วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559

"รายได้ที่ก่อให้เกิดความสุข" .....ปี 2531 เขาเข้าทำงานหลังจากเรียนจบหมาดๆ เงินเดือนเริ่ม ต้น 4,500 บาท เขามีความสุขมากที่เริ่มใช้ชีวิตเป็นผู้ใหญ่รับผิด ชอบตัวเองเต็มตัว..หลังทำงานไปได้ไม่นาน เขาซื้อมอเตอร์ไซค์ คันแรกเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง... และรำพันกับตัว เองว่า...ในวันที่เงินเดือน 7,000 บาท เขาคงพอมีเงินเหลือเก็บ... .....ปี 2535 เขามีรายได้เดือนละ 8,000 บาท แต่รสนิยมการแต่ง ตัวที่ต้องดูดีขึ้น รวมถึงสังคมเพื่อนฝูงทำให้เขามีรายจ่ายเพิ่มขึ้น จนชักหน้าไม่ถึงหลัง ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยแบ่งเงินเดือนให้พ่อแม่หรือ น้อง เขาคงต้องหางานใหม่ที่มีรายได้ 15,000 บาท ที่เขาจะมีเงิน เหลือเก็บบ้าง... .....ปี 2538 เขาเปลี่ยนงานใหม่มาสักพัก ที่นี่รายได้เฉลี่ย 18,000 บาท แต่เขาต้องมีรถยนต์เพราะเป็นข้อกำหนดคุณสมบัติ เขามี ชีวิตเหมือนคนทำงานทุกคนอยากมี เป็นชีวิตที่หลายๆคนอิจฉา แต่เพื่อนฝูงที่ยืนอยู่จุดเดียวกับเขา กลับคุยเรื่องเดียวกันว่ารายได้ ไม่พอ... ทางออกของหลายคนคือ ทำบัตรเครดิตเพื่อหมุนเวียน รายจ่าย.ชีวิตชั่งสวยงาม เมื่อมีบัตรเครดิตมาช่วยอุดช่องโหว่ชีวิต ขาดแคลนกลับเติมเต็ม...ทุกวันนี้เขาลืมเรื่องเงินเก็บ เพราะยามที่ เขาต้องการเงินสำรอง ก็แค่ทำบัตรเพิ่มหรือขอวงเงินเพิ่ม ชีวิตดี๊ดี .....ปี 2540 เขาแต่งงานกับสาวคนรัก งานแต่งจัดขึ้นหรูหราตาม หน้าที่การงานและความต้องการของแม่เจ้าสาว รายจ่ายทุกอย่าง กู้ผ่านบัตรเครดิต.เขากับภรรยาหมดเงินไปกับงานนี้มากมาย ตอน นี้บัตรเครดิตทุกใบเต็มวงเงิน เขาต้องยอมใช้จ่ายน้อยลงจ่ายบัตร ทุกใบขั้นต่ำ เพื่อวันรุ่งขึ้นจะได้กดเงินที่เหลือจากดอกเบี้ยไปจ่าย ใบอื่นๆ.เดือนทั้งเดือนวนเวียนปวดหัวกับภาระมากมาย เขาคำนวน เล่นๆ รายได้เกือบ 70% กลายเป็นดอกเบี้ยบัตรเครดิต!!! หากเขา มีรายได้มากขึ้น เขาต้องเคลียร์ทุกอย่างได้แน่นอน เขามั่นใจ... .....ปี 2542 เขามีรายได้มากกว่าเดือนละ 5 หมื่นบาท โชคดีบริษัท ที่เขาทำอยู่ไม่ได้รับผลกระทบจากฟองสบู่แตกเมื่อปี 2540 แต่เขา ก็ยังมีเงินไม่พอใช้ บ้านยังต้องผ่อน รถก็เพิ่งถอยใหม่ตามเพื่อนที่ พากันชักชวน.