วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เสื้อสอยปะตัวหนึ่ง ♡♡♡♡♡ เสี่ยใหญ่ "จางซาน" ไปท่องเที่ยวที่ชนบท เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ โชคดีที่ไม่หนักหนาสาหัส เขาเพียงผิวถลอก หลังจากนำรถที่เสียหายจากการชน ไปให้อู่ซ่อม เขาฉุกคิดได้ว่า บ้านของคุณพ่อคุณแม่อยู่ใกล้ๆนี้ และนานมากแล้วที่ไม่ได้กลับบ้านเลย ดังนั้น..จางซานจึงได้กลับไปที่บ้าน พักค้างหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นก่อนที่จะกลับ เขายื่นมือไปรับเสื้อ ที่คุณแม่ยื่นมาให้ พบเห็นว่า บนเสื้อที่ได้รับความเสียหาย คุณแม่ได้ใช้เข็มสอยปะให้ละเอียดยิบ อย่างดีแล้ว เขารู้สึกซาบซึ้งเพียงเล็กน้อย เพราะเงินเขามีมากมาย คิดว่าเสื้อตัวนี้เมื่อเขากลับถึงบ้านแล้ว ก็จะทิ้งทันที ทว่า..จางซานงานยุ่งมาก เมื่อกลับไปถึงกลับลืมเรื่องนี้ไป สวมใส่เสื้อที่ผ่านการปะ ปรากฎตัวในสถานที่ต่างๆ อีกทั้งทำการเจรจาธุรกิจ ที่ยืดเยื้อมานานสำเร็จ ยุ่งกับงานจวบจนกระทั่งค่ำ เขาจึงนึกขึ้นมาได้ว่า เสื้อที่เขาสวมใส่อยู่นั้นมีรอยปะ จึงถอดออกมาโยนใส่ถังขยะ เช้าวันรุ่งขึ้น เขากระทำการเซ็นสัญญากับลูกค้า ซึ่งเจรจาธุรกิจสำเร็จเมื่อวาน ลูกค้าถามเขาว่า "เสื้อตัวที่มีรอยปะเมื่อวาน ทำไมวันนี้ ไม่สวมใส่แล้วล่ะ ?" เขาตอบด้วยความกระดากกระเดื่องว่า "ถอดเปลี่ยนไปซักแล้ว" ลูกค้ารายใหญ่ตบไหล่ของเขาแล้วพูดว่า.. "คุณอาจจะไม่รู้น่ะ ที่พวกผมได้เซ็นสัญญากับคุณ ล้วนเป็นเพราะเสื้อที่มีรอยปะของคุณ จากรอยปะเล็กๆ พวกผมสามารถมองดูออกว่า คุณเป็นคนที่บากบั่นความยากลำบาก และเรียบง่าย ไม่มีข้อกังขาเลยว่า คุณเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่สุด " จางซานกลับไปถึงบ้าน รื้อถังขยะนำเสื้อผ้า ที่ผ่านการปะออกมาซักล้าง หลังจากแห้งแล้ว ก็แขวนไว้ในซอกมุมหนึ่งของตู้เสื้อผ้า ซึ่งไม่เป็นที่สะดุดตา คิดว่าอาจจะมีโอกาสอื่นอีก ที่ต้องสวมใส่ หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป เช้าวันหนึ่ง...จางซานกำลังจะออกไปทำงาน มีตำรวจสองนายมาหาเขา ที่แท้คืนวันหนึ่ง ของสัปดาห์ก่อน เสี่ยใหญ่อีกคนถูกจับเรียกค่าไถ่ อีกทั้งได้ฉีกสัญญาต่อรอง เสี่ยผู้นั้น ถูกฆ่าทิ้ง แต่ผู้ร้ายถูกจับได้ทันควัน เมื่อสอบสวนผู้ร้าย พวกเขาสารภาพว่า แท้จริงแล้วก่อนหน้าพวกเขาคิดจะจับ จางซานเพื่อเรียกค่าไถ่ ดังนั้น ตำรวจมาวันนี้เพื่อแจ้งเตือนจางซาน ให้ระมัดระวัง จางซานตื่นตกใจมาก ถามตำรวจว่า "แล้วทำไมสุดท้ายแล้ว พวกโจรถึงไม่จับผม เพื่อเรียกค่าไถ่ล่ะ ?" ตำรวจตอบว่า "เป็นเพราะวันนั้นเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ มีรอยปะ ผู้ร้ายเห็นรอยปะบนเสื้อผ้า คาดคะเนว่า คุณไม่ได้ร่ำรวยตามคำเล่าลือ เพราะว่าผู้ร่ำรวยที่แท้จริง จะไม่สวมใส่เสื้อผ้า ที่มีรอยปะ " เวลานั้น จางซานเกิดความโศกเศร้ามากมาย คาดคิดไม่ถึงว่า รอยสอยปะรอยหนึ่ง กลับช่วยชีวิตหนึ่งของเขาไว้ หลังจากที่ตำรวจกลับไปแล้ว จางซานเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อปะตัวนั้นออกมา ลูบคล่ำรอยปะที่สอยปะแต่ละเข็ม ด้วยความละเอียดยิบ แล้วร่ำร้องไห้ คล้ายดั่งเด็กน้อยคนหนึ่ง * หากไม่ใช่ร่องรอยการสอยปะบนเสื้อ จากน้ำมือคุณแม่ เขา..เขา.. เขาแทบจะลืมความรักของพ่อแม่ เป็นเพราะยุ่งแต่กับงาน เป็นเพราะมีเงิน ยุ่งกับการเพื่อให้ได้มาของเงิน เหตุผลที่ดีที่สุด ในการลืมพ่อแม่ ดังนั้น ยามที่พ่อแม่แก่ชราแล้ว คำพูดที่ได้ยินบ่อยที่สุด คือ ลูกที่ซื่อๆ จะกตัญญูที่สุด จงจดจำไว้ว่า ผู้ที่กตัญญู ต่อพ่อแม่ จึงจะเป็นผู้ที่มีโชควาสนาที่ดี * Cr.line:healt&beauty Cr. จันทร์จิรา ขาวเขียว

