วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559

บุคคลที่ประสบความสำเร็จ เจมส์ คาเมรอน James Cameron ผู้กำกับระดับออสการ์

เจมส์ คาเมรอน James Cameron ผู้กำกับระดับออสการ์

ยินดีต้อนรับคุณเข้าสู่ dawrung.com ขอให้คุณมีความสุขในการอ่านบทความ ที่มีคุณค่าที่นี่
jame cameron เกิดวันที่ 16 สิงหา ปี 54 นับไปนับมาก็ 55 แล้วครับ คาเมรอนไม่ใช่อเมริกันแต่กำเนิด เพราะเขาเกิดและถือสัญชาติแคนนาดา พ่อเป็นวิศวกรด้านวางระบบและไฟฟ้า มารดาเป็นนางพยาบาลและจิตกร ตอนเด็กๆคาเมรอนเคยให้สัมภาษณ์ว่าในวัยเด็กของเขา ไม่ลำบากแต่ก้ไม่หรูหรา มีชีวิตเรียบง่ายสบายๆ ไม่ยากจนค่นแค้น จึงมีความฝันแบบเด็กๆอยากเป็นพวกจิตกรแบบมารดา
jame cameron เขาผ่านการเรียนที่แคลลิฟอร์เนียร์ และโตรอนโต ต่อมาเขาดร็อปดเรียนไปซะเฉยๆเหมือนกับกำลังหาตัวเองไม่เจอ โดยหยุดเรียนตอนปี 2 ไปทำงานรับจ้างทั่วไป ทั้งขับรถบรรทุกและงานเขียน ระหว่างนั้นก็พยายามเรียนด้าน สเปเชียล เอฟเฟค ด้วยตนเอง จนวันหนึ่งในปี 77 เขาได้มีโอกาสได้ดู STARWARS ของลูคัส เขาบอกกับตัวเองว่า จะสร้างหนังที่ดีเทียบเท่าสตาร์วอร์ให้ได้ ในปีถัดมาเขาสมัครรับทำโมเดลให้กับ Roger Corman Studios ทั้งเก็บเงินซื้อกล้องถ่ายหนังมาลองจับมุมภาพเอง ครีเอทพ์ภาพที่ตนเองอยากได้ เขาทำงานได้ดีจนได้เป้น อาร์ตไดเร็เตอร์ในหนังเรื่องแรก Battle Beyond the Stars (1980)
แล้วก้าวกระโดดของเขาก็มาถึงเมื่อได้มีโอกาสทำงานในการออกแบบเอ็ฟเฟ็กซ์ ในหนังของ จอห์น คาร์เพนเตอร์ เรื่องดัง Escape from New York (1981) และผลงานลำดับต่อๆมาที่เขาเป็นทั้งที่ปรึกษาและออกแบบด้านเทคนิคพิเศษ นั้นต่างสร้างเครดิตให้เขาไล่มาเลยตั้งแต่ Android (1982), Galaxy of Terror (1981) แม้เเต่หนังเล็กๆอย่าง Piranhaและ Piranha II: The Spawning
หลัง จากนั้นสามปี เขานำโปรเจ็คที่คิดไ้ด้โดยบังเอิญ ไปเสนอ ตอนแรกเขากะวางดาราที่หมายตามาเเสดงจากเรื่องปิรันย่า แต่เมื่อต้องมาพบกับ อาร์โนล ชวาสเซเน็กเกอร์ ทุกอย่างที่เขาคิดเปลี่ยนไป นั่นคือเขาเปลี่ยนพล็อตหนังเเละนำอาร์โนลมาแสดงเป็นผู้ร้ายตัวดำเนินเรื่อง แทน
ต่อมา คาเมรอนได้เข้ามาทำหนังเรื่องแรกของเขา คือ The Terminator ในปี 1984 ครับ เดิมทีเขาไม่ได้ตั้งใจมากำกับเพราะเเค่ทำร่างคร่าวๆถึงฉากมุมกล้อง สกรีนเพล์ ไว้เพื่อขายต่อเท่านั้น เเต่ต่อมาเมื่อ โออีรอน สตูดิโอและ Gale Anne Hurd เข้ามายื่นโอกาสสำคัญในชีวิตให้เขา(ซึ่งต่อมาคือภรรยาของเขา) ในการกำกับหนังเรื่องนี้เเละพบกับ อาโนล ชวาสเซเน็กเกอร์ ทำให้เขาเข้ามาทำหนังที่ทุนสร้างเพียง 5 ล้านเหรียญ แต่ทำเงินไปถึง เกือบ ๆ 80 ล้านในสมัยนั้นแถมด้วยกลายเป็นภาคต่อที่ทรงคุณค่าและมีการซื้อขายที่แพงหลุด โลก หลังการล่มสลายของ Mario Kassar แห่ง Carolco Pictures ในสมัยหลังภาคสอง
ผลงานเขียนและกำกับของเขาเช่น ฅนเหล็ก 2029 และ ไททานิก ที่ขึ้นแท่นภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดอันดับหนึ่งตลอดกาลในปี ค.ศ 1997 จนถึงปัจจุบันนี้ผลงานการกำกับของเขามียอดรวมราว 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปรับรายได้ตามอัตราเงินเฟ้อ หลังจากมีผลงานภาพยนตร์หลายเรื่อง แคเมรอนเน้นการทำงานด้านการผลิตสารคดีและระบบกล้องฟิวชันดิจิตอล 3 มิติ เขากลับมาทำผลงานภาพยนตร์อีกครั้งในรอบ 12 ปี ในผลงานเรื่อง อวตาร ที่ใช้เทคโนโลยีระบบกล้องฟิวชัน ภาพยนตร์ฉายวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 2009 และอีกเช่นเดียวกันภาพยนตร์เรื่อง อวตาร ได้ทำลายสถิติภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของไททานิก ที่สร้างโดยเขาเอง ซึ่งครองสถิติมายาวนานถึง 12 ปี ลงอีกเช่นกัน
เจมส์ แคเมรอน เป็นผู้ริเริ่มสร้างภาพยนตร์ 3Dเป็น คนแรก โดยเล็งเห็นว่าจะได้อรรถรถในการรับชมมากขึ้นพร้อมกันค่าตั๋วภาพยนตร์ที่จะทำ รายได้ได้มากขึ้น โดยเขาเคร่งครัดและกล่าวไว้ว่า “ภาพยนตร์ 3 มิติควรจะเป็นสิ่งที่สามารถสร้างได้กับเฉพาะภาพยนตร์ในสมัยใหม่หลังปี ค.ศ. 2009 เท่านั้น ไม่ควรนำภาพยนตร์ที่ไม่ได้ผลิตเป็น 3 มิติตั้งแต่แรกมาดัดแปลงให้เป็น 3 มิติอีก เว้นเสียแต่ว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นไม่ได้ผลิตเป็น 3 มิติในช่วงที่เทคโนโลยียังไม่สามารถทำได้” ภาพยนตร์ 3D สุดอลังการอย่าง อวาตาร จึงได้ทำลายสถิติภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของไททานิก
“มุ่งมั่นอยู่กับฝัน และทำมันให้เป็นจริง”
ขอขอบคุณ
http://th.wikipedia.org
http://www.ac108.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น