เขารู้สึกตัวเองเหมือนกระชอน มีน้ำเข้าด้านบนสาย ใหญ่ แต่รูรั่วที่เป็นค่าใช้จ่ายมากมายจนอุดไม่อยู่... ไม่ว่ารายได้ เขาจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ เขากลับรู้สึกว่า มันไม่เคยเพียงพอกับราย จ่าย... ตอนนี้บัตรเครดิต เริ่มกลายเป็นหนี้พอกหางหมูก้อนมหึมา ดอกเบี้ยโตเร็วไม่สนแล้งร้อน เขาจ่ายดอกเบี้ยขั้นต่ำมาเป็นปี การ เงินไม่คล่องเหมือน 2 ปี เขาเริ่มอึดอัด เริ่มมองเห็นความจริง..นึก ย้อนวันที่มีรายได้ 4,500 บาท แม้จะไม่มีสมบัติมากมายขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่เหนื่อยปั๊มเงินแบบนี้เช่นกัน..แล้วต้องมีรายได้เท่าไหร่ เขาถึงจะพออยู่สักที... .....ปี 2550 เขาขึ้นศาล เพื่อประนอมหนี้บัตรเครดิตใบสุดท้าย หลายปีมานี้เขากลายสภาพเป็นหนึ่งในรายชื่อ NPL "หนี้ไม่ก่อให้ เกิดรายได้" เจ้าหนี้จ้าง"คนนอก" ทวงเงินด้วยสารพัดวิธีใต้ดิน ไม่ เว้นพ่อแม่ที่ต่างจังหวัดต้องพลอยรับรู้ และช่วยขายวัวควายปลด หนี้บางส่วน เพราะกลัวเขาต้องติดคุกตามคำขู่...แต่ก็ช่วยบรรเทา ไปได้ส่วนน้อย เพราะเขาและครอบครัว ต้องอยู่กันอย่างยากลำ บาก จนพาลจะเลิกลากันไปหลายหน.. เจ้าหนี้ทั้งหลายไม่เคยเห็นใจ ไม่เคยลดลาวาศอกให้กับเขาบ้าง วันที่เขาเคยทำกำไรด้วยดอกเบี้ยงามๆให้กับสถาบันเหล่านี้ มัน เป็นอดีต ตอนนี้เขาไม่อยู่ในสายตาคนพวกนี้ เพราะเขาเป็นเพียง คนขับรถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ไม่มี "รายได้ที่ก่อให้เกิดหนี้" ได้อีก แล้ว เขาไม่ใช่ลูกค้ามุ่งหวังอีกแล้ว... หลายปีหลัง...เขาไม่มีเสื้อราคาแพงไว้เพื่อให้ลูกค้าเชื่อถือ เขามี เสื้อวินประจำซอยเป็นเสื้อใส่เพื่อหาเลี้ยงชีพ..เขาไม่มีรถยนต์คัน หรูแต่งสวยโก้เพื่อยกระดับหน้าตาตัวเองต่อสังคม เขามีเพียงมอ เตอร์ไซด์ที่เป็นทั้งเครื่องมือหารายได้ และพาหนะอำนวยความ สะดวกเพื่อตัวเองและครอบครัว..เขาไม่มีรายได้ที่สามารถก่อให้ เกิดหนี้เหมือนอดีต เขามีแค่รายได้พออยู่พอกิน เพื่อก่อให้เกิด ความสุขแก่ตัวเองและครอบครัว...เขาไม่มีใจมักใหญ่ใฝ่กิเลสบ้า คลั่ง ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขามีแค่ใจที่เข้าใจแล้วว่า หากเขารู้จัก ใช้ชีวิตให้สมกับรายได้ ความสุขที่แท้จริง ย่อมบังเกิดขึ้นเป็นนิ รันดร์... ปัจจุบันเขาแบ่งปันรายได้ส่วนหนึ่งส่งเสียพ่อแม่ในยามชราตอบ แทนบุญคุณตามวิถีลูกที่ควรทำ ทั้งๆที่ก่อนหน้าเมื่อมีรายได้มาก กว่านี้ เขาไม่เคยเหลือพอจะเผื่อแผ่ถึงผู้ให้กำเนิด.. เขานึกย้อน วันเวลากลับไป เสียดายก็เพียงเวลาที่ทุ่มเทเหน็ดเหนืีอยไปกับ ความสุขจอมปลอม เพื่อนฝูงเขาหลายคนที่เคยกอดคอกันกิน เที่ยว ไม่เคยเหลียวแลกันเวลาลำบาก และหลายๆ คนเองก็มีบท สรุปสุดท้ายของชีวิตไม่ต่างจากเขา.. .