เสื้อสอยปะตัวหนึ่ง ♡♡♡♡♡

เสี่ยใหญ่ "จางซาน" ไปท่องเที่ยวที่ชนบท
เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์
โชคดีที่ไม่หนักหนาสาหัส เขาเพียงผิวถลอก
หลังจากนำรถที่เสียหายจากการชน
ไปให้อู่ซ่อม เขาฉุกคิดได้ว่า
บ้านของคุณพ่อคุณแม่อยู่ใกล้ๆนี้
และนานมากแล้วที่ไม่ได้กลับบ้านเลย

ดังนั้น..จางซานจึงได้กลับไปที่บ้าน
พักค้างหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นก่อนที่จะกลับ
เขายื่นมือไปรับเสื้อ ที่คุณแม่ยื่นมาให้
พบเห็นว่า บนเสื้อที่ได้รับความเสียหาย
คุณแม่ได้ใช้เข็มสอยปะให้ละเอียดยิบ
อย่างดีแล้ว เขารู้สึกซาบซึ้งเพียงเล็กน้อย
เพราะเงินเขามีมากมาย คิดว่าเสื้อตัวนี้เมื่อเขากลับถึงบ้านแล้ว ก็จะทิ้งทันที

ทว่า..จางซานงานยุ่งมาก
เมื่อกลับไปถึงกลับลืมเรื่องนี้ไป
สวมใส่เสื้อที่ผ่านการปะ
ปรากฎตัวในสถานที่ต่างๆ
อีกทั้งทำการเจรจาธุรกิจ ที่ยืดเยื้อมานานสำเร็จ  ยุ่งกับงานจวบจนกระทั่งค่ำ เขาจึงนึกขึ้นมาได้ว่า  เสื้อที่เขาสวมใส่อยู่นั้นมีรอยปะ
จึงถอดออกมาโยนใส่ถังขยะ

เช้าวันรุ่งขึ้น เขากระทำการเซ็นสัญญากับลูกค้า  ซึ่งเจรจาธุรกิจสำเร็จเมื่อวาน ลูกค้าถามเขาว่า

"เสื้อตัวที่มีรอยปะเมื่อวาน ทำไมวันนี้
ไม่สวมใส่แล้วล่ะ ?"

