หมั่นโถวลูกที่ 4
ภาคแรก
ชายคนหนึ่งเดินป่าหิวโซมาหลายวัน
เขาพาร่างกายอันอ่อนล้าเกือบจะหมดแรงเคาะประตูบ้านของชาวนาคนหนึ่ง
ชายคนหนึ่งเดินป่าหิวโซมาหลายวัน
เขาพาร่างกายอันอ่อนล้าเกือบจะหมดแรงเคาะประตูบ้านของชาวนาคนหนึ่ง
ชาวนานำหมั่นโถวลูกหนึ่งและน้ำหนึ่งแก้วให้เขากิน เขารอดตาย
เมื่อเขาเดินเข้าไปในบ้านของชาวนา
ปรากฏว่าชาวนาไม่มีอะไรกินเลย นอกจากหมั่นโถวที่เขากินไปเมื่อครู่นี้
เมื่อเขาเดินเข้าไปในบ้านของชาวนา
ปรากฏว่าชาวนาไม่มีอะไรกินเลย นอกจากหมั่นโถวที่เขากินไปเมื่อครู่นี้
เขาซาบซึ้งน้ำใจของชาวนา คุกเข่าขอบคุณที่ชาวนาช่วยเหลือเขาไว้
จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็กลายเป็นคนที่มีจิตสำนึกคุณคน
เขานำเอาความรักความอาทรที่มีอยู่มอบให้คนที่เขาพบเจอและเกื้อกูลผู้คน
จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็กลายเป็นคนที่มีจิตสำนึกคุณคน
เขานำเอาความรักความอาทรที่มีอยู่มอบให้คนที่เขาพบเจอและเกื้อกูลผู้คน
ในขณะเดียวกัน ไม่ว่าชาวนาคนนี้จะทำอะไร
เขาไม่เคยใส่ใจว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเลว เขาทำให้สุดชีวิต
ชาวนาคนนี้สูญสิ้นซึ่งคันฉ่อง เพราะคิดว่าตนเองทำอะไรก็ถูกไปหมด
สุดท้าย ชาวนาก่อเหตุซึ่งมีโทษมหันต์ มีโทษถึงตาย!
เขาไม่เคยใส่ใจว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเลว เขาทำให้สุดชีวิต
ชาวนาคนนี้สูญสิ้นซึ่งคันฉ่อง เพราะคิดว่าตนเองทำอะไรก็ถูกไปหมด
สุดท้าย ชาวนาก่อเหตุซึ่งมีโทษมหันต์ มีโทษถึงตาย!
ภาคสอง
ชายคนหนึ่งเดินป่าหิวโซมาหลายวัน
เขาพาร่างกายอันอ่อนล้าเกือบจะหมดแรงเคาะประตูบ้านของชาวนาคนหนึ่ง
ชายคนหนึ่งเดินป่าหิวโซมาหลายวัน
เขาพาร่างกายอันอ่อนล้าเกือบจะหมดแรงเคาะประตูบ้านของชาวนาคนหนึ่ง
ชาวนานำหมั่นโถวลูกหนึ่งและน้ำหนึ่งแก้วให้เขากิน เขารอดตาย
เมื่อเขาเดินเข้าไปในบ้านของชาวนา
ปรากฏว่าชาวนาไม่มีอะไรกินเลย นอกจากหมั่นโถวที่เขากินไปเมื่อครู่นี้
เมื่อเขาเดินเข้าไปในบ้านของชาวนา
ปรากฏว่าชาวนาไม่มีอะไรกินเลย นอกจากหมั่นโถวที่เขากินไปเมื่อครู่นี้
เขาซาบซึ้งน้ำใจของชาวนา คุกเข่าขอบคุณที่ชาวนาช่วยเหลือเขาไว้
จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็กลายเป็นคนที่มีจิตสำนึกคุณคน
เขานำเอาความรักความอาทรที่มีอยู่มอบให้คนที่เขาพบเจอและเกื้อกูลผู้คน
จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็กลายเป็นคนที่มีจิตสำนึกคุณคน
เขานำเอาความรักความอาทรที่มีอยู่มอบให้คนที่เขาพบเจอและเกื้อกูลผู้คน
แต่ทว่า เมื่อชาวนาคนนี้จะทำอะไร
เขาสนับสนุนในเรื่องที่ดี ทัดทานในเรื่องที่ผิด
ชาวนามานะพากเพียรในการเพาะปลูกไถคราด และเปลี่ยนแปลงแก้ไขอยู่ตลอดเวลา
เขาสนับสนุนในเรื่องที่ดี ทัดทานในเรื่องที่ผิด
ชาวนามานะพากเพียรในการเพาะปลูกไถคราด และเปลี่ยนแปลงแก้ไขอยู่ตลอดเวลา
ทำให้ชาวนาคนนี้เจริญรุ่งเรือง เขาจึงนำสิ่งที่เขามีนั้น แจกจ่ายน้ำใจให้กับผู้คนอย่างกว้างขวาง
…………………………………
…………………………………
ข้อคิดที่ 1
จิตสำนึกคุณที่เป็นมิจฉาย่อมนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ต่างกันไป
จิตสำนึกคุณที่เป็นมิจฉาย่อมนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ต่างกันไป
ข้อคิดที่ 2
สนับสนุนในสิ่งที่เที่ยงตรง
หากรักษาไว้ซึ่งสัมมาดำริได้(ความนึกคิดในทางที่ถูกต้อง) ไม่ว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์เพียงใด ก็จะพยายามแก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเอง
สนับสนุนในสิ่งที่เที่ยงตรง
หากรักษาไว้ซึ่งสัมมาดำริได้(ความนึกคิดในทางที่ถูกต้อง) ไม่ว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์เพียงใด ก็จะพยายามแก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเอง
ข้อคิดที่ 3
ธำรงไว้ซึ่งจิตสำนึกคุณ
ที่จริง หลังจากให้หมั่นโถวและดื่มน้ำแล้ว จงหันหลังเดินเข้าบ้าน ก็คือหนึ่งในจิตสำนึกคุณ
ธำรงไว้ซึ่งจิตสำนึกคุณ
ที่จริง หลังจากให้หมั่นโถวและดื่มน้ำแล้ว จงหันหลังเดินเข้าบ้าน ก็คือหนึ่งในจิตสำนึกคุณ
ขอให้คิดเสียว่าเรามีมากเราจึงควรเกื้อกูลคนอื่น การได้ให้คนอื่นคือความสุข และสำนึกคุณที่เราได้เป็นผู้ให้และมีคนรับ
บางครั้ง ยามที่เราช่วยเหลือคนอื่นนั้น
บางครั้ง ยามที่เราช่วยเหลือคนอื่นนั้น
เรากลับรอให้ใครๆหรือคนรอบข้างกล่าวคำชื่นชมและสรรเสริญ หรือไม่ก็รอคอยว่าเมื่อไหร่ผลแห่งความดีจะตอบสนองเราเสียที เช่นนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการค้าขาย คือหว่านพืชเพื่อหวังผลนั่นเอง
นุสนธิ์บุคส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น