ต่างกันแค่บางคน ยังคิด ไม่ได้เช่นเขา ยังคงเฝ้าฝันรอวันกลับไปมีชีวิตแบบเดิมๆ และเฝ้า ก่นด่าโชคชะตาที่ต้องตกต่ำแบบกลับหัวกลับหาง... เขาเคยบอก เคยเตือนเพื่อนๆบางคนให้พอใจในวันนี้ แต่เขาได้เพียงคำเยาะ เย้ยถางถางกลับมา และเมื่อขอยืมเงินจากเขาไม่ได้ เพื่อนเหล่า นี้กลับพากันบอกเขาแบบเดียวกันว่า วันที่พวกเขากลับไปมีชีวิต หรูหราแบบเดิมได้ อย่าหวังว่าเขาจะได้พึ่งพา...เขาได้แต่ถอนใจ และหันหลังกลับ... วันนี้เขาขับรถได้เงินมากเป็นพิเศษ เขาแวะซื้อลูกชิ้นปิ้ง 4 ไม้แวะ ข้างทางแบบที่เคยทำประจำ และทันทีที่จอดยังไม่ทันร้องเรียก "ไอ้ขาว" หมาพันธุ์ทางข้างถนนที่เขาเอ็นดู วิ่งกระดิกหางหูลู่มา หาด้วยความดีใจ หลายปีมานี้ เขามีมันเป็นเพื่อนตัวเดียวในชีวิต หลังจากหันหลังให้เพิ่อนกลุ่มเดิม...ทุกวันไม่ว่าเขาจะสุข จะทุกข์ จะหาเงินได้น้อย จะมีเงินในกระเป๋ามาก มันไม่เคยสนใจ มัน เหมือนมีเวลาเพื่อรอให้เขาแวะมาหาก่อนกลับบ้าน... แม้มันเป็น หมา เขากลับรับรู้ถึงความจริงใจของมันที่มีต่อเขาได้...แบบที่ไม่ เคยได้จากเพื่อนๆคนไหนๆ... วันนี้เขาอิ่มเอมใจกาย มีรายได้เหลือไปฝากลูกแก้ว เมียขวัญ สม ความตั้งใจ แต่เริ่มชีวิตทำงานเมื่อหลายปีก่อนอีกวัน. ทีมสถานีคลายทุกข์ บทความคุณภาพจากเพจ "เรื่องดีๆมีข้อคิด"

"รายได้ที่ก่อให้เกิดความสุข"
.....ปี 2531 เขาเข้าทำงานหลังจากเรียนจบหมาดๆ เงินเดือนเริ่ม
ต้น 4,500 บาท เขามีความสุขมากที่เริ่มใช้ชีวิตเป็นผู้ใหญ่รับผิด
ชอบตัวเองเต็มตัว..หลังทำงานไปได้ไม่นาน เขาซื้อมอเตอร์ไซค์
คันแรกเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง... และรำพันกับตัว
เองว่า...ในวันที่เงินเดือน 7,000 บาท เขาคงพอมีเงินเหลือเก็บ...
.....ปี 2535 เขามีรายได้เดือนละ 8,000 บาท แต่รสนิยมการแต่ง
ตัวที่ต้องดูดีขึ้น รวมถึงสังคมเพื่อนฝูงทำให้เขามีรายจ่ายเพิ่มขึ้น
จนชักหน้าไม่ถึงหลัง ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยแบ่งเงินเดือนให้พ่อแม่หรือ
น้อง เขาคงต้องหางานใหม่ที่มีรายได้ 15,000 บาท ที่เขาจะมีเงิน
เหลือเก็บบ้าง...
