านจึงขอหญ้าฟางจากชาวบ้านเพื่อมาเลี้ยงวัว ชาวบ้านคนเดิมก็ได้บอกแก่ภิกษุหนุ่มว่า
“ที่ดินข้างๆที่ท่านปลูกกระท่อมอยู่ยังไม่มีใครจับจอง ทำไมท่านไม่ปลูกข้าวเพื่อเอาหญ้าฟางไว้เลี้ยงวัวเล่า”
ได้ฟังดังนั้น ภิกษุหนุ่มจึงลงมือถากถางที่ดินผืนนั้นเพื่อเตรียมปลูกข้าวในฤดูต่อไป
หลายปีต่อมา ที่นาที่ภิกษุหนุ่มทำยิ่งมายิ่งให้ผลผลิตที่ดี ภิกษุหนุ่มยิ่งแผ้วถางที่นาให้กว้างขึ้น และก็ต้องจ้างวานชาวบ้านเพื่อให้มาช่วยทำนา
ด้วยเหตุนี้ ภิกษุหนุ่มจึงหลงลืมปณิธานที่ตนเองตั้งไว้ก่อนลงจากเขา บัดนี้ภิกษุหนุ่มกลายเป็นเศรษฐีเจ้าของที่นาผืนกว้าง มียุ้งข้าวอยู่มากมาย รวมทั้งมีลูกน้องอยู่เต็มไปหมด และเขาก็ได้แต่งงานกับหญิงสาวในหมู่บ้าน เพื่อให้เธอรับผิดชอบดูแลบัญชีต่างๆ จากภิกษุผู้ปรารถนาพรหมจรรย์ ก็กลายเป็นฆารวาสที่ยุ่งอยู่กับเงินทองหน้าที่การงานเหมือนคนทั่วไป
อยู่มาวันหนึ่ง ด้วยความคิดถึงลูกศิษย์ที่ลงเขาไปเป็นเวลาเกือบสิบปี พระอาจารย์จึงลงเขามาเยี่ยมลูกศิษย์
เมื่อเดินทางมาถึงหมูบ้านที่ลูกศิษย์ได้บอกไว้ก่อนลงจากเขา ภิกษุชราก็ได้ถามคนงานของบ้านเศรษฐีคนหนึ่งว่า
“พ่อหนุ่ม แถวนี้เคยมีพระสงฆ์ที่ลงจากเขามาปฏิบัติอยู่ที่นี่เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว เธอพอจะรู้ไหมว่าตอนนี้ท่านย้ายไปบำเพ็ญอยู่ที่ไหน?”
คนรับใช้ส่ายหน้าบอกไม่รู้ และก็ให้ภิกษุชราเข้าไปถามเศรษฐีเองในบ้าน
เมื่อภิกษุชราเดินเข้าไปหาเศรษฐีในบ้าน ก็เห็นว่าลูกศิษย์หนุ่มของตัวเอง ตอนนี้กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดกับการนับเงินที่กองอยู่ตรงหน้า
“ศิษย์ข้า ไฉนเจ้ากลายเป็นเช่นนี้เล่า?” ภิกษุชรากล่าวออกมาด้วยความตกใจ
ลูกศิษย์ได้แต่ก้มหน้าละอายแก่ใจ
“เพราะผ้าคาดเอวผืนเดียวขอรับ”
.....
มีคำกล่าวบทหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า “แค่เพียงรักษาจิตศรัทธาแรกเริ่ม ก็เพียงพอแก่การบรรลุพุทธะ”
นี่คงไม่ใช่เป็นสุภาษิตของผู้บำเพ็ญปฏิบัติเท่านั้น คนในโลกนี้จำนวนเท่าไหร่ ที่เสียหายเพราะเหตุเพียงเล็กน้อยเช่นภิกษุหนุ่มท่านนี้
ผู้บำเพ็ญปฏิบัติทั้งหลาย เวลานี้จุดหมายของท่านยังเหมือนเดิมอยู่หรือไม่?
.....
คัดจากหนังสือเซนธรรม หมวดเซนชาวบ้าน
#นุสนธิ์บุคส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น