เขาตอบด้วยความกระดากกระเดื่องว่า

"ถอดเปลี่ยนไปซักแล้ว"

ลูกค้ารายใหญ่ตบไหล่ของเขาแล้วพูดว่า..

"คุณอาจจะไม่รู้น่ะ ที่พวกผมได้เซ็นสัญญากับคุณ  ล้วนเป็นเพราะเสื้อที่มีรอยปะของคุณ
จากรอยปะเล็กๆ พวกผมสามารถมองดูออกว่า  คุณเป็นคนที่บากบั่นความยากลำบาก
และเรียบง่าย ไม่มีข้อกังขาเลยว่า
คุณเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่สุด "

จางซานกลับไปถึงบ้าน รื้อถังขยะนำเสื้อผ้า
ที่ผ่านการปะออกมาซักล้าง หลังจากแห้งแล้ว
ก็แขวนไว้ในซอกมุมหนึ่งของตู้เสื้อผ้า
ซึ่งไม่เป็นที่สะดุดตา คิดว่าอาจจะมีโอกาสอื่นอีก
ที่ต้องสวมใส่

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป

เช้าวันหนึ่ง...จางซานกำลังจะออกไปทำงาน
มีตำรวจสองนายมาหาเขา ที่แท้คืนวันหนึ่ง
ของสัปดาห์ก่อน เสี่ยใหญ่อีกคนถูกจับเรียกค่าไถ่  อีกทั้งได้ฉีกสัญญาต่อรอง
เสี่ยผู้นั้น ถูกฆ่าทิ้ง แต่ผู้ร้ายถูกจับได้ทันควัน

เมื่อสอบสวนผู้ร้าย พวกเขาสารภาพว่า
แท้จริงแล้วก่อนหน้าพวกเขาคิดจะจับ
จางซานเพื่อเรียกค่าไถ่
ดังนั้น ตำรวจมาวันนี้เพื่อแจ้งเตือนจางซาน
ให้ระมัดระวัง จางซานตื่นตกใจมาก
ถามตำรวจว่า

"แล้วทำไมสุดท้ายแล้ว พวกโจรถึงไม่จับผม
เพื่อเรียกค่าไถ่ล่ะ ?"

ตำรวจตอบว่า

"เป็นเพราะวันนั้นเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่
มีรอยปะ ผู้ร้ายเห็นรอยปะบนเสื้อผ้า
คาดคะเนว่า คุณไม่ได้ร่ำรวยตามคำเล่าลือ
เพราะว่าผู้ร่ำรวยที่แท้จริง จะไม่สวมใส่เสื้อผ้า
ที่มีรอยปะ "

เวลานั้น จางซานเกิดความโศกเศร้ามากมาย
คาดคิดไม่ถึงว่า รอยสอยปะรอยหนึ่ง
กลับช่วยชีวิตหนึ่งของเขาไว้
หลังจากที่ตำรวจกลับไปแล้ว
จางซานเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อปะตัวนั้นออกมา
ลูบคล่ำรอยปะที่สอยปะแต่ละเข็ม
ด้วยความละเอียดยิบ แล้วร่ำร้องไห้
คล้ายดั่งเด็กน้อยคนหนึ่ง

* หากไม่ใช่ร่องรอยการสอยปะบนเสื้อ
จากน้ำมือคุณแม่ เขา..เขา..
เขาแทบจะลืมความรักของพ่อแม่
เป็นเพราะยุ่งแต่กับงาน เป็นเพราะมีเงิน
ยุ่งกับการเพื่อให้ได้มาของเงิน เหตุผลที่ดีที่สุด
ในการลืมพ่อแม่ ดังนั้น ยามที่พ่อแม่แก่ชราแล้ว คำพูดที่ได้ยินบ่อยที่สุด คือ ลูกที่ซื่อๆ
จะกตัญญูที่สุด จงจดจำไว้ว่า ผู้ที่กตัญญู
ต่อพ่อแม่ จึงจะเป็นผู้ที่มีโชควาสนาที่ดี *

Cr.line:healt&beauty
Cr. จันทร์จิรา ขาวเขียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น