.....ปี 2538 เขาเปลี่ยนงานใหม่มาสักพัก ที่นี่รายได้เฉลี่ย 18,000
บาท แต่เขาต้องมีรถยนต์เพราะเป็นข้อกำหนดคุณสมบัติ เขามี
ชีวิตเหมือนคนทำงานทุกคนอยากมี เป็นชีวิตที่หลายๆคนอิจฉา
แต่เพื่อนฝูงที่ยืนอยู่จุดเดียวกับเขา กลับคุยเรื่องเดียวกันว่ารายได้
ไม่พอ... ทางออกของหลายคนคือ ทำบัตรเครดิตเพื่อหมุนเวียน
รายจ่าย.ชีวิตชั่งสวยงาม เมื่อมีบัตรเครดิตมาช่วยอุดช่องโหว่ชีวิต
ขาดแคลนกลับเติมเต็ม...ทุกวันนี้เขาลืมเรื่องเงินเก็บ เพราะยามที่
เขาต้องการเงินสำรอง ก็แค่ทำบัตรเพิ่มหรือขอวงเงินเพิ่ม ชีวิตดี๊ดี
.....ปี 2540 เขาแต่งงานกับสาวคนรัก งานแต่งจัดขึ้นหรูหราตาม
หน้าที่การงานและความต้องการของแม่เจ้าสาว รายจ่ายทุกอย่าง
กู้ผ่านบัตรเครดิต.เขากับภรรยาหมดเงินไปกับงานนี้มากมาย ตอน
นี้บัตรเครดิตทุกใบเต็มวงเงิน เขาต้องยอมใช้จ่ายน้อยลงจ่ายบัตร
ทุกใบขั้นต่ำ เพื่อวันรุ่งขึ้นจะได้กดเงินที่เหลือจากดอกเบี้ยไปจ่าย
ใบอื่นๆ.เดือนทั้งเดือนวนเวียนปวดหัวกับภาระมากมาย เขาคำนวน
เล่นๆ รายได้เกือบ 70% กลายเป็นดอกเบี้ยบัตรเครดิต!!! หากเขา
มีรายได้มากขึ้น เขาต้องเคลียร์ทุกอย่างได้แน่นอน เขามั่นใจ...
.....ปี 2542 เขามีรายได้มากกว่าเดือนละ 5 หมื่นบาท โชคดีบริษัท
ที่เขาทำอยู่ไม่ได้รับผลกระทบจากฟองสบู่แตกเมื่อปี 2540 แต่เขา
ก็ยังมีเงินไม่พอใช้ บ้านยังต้องผ่อน รถก็เพิ่งถอยใหม่ตามเพื่อนที่
พากันชักชวน.เขารู้สึกตัวเองเหมือนกระชอน มีน้ำเข้าด้านบนสาย
ใหญ่ แต่รูรั่วที่เป็นค่าใช้จ่ายมากมายจนอุดไม่อยู่... ไม่ว่ารายได้
เขาจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ เขากลับรู้สึกว่า มันไม่เคยเพียงพอกับราย
จ่าย... ตอนนี้บัตรเครดิต เริ่มกลายเป็นหนี้พอกหางหมูก้อนมหึมา
ดอกเบี้ยโตเร็วไม่สนแล้งร้อน เขาจ่ายดอกเบี้ยขั้นต่ำมาเป็นปี การ
เงินไม่คล่องเหมือน 2 ปี เขาเริ่มอึดอัด เริ่มมองเห็นความจริง..นึก
ย้อนวันที่มีรายได้ 4,500 บาท แม้จะไม่มีสมบัติมากมายขนาดนี้
แต่เขาก็ไม่เหนื่อยปั๊มเงินแบบนี้เช่นกัน..แล้วต้องมีรายได้เท่าไหร่
เขาถึงจะพออยู่สักที...
.....ปี 2550 เขาขึ้นศาล เพื่อประนอมหนี้บัตรเครดิตใบสุดท้าย
หลายปีมานี้เขากลายสภาพเป็นหนึ่งในรายชื่อ NPL "หนี้ไม่ก่อให้
เกิดรายได้" เจ้าหนี้จ้าง"คนนอก" ทวงเงินด้วยสารพัดวิธีใต้ดิน ไม่
เว้นพ่อแม่ที่ต่างจังหวัดต้องพลอยรับรู้ และช่วยขายวัวควายปลด
หนี้บางส่วน เพราะกลัวเขาต้องติดคุกตามคำขู่...แต่ก็ช่วยบรรเทา
ไปได้ส่วนน้อย เพราะเขาและครอบครัว ต้องอยู่กันอย่างยากลำ
บาก จนพาลจะเลิกลากันไปหลายหน..
เจ้าหนี้ทั้งหลายไม่เคยเห็นใจ ไม่เคยลดลาวาศอกให้กับเขาบ้าง
วันที่เขาเคยทำกำไรด้วยดอกเบี้ยงามๆให้กับสถาบันเหล่านี้ มัน
เป็นอดีต ตอนนี้เขาไม่อยู่ในสายตาคนพวกนี้ เพราะเขาเป็นเพียง
คนขับรถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ไม่มี "รายได้ที่ก่อให้เกิดหนี้" ได้อีก
แล้ว เขาไม่ใช่ลูกค้ามุ่งหวังอีกแล้ว...
หลายปีหลัง...เขาไม่มีเสื้อราคาแพงไว้เพื่อให้ลูกค้าเชื่อถือ เขามี
เสื้อวินประจำซอยเป็นเสื้อใส่เพื่อหาเลี้ยงชีพ..เขาไม่มีรถยนต์คัน
หรูแต่งสวยโก้เพื่อยกระดับหน้าตาตัวเองต่อสังคม เขามีเพียงมอ
เตอร์ไซด์ที่เป็นทั้งเครื่องมือหารายได้ และพาหนะอำนวยความ
สะดวกเพื่อตัวเองและครอบครัว..เขาไม่มีรายได้ที่สามารถก่อให้
เกิดหนี้เหมือนอดีต เขามีแค่รายได้พออยู่พอกิน เพื่อก่อให้เกิด
ความสุขแก่ตัวเองและครอบครัว...เขาไม่มีใจมักใหญ่ใฝ่กิเลสบ้า
คลั่ง ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขามีแค่ใจที่เข้าใจแล้วว่า หากเขารู้จัก
ใช้ชีวิตให้สมกับรายได้ ความสุขที่แท้จริง ย่อมบังเกิดขึ้นเป็นนิ
รันดร์...
ปัจจุบันเขาแบ่งปันรายได้ส่วนหนึ่งส่งเสียพ่อแม่ในยามชราตอบ
แทนบุญคุณตามวิถีลูกที่ควรทำ ทั้งๆที่ก่อนหน้าเมื่อมีรายได้มาก
กว่านี้ เขาไม่เคยเหลือพอจะเผื่อแผ่ถึงผู้ให้กำเนิด.. เขานึกย้อน
วันเวลากลับไป เสียดายก็เพียงเวลาที่ทุ่มเทเหน็ดเหนืีอยไปกับ
ความสุขจอมปลอม เพื่อนฝูงเขาหลายคนที่เคยกอดคอกันกิน
เที่ยว ไม่เคยเหลียวแลกันเวลาลำบาก และหลายๆ คนเองก็มีบท
สรุปสุดท้ายของชีวิตไม่ต่างจากเขา.. .ต่างกันแค่บางคน ยังคิด
ไม่ได้เช่นเขา ยังคงเฝ้าฝันรอวันกลับไปมีชีวิตแบบเดิมๆ และเฝ้า
ก่นด่าโชคชะตาที่ต้องตกต่ำแบบกลับหัวกลับหาง... เขาเคยบอก
เคยเตือนเพื่อนๆบางคนให้พอใจในวันนี้ แต่เขาได้เพียงคำเยาะ
เย้ยถางถางกลับมา และเมื่อขอยืมเงินจากเขาไม่ได้ เพื่อนเหล่า
นี้กลับพากันบอกเขาแบบเดียวกันว่า วันที่พวกเขากลับไปมีชีวิต
หรูหราแบบเดิมได้ อย่าหวังว่าเขาจะได้พึ่งพา...เขาได้แต่ถอนใจ
และหันหลังกลับ...
วันนี้เขาขับรถได้เงินมากเป็นพิเศษ เขาแวะซื้อลูกชิ้นปิ้ง 4 ไม้แวะ
ข้างทางแบบที่เคยทำประจำ และทันทีที่จอดยังไม่ทันร้องเรียก
"ไอ้ขาว" หมาพันธุ์ทางข้างถนนที่เขาเอ็นดู วิ่งกระดิกหางหูลู่มา
หาด้วยความดีใจ หลายปีมานี้ เขามีมันเป็นเพื่อนตัวเดียวในชีวิต
หลังจากหันหลังให้เพิ่อนกลุ่มเดิม...ทุกวันไม่ว่าเขาจะสุข จะทุกข์
จะหาเงินได้น้อย จะมีเงินในกระเป๋ามาก มันไม่เคยสนใจ มัน
เหมือนมีเวลาเพื่อรอให้เขาแวะมาหาก่อนกลับบ้าน... แม้มันเป็น
หมา เขากลับรับรู้ถึงความจริงใจของมันที่มีต่อเขาได้...แบบที่ไม่
เคยได้จากเพื่อนๆคนไหนๆ...
วันนี้เขาอิ่มเอมใจกาย มีรายได้เหลือไปฝากลูกแก้ว เมียขวัญ สม
ความตั้งใจ แต่เริ่มชีวิตทำงานเมื่อหลายปีก่อนอีกวัน.
ทีมสถานีคลายทุกข์
บทความคุณภาพจากเพจ "เรื่องดีๆมีข้อคิด"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น